- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 24 June 2015 15:55
- Hits: 1412
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Speculative Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แม้ว่าจะมีความพยายามไต่ระดับขึ้นยืนเหนือ 1,510 จุด หลังการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ส่งสัญญาณเชิงบวก ตลาดหุ้นเอเชียและยุโรป ตอบรับในเชิงบวก อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังเป็นไปอย่างเปราะบาง เกิดแรงขายปิดความเสี่ยงในช่วงท้ายตลาด กดให้ SET INDEX ปิดลบเล็กน้อย 0.83 จุด มาอยู่ที่ 1,503.23 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,203 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางถึงบวกเป็นวันที่ 2 แม้ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 611 ล้านบาท แต่คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 มากถึง 10,386 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 458 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามการประชุมครม.เศรษฐกิจ วันนี้ หลังนายกฯ เดินทางกลับจากการเข้าร่วมประชุมที่พม่าวานนี้ อาจมีการพิจารณาแผนการลงทุนขนาดใหญ่ตามมา
ติดตามการประชุมผู้นำอียู ต่อแผนการช่วยเหลือกรีซ หากได้ข้อสรุป รัฐสภาเยอรมัน และ กรีซ จะนำไปพิจารณาต่อและลงคะแนนเสียงรับรองแผนดังกล่าว
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 6 พร้อมประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,500-1,510/15 จุด แม้ว่าภาวะการลงทุนจะไร้ปัจจัยใหม่ทั้งด้านบวก และ ลบ ต่อการลงทุน แต่เนื่องด้วยการเข้าสู่เทศกาล Window Dressing ช่วงกลางปี ย่อมทำให้ Downside risk ของ SET INDEX เป็นไปอย่างจำกัด แต่หุ้นหลักในกลุ่ม ธนาคาร / ICT / อสังหาฯ จะยังแข็งแกร่งกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นในช่วงนี้
ขณะที่กลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี จะมีความแข็งแกร่งและขยับขึ้นเด่นกว่าค่าเฉลี่ยของ SET INDEX เพราะผลการดำเนินงานใน 2Q58 มีแนวโน้มเติบโต qoq ด้วยกำไรจากสต็อกน้ำมันดิบเป็นปัจจัยสำคัญ อีกทั้งหุ้นหลักในกลุ่มนี้จะมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เป็นอีกตัวแปรที่ผลักดันราคาหุ้น ทั้งนี้จับตาหุ้นในเครือ PTT และ PTT มีแนวโน้มจ่ายปันผลระหว่างกาลมากกว่าอดีต
สำหรับประเด็นกรีซ และเจ้าหนี้ ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจาต่อเนื่อง แต่บรรยากาศโดยรวมถือว่าเป็นกลางถึงบวก และอาจได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์นี้ ก่อนเส้นตายการชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรที่กรีซต้องจ่ายให้แก่ IMF เราประเมินว่าค่าเงินยูโรมีแนวโน้มทรงตัว และอาจเกิด Sell on Fact หากประกาศแผนการช่วยเหลือกรีซอย่างเป็นทางการได้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะกลับมาแข็งค่าเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.21 น.) Nikkei - Kospi เปิดบวกราว 0.3% ในแต่ละตลาด เมื่อบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกกลับมาเป็นกลางถึงบวกอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนทยอยซื้อเก็งกำไรหุ้นเป้าหมายที่จะมีประเด็นบวกช่วงสั้นนี้ เพราะไปรอขายทำกำไรบริเวณ 1,520/ 1,530 จุด ตามลำดับ"
Top Pick in 2Q15: ITD / TPIPL/ WHA / TASCO
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC
Speculative Buy: IFEC / PTT
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "เก็งกำไร" ได้แก่
1. IFEC : ราคาปิด 13.00 บาท ราคาเหมาะสม 18.00 บาท
a) IFEC จะขึ้นเครื่องหมาย XW ในวันพรุ่งนี้ สัดส่วน 4 หุ้นเดิม ต่อ 1 Warrant อายุ 3 ปี และมีราคาใช้สิทธิหุ้นละ 25.00 บาท หากอิงราคา IFEC ที่ 13.00 บาท จะได้ราคา IFEC-W2 ตามทฤษฎีที่ 2.40 บาท
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังลมแห่งแรกจำนวน 10MW ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ที่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปมากแล้ว หลังสร้างฐานรากเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างประกอบกังหันลมของ Goldwind โดยคาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟ (COD) ได้ภายในเดือน ก.ย.2558
c) คาดหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนจะ Outperform ตลาดในเดือน ก.ค. จากการเปิดประมูลโครงการโซลาร์ฟาร์มของภาครัฐฯ จำนวน 800 MW
d) ฐานกำไรใน 2H58 จะยกตัวขึ้นจากการรับรู้รายได้โครงการโซลาร์ฟาร์มในกัมพูชาแห่งแรกจำนวน 20 MW พร้อมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมแห่งแรกที่ปากพนัง
e) คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +238% yoy เป็น 459 ล้านบาท และ +282% yoy เป็น 1,753 ล้านบาท ในปี 2559
2. PTT : ราคาปิด 357.00 บาท ราคาเหมาะสม 400.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะ Outperform ตลาดในวันนี้ ในทิศทางเดียวกับน้ำมันดิบ NYMEX ที่ไต่ระดับขึ้นเป็น US$61.01/barrel หรือ +1.1% dod เนื่องจากคาดว่าตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่ EIA จะรายงานในวันนี้มีแนวโน้มลดลง 4 แสนบาร์เรลเป็นผลจากความต้องการใช้เชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นเพราะเป็น Driving Season ในสหรัฐฯ
b) คาดกำไรปกติ 2Q58 เติบโตทั้ง yoy และ qoq จากแรงหนุนของธุรกิจโรงกลั่น & ปิโตรเคมีที่จะมีการบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมัน, Spread ธุรกิจปิโตรเคมีปรับตัวขึ้น qoq และค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น yoy และทรงตัว qoq
c) และกำไรสุทธิ 2Q58 จะเติบโตโดดเด่น เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรพิเศษราว 3 พันล้านบาทจากการขายหุ้น BCP ซึ่งอาจส่งผลให้เงินปันผล 1H58 สูงกว่าคาดการณ์ของตลาดได้
d) เชื่อว่าราคาหุ้นยัง Laggard เมื่อเทียบกับการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวขึ้น +28% QTD ใน 2Q58 ขณะที่หุ้น PTT ยังขยับขึ้นเพียง +11% QTD
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียกลับมาขายสุทธิอีกครั้ง US$119 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$102 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเร่งปิดสถานะ Short ใน SET50 Index Futures ต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 611 ล้านบาท และผลักดันให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 16,858 ล้านบาท
แต่ SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 10,386 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 16,406 สัญญา เทียบกับ 6 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 24,736 สัญญา น่าจะเป็นการเร่งปิดสถานะ Short ที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อ S50U15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเล็กน้อยเป็น 13.25 จุด จากวันก่อนหน้า Discount กว้างถึง 14.81 จุด กดให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิลดลงเหลือ 55,924 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 458 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 1,193 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 3,725 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับฐานลงเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ 3.73bps จากวันก่อนหน้าลดลง 2.16bps ผลตอบแทนอายุ 10 ปี ปิดต่ำกว่า 3.00% เป็นวันที่ 5 ปิดที่ 2.957%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 694 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 372 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 กระจุกตัวที่ ADVANC / AOT / PTTGC
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 935 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 2,113 ล้านบาท โดยยังคงเป็นการสะสมในหุ้นหลักกลุ่ม ICT / ขนส่ง เช่นเดิม สรุปภาพ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิสูงสุด 360 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 178 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิ 294 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 439 ล้านบาท กลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 205 ล้านบาท กลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 107 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสดอีกครั้ง 193 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ขายสุทธิ 67 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาเป็นต่ำกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่
ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนพ.ค. หดตัว 1.8% mom หดตัวมากกว่า Bloomberg consensus คาด -0.6% mom และมากกว่าเดือนก่อนหน้า -1.5% mom โดยเป็นการลดลงของคำสั่งซื้อเครื่องบินมากถึง 49% mom
ดัชนีราคาบ้าน เดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.3% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด +0.4% mom แต่เท่ากับเดือนก่อนหน้า 0.3% mom โดยราคาบ้านด้านเหนือตอนกลาง เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งที่สุด 1.4% mom
ดัชนี Flash PMI ภาคการผลิตเดือนมิ.ย. เท่ากับ 53.4 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 54.2 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 53.8 จุด เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2556 โดยภาคการผลิตเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2557
ยอดขายบ้านใหม่ เดือนพ.ค. เท่ากับ 5.46 แสนหลัง สูงกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 5.25 แสนหลัง และเดือนก่อนหน้าที่ 5.34 แสนหลัง ขณะที่ปริมาณบ้านใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่า ส่งผลให้อัตราส่วนยอดขายต่อปริมาณบ้านลดลงเหลือ 4.5 เดือน จากเดือนเม.ย.ที่ 4.6 เดือน
ยุโรป
สถานการณ์ของกรีซ ณ ปัจจุบัน
ECB เพิ่มวงเงินช่วยเหลือผ่านโครงการ ELA ให้แก่ธนาคารพาณิชย์กรีซ เป็นครั้งที่ 3 ในรอบหนึ่งสัปดาห์ ด้วยวงเงิน 1.9 พันล้านยูโร รวมเป็น 8.78 หมื่นล้านยูโร ในการช่วยเหลือผ่านโครงการ ELA
ผู้นำอียูจะประชุมกันในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาถึงเงื่อนไขและแผนการช่วยเหลือกรีซ เพื่อให้เยอรมัน และ กรีซ นำแผนที่สรุปได้ ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาของตนเองและลงคะแนนรับรองแผนดังกล่าว รวมถึงแนวทางการชำระหนี้ของ IMF
IMF จะรับรองแผนการช่วยเหลือกรีซรอบใหม่ หากรัฐสภาเยอรมันเห็นชอบในแผนดังกล่าว ขณะที่เยอรมันเอง ต้องการให้ IMF ประเมินถึงแผนว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด เพราะถือว่า IMF มีความรู้ความชำนาญในด้านนี้
อังกฤษลดการถือหุ้นใน Llyods เหลือต่ำกว่า 17%: ด้วยการขายหุ้นอีก GBP639 ล้าน ของหุ้นใน Lloyds Banking Group Plc ส่งผลให้ทางการถือหุ้นในธนาคารดังกล่าวต่ำกว่า 17% ลดลงจากระดับ 24.9% ณ สิ้นปี 2557 ที่ผ่านมา
ธนาคารกลางฮังการีลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 2 สัปดาห์ลดลงจาก 1.65% เป็น 1.50% สอดคล้องกับที่ Bloomberg consensus คาด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้อีก หากจำเป็น
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
อัตราเงินเฟ้อสิงคโปร์หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7: เดือน พ.ค.หดตัว 0.4% yoy เท่ากับที่ Bloomberg Consensus คาด ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 0.5% yoy นำโดยราคาที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภคที่ลดลง แต่เป็นการเพิ่มขึ้น 0.5% mom ด้าน Core CPI เพิ่มขึ้น 0.1% yoy ต่ำกว่าที่ตลาดที่ 0.4% yoy
ยอดคำสั่งภาคการส่งออกไต้หวันหดตัวแรง: เดือน พ.ค.หดตัว 5.9% yoy เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 4.0% yoy และเป็นการหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 0.1% yoy เป็นผลจากอุปสงค์ในสินค้าแล็ปทอป รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือที่ลดลง ซึ่งรวมไปถึงราคาที่ลดลงจากการแข่งขันที่สูงขึ้น นำโดยคำสั่งจากญี่ปุ่น, จีนและเอเชียที่หดตัว 23.8%, 11.6% และ 5.3% ขณะที่คำสั่งจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 5.2%
ไทย
นายกฯ สั่ง คลัง จัดแถวโครงการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ: นายกรัฐมนตรี สั่งให้กระทรวงการคลังไปดูการใช้เงินของโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศทั้งหมด ว่าโครงไหนจะลงทุนเมื่อไร และจะใช้แหล่งเงินจากไหนบ้าง ซึ่งมีอยู่ 3 ทาง คือ การใช้เงินงบประมาณจากเงินกู้ และจากการร่วมทุนภาครัฐและเอกชน (PPP) เพื่อบริหารให้การลงทุนของภาครัฐมีความต่อเนื่อง การจัดลำดับความสำคัญของโครงการลงทุนขนาดใหญ่จะแบ่งคราวเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงแรกคือการลงทุนที่ดำเนินการอยู่ไปจนถึงมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ช่วงที่สองการลงทุนตั้งแต่หลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนได้รัฐบาลพ้นจากตำแหน่งประมาณปลายปี 2559 สำหรับการลงทุนในช่วงสุดท้าย เป็นการลงทุนที่จะส่งไม้ต่อให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการ ทั้งโครงการที่ดำเนินการแล้ว ก็ต้องดูว่ามีส่วนที่ไม่เสร็จที่ต้องให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการต่อ ก็จะมีความชัดเจนว่าส่วนที่จะทำต่อจะใช้เงินจากแหล่งไหน นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ยังไม่ได้ดำเนินการ แต่มีความจำเป็นต้องทำเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ รัฐบาลปัจจุบันก็สร้างความชัดเจนให้กับรัฐบาลใหม่สานต่อ
ครม.อนุมัติสุวรรณภูมิเฟส 2: ว่าที่ประชุม ครม. มีมติรับทราบรายงานการดำเนินโครงการพัฒนา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 (2554-2559) ปัจจุบันบริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการเตรียมขอบเขตงานและเอกสารประกวดราคาไว้แล้ว รวมทั้งได้ปรับลดกรอบเงินลงทุนลงตามข้อสังเกตของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐลงได้ประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงินเดิม 62,503,214 ล้านบาท ขั้นตอนการประกวดราคาโครงการ จะเริ่ม หลังการประชุมของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ปลายเดือน มิ.ย. หรือต้นเดือน ก.ค. 2558 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ตามแผนที่คาดการณ์ ไว้ช่วงปลายปี 2558 มีแผนการสร้างเสร็จภายในปี 2562 รองรับผู้โดยสาร 60 ล้านคนต่อปี ส่วนโครงการก่อสร้างทางขึ้นลง (Runway) ที่ 3 ของสนามบินสุวรรณภูมิ ระยะทาง 2.9 กิโลเมตร วงเงิน 20,243.106 ล้านบาท เป็นทางวิ่งสำรองเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินระหว่างที่รันเวย์ปัจจุบันอาจจะต้องปิดซ่อมบางช่วง จำเป็นต้องศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม เดือน ก.ค.นี้
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530