- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 29 June 2015 16:29
- Hits: 1431
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET จะย้อนลบดังนั้นยังน่ารอซื้อต่ำ ส่วนเทรดดิ้งยังต้องไว
กลยุทธ์ : ตัวเลขเศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอ ทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจต่อการฟื้นตัวอยู่ ขณะที่ประเด็นแก้ปัญหาหนี้ของกรีซที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ทำให้เสี่ยงต่อการที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้และนำไปสู่การหลุดออกจากยูโรโซน น่าจะกดดันให้ SET กลับมาปรับตัวลงต่อเนื่องตามที่ FSS คาดได้ ดังนั้นถ้าจะเทรดดิ้งสั้นต่อก็ต้องรอซื้อช่วงลบ โดยยังเน้นทำกำไรไวและจำกัดพอร์ตเช่นเดิม เพราะ SET ยังมีสิทธิไหลลงต่ำได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : PS, BWG, DELTA(buy back)
แนวโน้ม : SET วันศุกร์ที่ผ่านมายังแกว่งตัวผันผวนและมีจังหวะย้อนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจว่าการเจรจาปัญหาหนี้ของกรีซจะประสบความสำเร็จในช่วงสุดสัปดาห์ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่ออกมาก็ยังแสดงอาการอ่อนแอต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปในช่วงค่ำวันศุกร์แม้ว่าจะยังดีดขึ้นมาปิดเป็นบวกได้ แต่หลักๆ ก็เป็นการบวกเพื่อลุ้นข่าวการเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซในช่วงวันเสาร์ ซึ่งผลปรากฎว่าการเจรจาล้มเหลวทำให้กรีซมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหนี้ยังไม่ถึงกับปิดโอกาสของกรีซ โดยยังยอมที่จะพิจารณาข้อเสนอของกรีซใหม่ได้ ถ้ากรีซมีการแก้ไขข้อเสนอเข้ามาซึ่งยังต้องตามดูต่อไป แต่ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดทำการด้วยการปรับตัวลงค่อนข้างแรงพอควร โดยปรับลดลงกว่า 1% เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ FSS คาดว่า SET ก็น่าจะปรับตัวลงต่อด้วยเช่นกัน ก่อนจะลงไปแกว่งทรงตัวแถว 1500 จุดหรือต่ำกว่า เพื่อรอดูท่าทีของกรีซในช่วงต้นสัปดาห์นี้ต่อไป
แนวรับ 1516-1513 , 1506-1500 , 1495-1490 จุด
แนวต้าน 1522-1525 , 1528-1530 จุด
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$137ล้าน เป็นการไหลเข้าทุกประเทศเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 เดือน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าตลาดไต้หวัน US$67.5 ล้าน ตามด้วยเกาหลีใต้ US$23.8ล้าน และเวียดนาม US$21.2 ล้าน รวมสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินทุนไหลเข้ารวม US$382 ล้าน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับหนี้กรีซลดลง แนวโน้มกระแสเงินทุนในวันนี้น่าจะไหลออกหนาแน่น หลังปัญหากรีซประทุอีกรอบทำให้นักลงทุนน่าจะออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าถือดอลลาร์
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) กรีซประกาศมาตรการ Capital control เมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้หลังการเจรจากับเจ้าหนี้สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาล้มเหลว เพื่อหยุด Bank run หลังชาวกรีซแห่ถอนงินมาตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะมีการปิดธนาคารทุกแห่งทั่วประเทศตั้งแต่วันจันทร์จนถึงอย่างน้อยวันที่ 6 ก.ค. หลังผ่านวันลงประชามติ (5 ก.ค.) ว่าประชาชนจะยอมรับแผนปฎิรูปเศรษฐกิจของเจ้าหนี้หรือไม่ ค่าเงินยูโรร่วงทันทีกว่า 1% ส่วน Bond yield ของเยอรมนีและฝรั่งเศสพุ่งขึ้น สวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและ Bond yield ของสหรัฐที่ดิ่งลงกว่า 15 bps กดดันตลาดหุ้นและโภคภัณฑ์ทั่วโลกในวันนี้ ทั้งนี้ ในช่วงปลายปี 2013 ที่ไซปรัสมีประกาศใช้ Capital control ตลาดหุ้นไทยในช่วงดังกล่าวร่วงลงลึกสุด 12% เป็นเวลา 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นรีบาวนด์แรง 16% เกือบ 1 เดือน สำหรับการ panic sell ของตลาดหุ้นไทยในวันนี้จะเปิดโอกาสให้ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นๆ เมื่อตลาดปรับลงแรงเท่านั้น เรามองว่าความเสี่ยงในประเทศเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยต่างประเทศที่เป็นผลกระทบชั่วคราว
(+) ลุ้น Window dressing ถึงสิ้นเดือน สถิติ 5 ปีล่าสุด SET50 ในสัปดาห์สุดท้ายของ 1Q และ 2Q ปรับเพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ย +2.6% และ +1.9% w-w ส่วน 3Q และ 4Q มักปรับลง (เพราะหุ้นมักปรับขึ้นในครึ่งปีหลัง ความจำเป็นในการทำ window dressing จึงแทบไม่มี) หุ้นที่เป็นเป้าถูกทำ window คือตัวใหญ่ๆใน SET50 สำหรับรอบนี้เราคิดว่ามีหุ้น 4 ตัวที่น่าเก็งกำไรได้แก่ SCC, ADVANC, AOT และ PTTEP
(-) ส่งออกทั้งปีน่าจะต่ำกว่าคาดการณ์ของ ธปท. มูลค่าส่งออก พ.ค. -5% Y-Y หดตัวเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน (สินค้าที่หดตัวมากได้แก่สินค้าที่เกี่ยวกับน้ำมัน เพราะราคาเป็นหลัก ส่วนรถยนต์และชิ้นส่วนซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ไม่ช่วย) ทำให้ 5M15 -4.2% Y-Y ธปท.ประเมินส่งออกทั้งปี -1.5% ดังนั้นยอดส่งออก 7 เดือนที่เหลือต้องมีมูลค่าเฉลี่ย US$1.93 หมื่นล้านบาท/เดือน นับว่าท้าทายมากเพราะ 5 เดือนแรกทำได้เฉลี่ยเพียง US$1.77 หมื่นล้าน แม้ 3Q จะเป็น Peak season แต่ราคาน้ำมันและสินค้าเกษตรหลายประเภทต่ำกว่าปีก่อนมาก เราคิดว่าสิ่งที่เป็นไปได้สำหรับส่งออกทั้งปีคือหดตัวประมาณ 3% Y-Y ส่วนเงินบาทที่อ่อนค่ากลับช่วยไม่ได้มากนัก
(0) ภาครัฐต้องเร่งลงทุน เมื่อส่งออกเป็นตัวฉุดเศรษฐกิจมากขึ้น ขณะที่การนำเข้าหดตัวแรง -21% Y-Y, -8% M-M ทุกกลุ่มสินค้า สะท้อนว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นและเปราะบางมาก เราคิดว่าภาครัฐจำเป็นต้องเร่งลงทุนโครงการขนาดใหญ่ใน 2H15 สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมครม. อาจมีการพูดถึงโรงการขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นบวกต่อบรรยากาศการลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมา (CK, ITD, STEC) และวัสดุก่อสร้าง (SCC, SEAFCO, TPIPL)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดทั้งแดนบวกและลบ เนื่องจากตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังการประชุมของยูโรโซนกับกรีซ ที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้
(0) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาส่วนใหญ่ปิดในแดนบวกหลังจากมีรายงานข่าวว่าการประชุมฉุกเฉินมีความเป็นไปได้ที่จะมีการบรรลุข้อตกลง ในการช่วยกรีซต่อไป
(-) สำหรับตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบจากความกังกล ของกรีซ ที่ใกล้ถึงกำหนดการชำระคืนหนี้ภายในสิ้นเดือนนี้
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกข้างอ่อนค่าเล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.82-33.87 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 59.63 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง 0.07 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลของตลาดว่าปริมาณน้ำมันในตลาดจะมากกว่าอุปสงค์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการหารือเพื่อคลี่คลายวิกฤตหนี้กรีซ
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 1,173.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.4 เหรียญ/ออนซ์ เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการเจรจาประเด็นหนี้สินของกรีซที่ใกล้ถึงกำหนดเส้นตายในเดือนนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
29 มิ.ย. - ไทย: HPTเริ่มเทรด (ราคา IPO 1 บาท), ตลท.นำ 10 บจ.ไทยโรดโชว์ที่ฮ่องกงและญี่ปุ่น 29 มิ.ย.-3ก.ค.
- สหรัฐ: Pending home sales(พ.ค.)
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
30 มิ.ย. - ไทย: AMATARเริ่มเทรด (ราคา IPO 10 บาท), รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน พ.ค.โดยธปท.
- ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (มิ.ย.)
- สหรัฐ:S&P/CaseShiller Index (เม.ย.),ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
1 ก.ค. - ตลาดหุ้นฮ่องกงและไทยปิดทำการวันนี้
- จีน:Manufacturing & Non-manufacturing PMI (มิ.ย.)
- ญี่ปุ่น: ดัชนี Tankan (2Q15)
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ADP Report) (มิ.ย.ป
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (มิ.ย.)
2 ก.ค. - ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
- อินเดีย:ธนาคารกลาง (RBI)ประชุม
- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA)ประชุม
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research