- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 19 June 2014 15:03
- Hits: 2670
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แนวรับ 1,470 / 1,463
Technical : แนวรับ 1,470 / 1,463 แนวต้าน 1,483 / 1,495
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTEP แนวรับ 162 / 158 แนวต้าน 166 / 168
หุ้นเด่นรายวัน : TSR FORTH GUNKUL
วันพุธตลาดหุ้นไทยปิดลบ 19.66 จุด เจอแรงขายทำกำไร-ตื่นข่าวลือเก็บภาษี Capital Gain ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,451.36 จุด ลดลง 19.66 จุด(-1.34%) มูลค่าการซื้อขาย 45,764.83 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,731.71 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,447-1.485 แรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในลักษณะของPanic Sellจากปัจจัยข่าว ซึ่ง ตลท.ไม่ได้มีแนวคิดเรื่องเก็บภาษีCapital Gain การประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นของ กนง.เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อแรงซื้อระยะสั้นและการกลับตัวขึ้นของระดับดัชนี ในขณะที่ SET50 ระดับดัชนีไม่สามารถปรับยืน 883 เป็นสัญญาณลบแท่งเทียน แนวโน้มปรับตัวลงทดสอบSMA25วัน 970-969 และเป็นการปิดGAP มีโอกาสกลับตัวขึ้นทางเทคนิค GFM14 เก็งกำไรในกรอบ 19,540-19,840 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,600-19,900
กลยุทธ์ แนวโน้มระยะสั้นคาดการปรับตัวลงเป็นโอกาสของการเข้าซื้อเก็งกำไรเล่นรอบและระยะกลาง หรือการกลับตัวขึ้นผ่านยืน 1,455 จะกลับเป็นสัญญาณซื้อทางเทคนิคคาดแรงซื้อกลับคืนในหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ กลุ่มพลังงาน PTT PTTEP TOP กลุ่มธนาคาร BBL SCB KBANK KTB กลุ่มสื่อสาร ADVANC TRUE รวมทั้งกลุ่มรับเหมาฯที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 2.4 ล้านๆและแหล่งเงินกู้ในการดำเนินโครงการ STEC CK ITD UNIQ กลุ่มพาณิชย์ LOXLEY CPALL หุ้นรายหลักทรัพย์ MONO PF NIPPON BGH ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง
หุ้นแนะนำพิเศษ
PTTEP (ปิด 164.5 ซื้อเป้าปี 57 : 185 บาท) คาดกำไรสุทธิ 2Q57 เพิ่มขึ้น QoQ โดยมีแรงหนุนจากการเริ่มรับรู้รายได้และกำไรจากการเข้าซื้อสินทรัพย์ของ Hess Thailand ในช่วงวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นเราคาดว่าการเข้าซื้อดังกล่าวจะเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมให้กับ PTTEP ใน 2Q57 ประมาณ 8,000 -10,000 BOED หรือมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 1Q57 ประมาณ 3% จาก 298,000 BOED เป็น 308,000 BOED ส่วนทั้งปีคาดกำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 66,484 ล้านบาทเพิ่มขึ้น18%yoy นอกจากนี้เรายังมองว่า PTTEP เป็นบริษัทที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากนโยบายปรับโครงสร้างราคาพลังงานของ คสช.
หุ้นเด่นรายวัน
TSR (ราคา IPO 3.50 บาท) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำ ผ่านระบบการขายตรงแบบชั้นเดียว (Single Level Direct Sales) ในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล รวมถึงในส่วนของภูมิภาค เริ่มซื้อขายในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคหมวดของใช้ในครัวเรือนและสำนักงานวันนี้เป็นวันแรก
FORTH (ราคาปิด 5.55 ซื้อเก็งกำไร) งบ Q2 มีแนวโน้มสดใสจากการรับรู้รายได้งานโทรคมนาคมและธุรกิจตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ โดยอยู่ระหว่างเจรจาเซ็นสัญญารับเหมาติดตั้ง 2-3 ราย รวมทั้งเตรียมนำบริษัทลูกเข้าเทรดใน 3Q57 (ที่มา : ทันหุ้น)
GUNKUL (ปิด 15.90ซื้อเป้าปี 57 : 17.30)แนวโน้มผลประกอบการในระยะยาวยังเติบโตอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ราคาที่ซื้อขายในปัจจุบันยังไม่แพงหากเทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรในอนาคต โดยเราประเมินกำไรปกติในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะเติบโตเฉลี่ยที่ 31% (CAGR) โดยมีแรงหนุนสำคัญมาจากการทยอยรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่มีอยู่กว่า 197 MW
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* PAF/ PDI มีผลบังคับใช้ 19 พ.ค. 57 - 27 มิ.ย. 57
* AJP / APCO / EE มีผลบังคับใช้ 26 พ.ค. - 4 ก.ค. 57
* BMCL / RPC มีผลบังคับใช้ 2 มิ.ย. - 10 ก.ค. 57
* RASA มีผลบังคับใช้ 9 มิ.ย. – 18 ก.ค. 57
* AJD / TFI / TH / TRUE / UV มีผลบังคับใช้ 16 มิ.ย. - 25 ก.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 98.13 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 98.13 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับแถลงการณ์ของ เฟด ที่ยังตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 0-0.25% และตอบรับมุมมองที่เป็นบวกของเฟดว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนผ่านตัวแปรที่สำคัญอาทิ ตลาดแรงงานและตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ทยอยฟื้นตัว โดยปัจจัยบวกทั้งสองบดบังการปรับลดคาดการณ์ GDP ของเฟดที่คาดว่า GDP สหรัฐในปีนี้จะขยายตัวเพียง 2.1-2.3% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมี.ค.ที่ระดับ 2.8-3% ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 98.13 จุด หรือ +0.58% ปิดที่ 16,906.62 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 25.61 จุด หรือ +0.59% ปิดที่ 4,362.84 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 14.99 จุด หรือ +0.77%ปิดที่ 1,956.98 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 39 เซนต์
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 39 เซนต์ นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลต่อความต้องการพลังงานในสหรัฐ หลัง สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA)รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดย EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 มิ.ย. ลดลง 579,000 บาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบลดลงเพียงเล็กน้อยเพราะยังมีแรงหนุนจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิรัก โดยล่าสุดมีรายงานว่า กลุ่มหัวรุนแรงนิกายสุหนี่ได้โจมตีโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไบจิ จังหวัดซาลาฮูดินของอิรัก ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 39 เซนต์ ปิดที่ 105.97 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ ปิดที่ 114.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst – ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
