- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 26 June 2015 16:41
- Hits: 2935
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : กรีซรายวัน
หุ้นแนะนำเทคนิค : RCI TH
Analyst Meeting : SYNEX
หุ้นเด่นรายวัน : NWR LIT MTLS
SET วานนี้ปรับตัวขึ้นตอบรับความคาดหวังการแก้ปัญหาหนี้กรีซในการประชุมรมต.คลังยูโรโซน. รวมถึงการทำ Window dressing ปิดงบ Q2/58 ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,519.47 (+1.21 จุด) Volume 4.1 หมื่นลบ. ทั้งนี้ Foreign Net Sell 373 ลบ. , Net Long TFEX 7,306 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ ความคาดหวังการประชุมแก้ปัญหาหนี้กรีซรอบใหม่ระหว่างเจ้าหนี้และกรีซในวันที่ 27 มิ.ย.
+ การทำ Window dressing สิ้น Q2/58
+/- ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาคละเคล้า การใช้จ่ายของผู้บริโภค +0.9% , รายได้ส่วนบุคคล +0.5% แต่ PMI ภาคบริการร่วงลงสู่ 54.8
+/- Foreign เป็น Net Sell 373 ลบ. แต่ Net Long TFEX 7,306 สัญญา
- กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ทำให้กรีซมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ IMF 1.6 พันล้านยูโรในสัปดาห์หน้า ซึ่ง IMF ยืนยันจะไม่มีการเสนอให้เวลาปลอดหนี้แก่กรีซเป็นเวลา 2 เดือน
ปัจจัยลบการเจรจาแก้ปัญหาหนี้กรีซที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ประกอบกับ Fundflow ต่างชาติพลิกกลับเป็นฝั่ง Net Sell อีกครั้งเป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาดในวันนี้ ดังนั้น SET มีโอกาสย่อตัวลงไปบริเวณ 1,510 จุดก่อนสลับรีบาวด์จากแรงซื้อการทำ Window dressing
กลยุทธ์การลงทุน
SET มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ดังนั้นแนะนำรอซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงอ่อนตัว แบบ Selective buy เช่น
กลุ่มเดินเรือ ( TTA PSL ) ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือนล่าสุด829 จุด
หุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายการทำ Window Dressing เนื่องจาก Underperform SET ได้แก่ กลุ่ม ICT (SAMART) กลุ่ม BANK (KBANK KTB) กลุ่ม MEDIA (RS) และกลุ่มอสังหาฯ (SPALI AP)
Analyst Meeting
SYNEX : ราคาปิด 4.34 บาท
ธุรกิจจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ระบบสารสนเทศ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์
คาดกำไร Q2/58 เติบโตขึ้น QoQ , YoY จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะ Smart phone Huawei ที่บริษัทได้เป็นตัวแทนรายเดียวในไทย และสินค้า Wireless device อีกทั้งบริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้มากจากการปรับกลยุทธ์ partner ทางการตลาด รวมถึงคาดว่าจะมี Exchange gain จากการ Hedging อีกด้วย
ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2558 ไว้ที่ 2.1 หมื่นลบ. +10% YoY จากการขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนมากขึ้น และขยายธุรกิจออกสู่ตลาด Indochina โดยพม่าเริ่มเข้าทำธุรกิจแล้วในส่วน Service center , Distribution และ ICT , กัมพูชาคาดมี Joint venture ใน Q4/58 และในลาวทำ Distribution
แตกไลน์ธุรกิจใหม่เพื่อสร้าง Value ให้กับบริษัท ได้แก่ PRISM ทำธุรกิจ IT System Integrator Services คาดรายได้ปี 58 ที่ 300 ล้านบาท Margin ราว 10% ,ธุรกิจ Financial Services ปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้า grade A ของบริษัท ซึ่งเตรียมจะเข้า IPO ในอีก 2 ปีข้างหน้า และธุรกิจ E-Commerce
หุ้นเด่นรายวัน
NWR : (ราคาปิด 1.96 ซื้อเก็งกำไร)
รับงานประมูลใหม่ เป็น 8 พันล้านบาท จากเดิมแค่ 5 พันล้านบาท โชว์พอร์ตจ่อคิวประมูลพุ่ง 2 หมื่นล้านบาท แถมงานต่างแดนกลุ่มประเทศอาเซียนรอเสียบเพียบ (ที่มา:ทันหุ้น)
เทคนิค: ราคาปรับตัวขึ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันและมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสกลับตัวเป็นขาขึ้น รับ 1.94 / 1.90 ต้าน 2.00 / 2.18 Cut Loss 1.87
LIT : (ราคาปิด 6.40 ซื้อเก็งกำไร)
ประกาศบุกตลาดภาคเอกชนเพิ่มเป็น 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวม เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ มั่นใจยอดสินเชื่อคงค้างปี 2558 พุ่งแตะ 1.1 พันล้านบาท (ที่มา: ทันหุ้น)
เทคนิค: ราคายังคงทรงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน และยังอยู่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้มีโอกาสฟื้นตัว ลักษณะ V-shape รับ 6.36 / 6.26 ต้าน 6.50 / 6.90 Cut Loss 6.00
MTLS : (ราคาปิด 19.50 ซื้อเก็งกำไร เป้า consensus เฉลี่ย 21.30)
ผลประกอบการไตรมาส 2/2558 สุดร้อนแรง หลังยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ส่อแววเติบโตสูงกว่า 50% มั่นใจปีนี้ยอดปล่อยสินเชื่อเข้าเป้า 1.6 หมื่นลบ.ชัวร์ พร้อมลุ้นกำไรสุทธิเติบโตสูงกว่า 30% รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง เล็งรักษาสเปรดให้อยู่ในระดับ 18-19% (ที่มา : ทันหุ้น)
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -75.71 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,890.36 จุด ลดลง 75.71 จุด หรือ -0.42% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,112.19 จุด ลดลง 10.22 จุด หรือ -0.20% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,102.31 จุด ลดลง 6.27 จุด หรือ -0.30%
เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการเจรจาหนี้กรีซอาจจะยืดเยื้อ หลังจากการประชุมระหว่างกรีซและรมว.คลังยูโรโซนซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวานนั้น ที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้
ตลาดน้ำมัน NYMEX : -0.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 57 เซนต์ ปิดที่ 59.7 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบที่สูงเกินไป หลังจากมีรายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.
Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร
บุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์