- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 June 2015 16:58
- Hits: 2839
บล.โนมูระ พัฒนสิน : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาดกรีซกระทบไทยจำกัด : เน้นสะสมหุ้นที่คาด Earning Momentum เด่น (PLANB) และกลุ่ม High Dividend (ADVANC)
Nomura : Key Factors
(+) Currency: ค่าเงินยูโรแข็งค่าสู่ 1.12 EUR/USD สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในยูโรโซน
(+) Int Factor: เฝ้าระวัง MERS หาก 2 กค นี้ไม่มีผู้ป่วยเพิ่ม จะประกาศไทยปลอดเชื้อ
(*) Fund Flow: ต่างชาติซื้อ 8 ลบ., Short Future 4679, ขาย Bond 3 ลบ.
(-) Ex Factor: วันนี้ครบกำหนดการชำระหนี้กรีซต่อ IMF ราว 1.6 พันล้านยูโร
(-) Ex Factor: S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซสู่ CCC- จาก CCC
(-) Bond: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรกรีซ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 386 bps สู่ 14.34%
(-) Commo: ราคาน้ำมันดิบ WTI -2.3% สู่ $58.26/bbl, Brent -1.9% สู่ $62.01/bbl
SET Forward PER 15F: CNS 14.32x vs Cons. 15.34x (LT-Avg 14.0x)
SET Target 15F: CNS Base 1757 pts vs Cons. 1720 pts
Nomura Daily Top Picks: PLANB, ADVANC
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ Sideway-Sideway Up ในกรอบแนวต้าน 1518/1524 จุด และแนวรับ 1502/1495 จุด โดยประเด็นกรีซยังคงเป็นปัจจัยระยะสั้นที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยวันนี้ (30 มิ.ย.) จะเป็นวันครบกำหนดชำระหนี้ต่อ IMF ราว 1.6 พันล้านยูโร ซึ่งหากไม่มี Surprise กรีซคงจะผิดนัดชำระหนี้ในครั้งนี้ กดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลกรีซ 10 ปีพุ่งขึ้นรุนแรงสู่ระดับ 14.34% (+386bps) และขานรับความเสี่ยงที่สถาบันจัดเครดิต S&P ให้โอกาสเกิด Default 50% และปรับลด Rating ลงสู่ CCC- (มุมมองเชิงลบ) จาก CCC แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องดูการตัดสินใจของประชาชนกรีซในการทำประชามติ 5 ก.ค. นี้ ว่าท้ายที่สุดจะยอมรับเงื่อนไขของกลุ่มเจ้าหนี้หรือไม่ ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะบ่งชี้บทสรุปว่ากรีซจะอยู่ในกลุ่มยูโรโซนต่อไปหรือไม่ โดยหากพิจารณาประเด็นความเสี่ยงของการผิดนัดครั้งนี้จะพบว่า ในส่วนของธนาคารยุโรป (ECB) ปัจจุบันหลังพ้นการปรับโครงสร้างและ Hair Cut หนี้ พันธบัตรรัฐบาลกรีซไปในปี 2011 ได้ลดการถือครองพันธบัตรกรีซจาก 1.3 แสนล้านยูโร สู่ระดับต่ำเพียง 3.3 หมื่นล้านยูโรเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น หากกลับมาพิจารณาผลกระทบจากวิกฤติหนี้กรีซที่มีต่อไทย จะพบว่า ในแง่ของการค้าระหว่างไทย-กรีซ คิดเป็นเพียง 0.1%ของ GDP เท่านั้น ส่วนการถือครองสินทรัพย์ของ ธนาคารยุโรป ในไทย ปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 1.8 หมื่นล้านยูโร คิดเป็น 4.3% ของ GDP ซึ่งเกือบน้อยที่สุดในเอเซีย ดังนั้นกรณีความเสี่ยงหากเกิดการ Unwind Position ของสินทรัพย์ธนาคารในยุโรป คาดผลกระทบต่อไทยค่อนข้างจำกัด นอกจากนี้ค่าเงินยูโรล่าสุดที่แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.12 EUR/USD ถือเป็นสัญญาณที่สะท้อนความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของกลุ่มยูโรโซน รวมถึงบทสรุปที่ไม่ว่าจะออกมาในทางใดก็น่าจะเป็นบทสรุปของการแก้ปัญหาที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะหนุนค่าเงินยูโรมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นเป็นลำดับ บวกต่อสินทรพย์เสี่ยงในช่วงถัดไป ดังนั้นปัญหาวิกฤตหนี้กรีซรอบนี้ ไม่น่ารุนแรงเหมือนวิกฤตหนี้ยุโรปปี 2011 ที่กดดันตลาดเอเซียปรับฐานไปราว 13.2% และ SET ปรับฐานไปถึง 14% (ช่วง summer 2012 ราว 24 วันทำการ) พร้อมทั้งกดดันเงินไหลออกจากเอเซียราว 1หมื่นล้านเหรียญฯ จากภาพดังกล่าว CNS ประเมิน Downside ประเด็นนี้จำกัดที่แนวรับ 1495/1480จุด
Asset allocation : หุ้น 80% ทองคำ 2.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%
Short-Term Strategy : คาดผลกระทบจากวิกฤตกรีซต่อไทยจำกัด กลุ่มเล่นรอบยังเน้นย่อซื้อ-ดีดตัวขาย ส่วนนักลงทุนแนะนำทยอยสะสมหุ้น Top Picks เดือน กค 2015 AGE, SPA, PLANB, DEMCO, IRPC, TVT และ Earning Momentum เด่น (PLANB, CBG, SPA), High Dividend (ADVANC, INTUCH) ผสานกับกลุ่มที่คาดผ่านจุดต่ำสุดแล้ว (TVT, WORK, LPN, CPF, ROBINS) ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะสะสมหุ้น Top Picks 3Q15 SCC, KBANK, CK, TVT, LPN, ROBINS สำหรับวันนี้แนะนำ *Daily Top Picks PLANB, ADVANC*
*** ปัจจุบันจากผลต่างของ SET50 กับ S50U15 ที่ห่างกันถึง 22.2 จุด ดังนั้นจึงแนะนำ กลยุทธ์Arbitrage Strategy โดย Short Sale TDEX 19,700 หุ้น พร้อมทั้งเปิด Long S50U15 ต่อ 1 สัญญา
Mid-Long Term Strategy : คาด SET ฟื้นตัว สู่ต้าน 1550/1575จุด ในเดือน มิ.ย. 2015 โดยกลุ่มที่จะสลับมานำตลาดแทนพลังงาน ในเดือน มิ.ย. 2015 คือ BANK(SCB, KBANK) หลัง Valuation เชิงพื้นฐาน PBV -0.5SD ดึงดูดการลงทุน ผสาน ICT (ADVANC, INTUCH) ใน Theme ดอกเบี้ยต่ำ และแนวโน้มกำไร 2Q15 เด่น ตามมาด้วยหุ้นที่อิงนโยบายรัฐฯ(AOT, SCC, STEC, CK) เด่น ผสาน 1) Theme Summer Play(ICHI, CBG, MAJOR, MONO, WORK, GRAMMY) 2) กลุ่ม Bottom Play(CPF, CPALL, ROBINS) 3) กลุ่มงาน EPC & ระบบส่งไฟฟ้า(DEMCO, GUNKUL, TRT) 4) Theme ดอกเบี้ยต่ำ(AEONTS, THANI, SIRI) และ Earning Play (SPA, STPI, TTCL) โดยเลือก Portfolio Top picks JUNE 15 SCB, WORK, CBG, SPA, CPF, ROBINS / Dark Horse MONO, PLANB, STPI, TTCL
Investment Theme :
* Summer Play-Beverage: CBG, ICHI
* JUL15 Top Picks : AGE, SPA, PLANB, DEMCO, IRPC, TVT
* 3Q15 Top Picks : KBANK, CK, SCC, LPN, ROBINS, TVT
* 2015 Top Picks : ADVANC, AOT, CPALL, ROBINS, BANPU, KBANK, CK, SCC, LPN, TVT
หุ้นเข้า SET50 : BA, BMCL, CBG, ITD, SAWAD, TPIPL, WHA
หุ้นออก SET50 : BAY, BIGC, BJC, KTIS, SCCC, SPALI, VGI
หุ้นเข้า SET100 : ASP, BA, BEAUTY, CBG, CKP, LHBANK, MONO, S, SAPPE, U, RS, UNIQ, WHA
หุ้นออก SET100 : BAY, BCH, BIGC, BJC, IFEC, KTIS, MEGA, NOK, PTG, SCCC, SIM, STA, THREL
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
PLANB (TP6.9*) : Support 5.5/5.2 Resistant 6.0/6.3
Theme : Digital Transformation
Earning outlook : CNS คาดกำไรสุทธิปี 2015 เติบโตสูงถึง 99% y-y ที่ ระดับ 410.3 ล้านบาท ด้วยอัตราเฉลี่ยในช่วง 3 ปีข้างหน้าที่ 51.7% (CAGR) จากการรับรู้รายได้เต็มปีของโครงการที่เปิดตัวไปในปี 2014 แล้วยังมีรายได้จากอีก 7 โครงการรวมไปถึงรายได้จาก Hello Bangkok (HBK) ที่คาดว่าจะสูงถึง 480 ล้านบาท ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรคาดว่าจะดีขึ้นสอดคล้องกับUtilization ที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Valuation : มูลค่าเหมาะสมปี 2015 อยู่ที่ 6.90 บาท ด้วยวิธี DCF (WACC 9.2%, L-T 4.0%)
Catalyst : CNS คาดผลประกอบการงวด 2Q15 สดใสจากเม็ดเงินโฆษณาที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จากดีล HBK ทำให้ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้เราคาดกำไรสุทธิที่ระดับ 85 ล้านบาท (+62% y-y ,+82% q-q)
ADVANC (TP294*) : Support 234/230 Resistant 242/247
Theme : Dividend Play ในภาวะตลาดผันผวน
Earning outlook : Nomura คาดกำไรสุทธิปี 2Q15F ที่ 9,342 ล้านบาทเติบโต +11%Y-Y, -4% Q-Q เกิดจากความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นตาม i) ผลประโยชน์จาก Regulatory cost saving ที่สูงขึ้น เราคาดสัดส่วนต้นทุนที่จ่ายให้ภาครัฐลดลง ii) อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจขายเครื่องที่ยังเป็นบวกได้ 3% iii) การคุมสัดส่วน SG&A/sale ได้ดีขึ้น เหลือ 12.5%ของรายได้
Valuation : Discounted Cash Flow (DCF) ที่ WACC 8%
Catalyst : โดยเราคาดเงินปันผลงวด 1H15F ที่ 6.2 บาท/หุ้น (~2.7%) หรือทั้งปี 15F อัตราเงินปันผลคาดราว 5.77%/ การประมูล 4G เกิดขึ้นภายในปี 2558