- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 June 2015 17:06
- Hits: 1152
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ปรับขึ้น
ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มขยับขึ้นผ่าน 1500 จุดอีกครั้ง หลังจากที่ย่อลงแรงเมื่อวานนี้ด้วยแรงกดดันจากกลุ่มพลังงานและสื่อสารเป็นหลัก โดยปัจจัยบวกสำคัญวันนี้คือ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นเหนือ 60 เหรียญต่อบาเรลอีกครั้งน่าจะช่วยดันกลุ่มพลังงานขึ้นบ้าง และการที่ MSCI เลื่อนการนำ A shares ของจีนเข้าคำนวณใน MSCI EM จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นอื่นๆในเอเชียรวมถึงตลาดหุ้นไทยในวันนี้ สิ่งสำคัญที่ต้องติดตามคือ การประชุม กนง. โดยเราคาดว่าน่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ซึ่งจะส่งผลบวกต่อกลุ่มแบงก์และช่วยดันดัชนีขึ้นได้
แนวรับ/แนวต้าน : 1480/1500
กลยุทธ์ : ช่วงนี้นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากการฟื้นตัวของการส่งออกและเศรษฐกิจไทยยังไม่มีความแน่นอน แนะนำรอจังหวะดัชนีเมื่อย่อลง เก็บหุ้นกลุ่มพลังงาน สื่อสารที่ให้ปันผลสูงตลอดจนกลุ่มโรงพยาบาลและท่องเที่ยวที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มค่าเงินบาทอ่อนค่า
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
นักลงทุนระยะสั้น : DEMCO(16), KTB(27)
นักลงทุนระยะยาว : SEAFCO(13.50), CENTEL(45)
จับข่าวมาเก็งกำไร
CPF : เราได้ไปเยี่ยมชมกิจการ ซีพีกัมพูชา ช่วงต้นสัปดาห์นี้ โดยเป็นบริษัทย่อยที่ CPF ถือหุ้นทั้งหมด เราคิดว่าบริษัทย่อยนี้มีอนาคตที่สดใสเนื่องจากการเติบโตจะสอดคล้องไปกับการเติบโตของเศรษฐกิจกัมพูชาที่มีค่าเฉลี่ยการเติบโตของ GDP ที่ 7% ต่อปี และเนื่องจากเป็นผู้นำตลาดด้านธุรกิจอาหารสัตว์ และธุรกิจฟาร์มสัตว์ ซีพีกัมพูชา มีแผนที่จะขยายกิจการด้านธุรกิจอาหารให้เติบโตไปกับการขยายตัวของห้างสรรพสินค้าในเมือง คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐานที่ 31.75 บาท (ข่าวหุ้น)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
- "สศค." เล็งปรับลดเป้าจีดีพี หลังประเมินส่งออกไม่ฟื้นตัว จากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้ายังมีแนวโน้มชะลอตัว ด้าน "สแตนชาร์ด" มั่นใจครึ่งปีหลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นจากแรงส่ง 3 ปัจจัย "ลงทุนรัฐ-เอฟดีไอ-ส่งออก" ขณะกรมสรรพากรเตรียมออกมาตรการใบกำกับภาษีชิงรางวัลจูงใจแจก "รถยนต์" เป็นรางวัลที่หนึ่ง หวังกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ ขณะที่ยอดจัดเก็บ 8 เดือนของปีงบประมาณพลาดเป้า 1 แสนล้าน ทางด้านศูนย์วิจัยทองคำ มองทิศทางครึ่งปีหลังผันผวนลดลง หลังแรงกดดันขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐเกิดขึ้นไม่เร็ว มองกรอบทองคำยังอยู่ที่ 1,100-13,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เชื่อผลตอบแทนทั้งปี ยังเป็นบวก ด้านดัชนีความเชื่อมั่นทองคำร่วง แนะจับตาค่าเงินบาทไทยอ่อนค่า ส่วนเอกชนสวน "รมว.คลัง" ไม่ขยายวงเงินช่วยเอสเอ็มอีค้ำสินเชื่อ หรือรัฐบาลพูดไม่จริงที่ว่า "เศรษฐกิจฟื้น" หนุนนโยบายค่าจ้างเสรีรายพื้นที่ ศูนย์กสิกรไทยชี้ ครัวเรือนไทยระทม ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนดิ่งต่ำสุดรอบ 7 เดือน
ปัจจัยต่างประเทศ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,764.04 จุด ลดลง 2.51 จุด หรือ -0.01%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งซึ่งมีการเปิดเผยล่าสุดนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้นปิดในแดนบวก เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร
- สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือน ก.ค.พุ่งขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันนี้
นักวิเคราะห์ : ยศพณ แสงนิล, CFA Email : [email protected] Tel : 02 659 8154