- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 11 June 2015 22:19
- Hits: 1297
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ผันผวนเชิงบวก
เราคาดว่าตลาดไทยวันนี้มีโอกาสรีบาวด์ได้ต่อ เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเริ่มเก็งกำไรประเด็นการชำระหนี้ของกรีซที่น่าจะมีข้อสรุปได้ในเร็วๆนี้ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อ ส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และตลาดยังคงตอบรับเชิงบวกต่อการตัดสินใจคงดอกเบี้ยของ กนง.เมื่อวานนี้ซึ่งน่าจะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มแบงก์ได้ต่อ
แนวรับ/แนวต้าน : 1500/1520
กลยุทธ์ : ช่วงนี้นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากการฟื้นตัวของการส่งออกและเศรษฐกิจไทยยังไม่มีความแน่นอน แนะนำรอจังหวะดัชนีเมื่อย่อลง เก็บหุ้นกลุ่มพลังงาน สื่อสารที่ให้ปันผลสูงตลอดจนกลุ่มโรงพยาบาลและท่องเที่ยวที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่า
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
นักลงทุนระยะสั้น : DEMCO(16), KTB(27)
นักลงทุนระยะยาว : SEAFCO(13.50), CENTEL(45)
จับข่าวมาเก็งกำไร
STEC : ทั้งที่คาดหมายว่าผลประกอบการจะอ่อนแอในปีนี้ การเปิดประมูลโครงการเมกะโปรเจกต์ในครึ่งหลังปี 2558 จะสนับสนุนราคาหุ้น STEC และจำกัดความเสี่ยงด้านขาลง นักลงทุนควรมองการเติบโตของยอดขายของ STEC และการเติบโตของผลกำไรของบริษัทในปีหน้าเมื่อบริษัทเริ่มทำงานโครงการใหม่ที่รับเหมามาในปีนี้ คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐานที่ 25.00 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
+ มติ "กนง." เอกฉันท์ คงดอกเบี้ย 1.5% รอดูผลการลดครั้งที่ผ่านมา เปิดช่องลดดอกเบี้ยเพิ่ม หากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ลั่นนโยบายยังให้น้ำหนักการเติบโตเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ยอมรับการส่งผ่านครั้งที่ผ่านมาไปยังดอกเบี้ยแบงก์น้อยกว่าคาด ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น ห่วงเศรษฐกิจจีนและเอเชียฉุดส่งออกต่ำคาด มั่นใจไร้ภาวะเงินฝืด ทางด้านมูดี้ส์เตือนความขัดแย้งทางการเมือง-หนี้ครัวเรือนเป็นปัจจัยเสี่ยง ฉุดปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยอ่อนแอ แต่ยังมั่นใจฐานะการเงินการคลังภาครัฐเชื่อเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3% อานิสงส์การ "ใช้จ่าย-ลงทุน" ขณะภาคเอกชนมีผลประกอบการแข็งแกร่ง หลังต้นทุนราคาน้ำมันลด เชื่อไทยยังน่าลงทุนมากสุด ในกลุ่มอาเซียนหลังเปิดเออีซี ส่วน'หม่อมอุ๋ย' เร่งทำมาตรฐานสินค้าไทยป้องกันต่างชาติกีดกัน เน้น 10 กลุ่มผลิตภัณฑ์ อาทิเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ด้านสมอ.ระบุ 7 เดือนจับสินค้าไม่ได้มาตรฐาน 102 ราย พร้อมประสานกรมศุลฯตรวจเข้ม
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,000.40 จุด พุ่งขึ้น 236.36 จุด หรือ +1.33%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) ขณะที่ดัชนี NASDAQ และ S&P 500 ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 1% หลังจากมีสัญญาณในด้านบวกว่า เยอรมนีอาจจะยอมรับเงื่อนไขการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ ซึ่งจะปูทางให้กลุ่มเจ้าหนี้ตัดสินใจให้ความช่วยเหลือกรีซรอบใหม่
- สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือน ก.ค.พุ่งขึ้น 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด