- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 11 June 2015 22:06
- Hits: 1125
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
มีปัจจัยบวกใหม่ที่คาดทำให้ SET บวกได้กว้างขึ้น-เทรดดิ้งต่อ!
กลยุทธ์ : ถึงแม้ว่ายังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แต่ประเด็นการแก้ไข รธน.ฉบับชั่วคราว น่าจะช่วยหนุนความมั่นใจให้นักลงทุนได้มากขึ้น ทำให้ FSS คาดว่ากรอบการรีบาวด์ของ SET ช่วงนี้มีสิทธิที่จะขยับบวกได้กว้างมากกว่าเดิม ดังนั้นเราแนะนำให้ชะลอการขายลดพอร์ตไว้ก่อน และสามารถเลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งต่อเนื่องได้ด้วย
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SMT, VGI, THAI(short)
แนวโน้ม : เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นกว่า 200 จุด พร้อมทั้งการปิดบวกแรงพอควรของตลาดหุ้นยุโรป เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการเจรจาหนี้ของกรีซลงได้บ้าง หลังเยอรมนีแสดงท่าทีว่าจะยอมรับเงื่อนไขการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มเจ้าหนี้ตัดสินใจให้ความช่วยเหลือกรีซรอบใหม่ได้ ส่งผลให้เช้านี้ตลาดหุ้นในเอเชียเปิดบวกได้ดีพอควร แม้ว่าจะไม่ได้บวกแรงเท่ากับตลาดหุ้นฝั่งตะวันตกก็ตาม ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวานนี้ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ดัชนีพลิกกลับมาเคลื่อนไหวเป็นบวกได้ตลอดทั้งวันด้วย โดยเฉพาะหลังจากที่ประชุม กนง. ตัดสินใจชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้แรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่เริ่มน้อยลงบ้าง ประกอบกับมีข่าวการแก้ไข รธน.ฉบับชั่วคราว เปิดช่องให้รัฐบาลปัจจุบันสามารถสรรหาบุคคลที่มีความสามารถด้านเศรษฐกิจเข้ามาช่วยบริหารประเทศได้ ทำให้นักลงทุนมีความคาดหวังเชิงบวกมากขึ้นกับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงต่อจากนี้อีกครั้ง ดังนั้น FSS คาดว่า SET ยังมีลุ้นจังหวะแกว่งบวกต่อเนื่องได้อีก
แนวรับ 1500-1496 , 1493-1490 จุด
แนวต้าน 1506-1508 , 1510-1513 , 1520-1525 จุด
Fund Flow เมื่อวานนี้กระแสเงินทุนไหลออกภูมิภาคหนักมากขึ้น นำโดยเกาหลีใต้ US$220.6ล้าน ไต้หวัน US$89.2ล้าน และกลุ่ม TIP ทุกประเทศราว US$92ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนยังไหลออก เพื่อรอผลการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) S&P ลดอันดับเครดิตกรีซลงสู่ CCC จากเดิม CCC+ ซึ่งเป็นระดับขยะ และให้ Outlook เป็น Negative เตือนว่ากรีซอาจไม่สามารถชำระหนี้ได้ใน 12 เดือนข้างหน้า ในส่วนของ Moody’s และ Fitch ให้เครดิตกรีซเป็น Caa2 และ CCC ซึ่งเป็นระดับขยะอยู่แล้ว ประเด็นกรีซน่าจะยังอยู่ในตลาดหุ้นอีกระยะใหญ่ แต่น้ำหนักต่อตลาดจะลดลงเรื่อยๆ
(+) การเมืองเปิดโอกาสให้เทรดดิ้งระยะสั้นได้ การแก้ไขมาตรา 8 ของรธน.ชั่วคราว เรื่องลักษณะต้องห้ามของสนช.ที่เดิมระบุว่าต้องไม่เคยถูกตัดสิทธิทางการเมือง สามารถเข้ามาเป็นสนช.หรือครม.ได้ จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเปิดทางให้ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้ามามีบทบาทในทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ ตลาดหุ้นน่าจะตอบรับเป็นบวกกับประเด็นนี้และเปิดโอกาสสำหรับการเทรดดิ้งระยะสั้น ในขณะเดียวกันการแก้รธน.อาจเปิดช่องให้คสช.อยู่ยาว ประเด็นการเมืองจึงยังทำให้ตลาดหุ้นผันผวน SET ปัจจุบันคิดเป็น Forward PE 15.5 เท่าแม้จะลดลงจากต้นปีที่ 16.4 เท่าแต่ยังไม่ถูกจนถึงระดับที่ ‘ลงทุน’ ได้
(0) ยอด Presales กลุ่มที่อยู่อาศัยงวด 5M15 เพิ่ม 29% Y-Y เป็นขายที่ดีขึ้นทั้งบ้านแนวราบซึ่งยังเติบโตได้สม่ำเสมอ และคอนโดซึ่งในปีนี้เปิดโครงการมากขึ้นกว่าปีก่อนที่มีชุมนุมทางการเมือง และยอด Presales 5M15 คิดเป็น 33% ของเป้าทั้งปีของปีนี้ ยังไม่คึกคักนักแต่มีโอกาสเร่งตัวในช่วงครึ่งหลังเพราะหลายบริษัทมีแผนเปิดโครงการใน 2H15 สำหรับกำไรใน 2Q15 มีแนวโน้มดีขึ้น Q-Q เพราะมีคอนโดครบกำหนดโอนมากขึ้น แต่กำไรน่าจะต่ำลง Y-Y ความท้าทายในปีนี้คือการแปร Presales และ Backlog ให้เป็นรายได้ท่ามกลางกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และการคุมรายจ่าย เรายังคงน้ำหนัก Neutral มีหุ้นเด่นเพียงตัวเดียวคือ QH (ราคาเป้าหมาย 4.10)
(-) KSL เราคาดกำไรสุทธิ 2Q15 (ก.พ.-เม.ย.) เพิ่มขึ้น 14% Q-Q แต่มาจากกำไรตราสารอนุพันธ์และกำไรอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนกำไรจากธุรกิจหลักน่าจะลดลง 18.7% Q-Q และ 50.5% Y-Y จากราคาขายน้ำตาลที่ลดลงมาก แม้การขายไฟฟ้าและเอธานอลในไตรมาสนี้ดีเป็นปกติ แต่ชดเชยไม่ได้ ส่วนแนวโน้มกำไรใน 2H15 น่าจะต่ำกว่าครึ่งปีแรก ทั้งธุรกิจขายไฟฟ้าซึ่งเป็น low season และน้ำตาลซึ่งยิ่งขายมากในช่วง 3Q15 แต่ยิ่งเจ็บตัวเพราะราคาขายลดต่ำลง ส่วนการขายน้ำตาลจากโรงงานที่ลาวและกัมพูชายังขาดทุนต่อเนื่อง เรายังคงคาดกำไรปกติปีนี้ -13% Y-Y ธุรกิจน้ำตาลเป็นตัวฉุดผลประกอบการและปีหน้าก็อาจยังไม่ฟื้น เรายังคงแนะนำขาย ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท
คาดการณ์หุ้นที่ได้เข้าคำนวณ SET50 งวด 1 ก.ค.-31 ธ.ค. 2015 มี 6 ตัวได้แก่ BA, BLA, ITD, SUPER, TPIPL, WHA หุ้นที่คาดเอาออกมี BAY, BJC, KTIS, SPALI, THCOM, VGI ส่วน SET100 หุ้นที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณมี 13 ตัวได้แก่ BA, BEAUTY, BLA, CBG, CKP, LHBANK, MTLS, RS, S, SUPER, U, UNIQ, WHA ส่วนหุ้นที่เอาออกมี BAY, BCH, BJC, DEMCO, KTIS, LOXLEY, MEGA, NOK, PTG, SF, SIM, STA, THREL
(+)ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพลิกมาปิดบวกได้กว่า 200 จุดหลังมีข่าวว่าเยอรมนีอาจยอมรับเงื่อนไขปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
(+)ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้เช่นกันหลังมีข่าวว่า ECB ได้เพิ่มเพดานกู้ฉุกเฉินให้ธนาคารพาณิชย์กูจากธนาคารกลางกรีซ รวมถึงประเด็นบวกที่เยอรมนีอาจยอมรับเงื่อนไขปฏิรูปเศรษฐกิจ
(+)ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ค่อนข้างดีเช่นกันจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใส
(+)ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.53-33.70 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ปิดที่ 61.43 เหรียญ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้คลายความกังวลเรื่องภาวะ Over Supply
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดที่ 1,186.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.0 เหรียญ/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่ารวมถึงแรงซื้อจากสถานการณ์หนี้กรีซที่ยังไม่ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายตัวในช่วง 2 วันนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
11 มิ.ย. - จีน: ยอดค้าปลีก, Industrial production (พ.ค.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (พ.ค.)
12 มิ.ย. - ฟิลิปปินส์:ตลาดหุ้นปิดทำการ วัน Independence Day
- สหรัฐ:Industrial Production (พ.ค.)
- ยูโรโซน:Industrial Production (เม.ย.)
16 มิ.ย. - สหรัฐ: Housing starts, Building permits (พ.ค.)
- ยูโรโซน:ZEW Survey Expectations (มิ.ย.)
17 มิ.ย. - สหรัฐ: FOMCประชุม
- ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
18 มิ.ย. - ไทย: ครบกำหนดที่ ICAOให้กรมการบินพลเรือนของไทยแก้ปัญหาให้เสร็จ
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI)ประชุม
- สหรัฐ:อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
19 มิ.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- ไต้หวัน:ตลาดหุ้นปิดทำการ
- ยูโรโซน:ดุลบัญชีเดินสะพัด (เม.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research