- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 June 2015 16:46
- Hits: 978
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ MPC Meeting
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้หลุดแนว 1,500 จุด จากแรงกดดันของตลาดหุ้นอื่นๆ ในกลุ่ม TIP จากเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกอย่างหนาแน่น อีกทั้งหุ้นกลุ่มธนาคารถูกขายปิดความเสี่ยงจากการประชุมกนง.วันที่ 10 มิ.ย. และเกิดแรงขายหนาแน่นในช่วงท้ายตลาด อย่าง PTT / SCC / ADVANC เป็นต้น กด SET INDEX ปิดที่ 1,492.32 จุด ลบ 15.96 จุด มูลค่าการซื้อขายขยับขึ้นเป็น 41,147 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางต่อเนื่อง แม้ขายสุทธิตลาดหุ้นไทย 449 ล้านบาท และ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 อีก 7,057 สัญญา แต่กลับซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 1,708 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าเงินบาททรงตัวเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ผลการประชุมกนง.ช่วงก่อนตลาดรอบบ่ายเปิด Bloomberg consensus คาดคงอัตราดอกเบี้ยRP 1 วันที่ 1.50%
ติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติต่อการลงทุนในไทย
MSCI ยังไม่ตัดสินใจเพิ่มตลาดหุ้นจีน A-Share เข้าคำนวณในดัชนี MSCI EM ในรอบนี้ แต่พร้อมพิจารณาระหว่างทางจากนี้
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น "กลาง" วันที่ 51 ทั้งนี้ SET INDEX ที่ปรับฐานลงวานนี้ ด้วยการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ / สถาบัน / พอร์ตโบรกเกอร์ น่าจะเป็นการปิดความเสี่ยงต่อการประชุม กนง. วันนี้ ดังนั้น หาก
หากกนง.คงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ ณ ปัจจุบัน คาดว่าจะเกิด Technical Rebound หลังกลุ่มธนาคารปรับฐานลงไปในวานนี้ SET INDEX มีโอกาสที่จะกลับมายืนเหนือ 1,500 จุด อีกครั้ง
แต่หาก กนง. สร้างความประหลาดใจ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25bps เป็น 1.25% คาด SET INDEX จะซึมตัวลงสู่แนว 1,470-1,480 จุด กดดันด้วยกลุ่มธนาคารแต่จะเป็นไปอย่างจำกัด เพราะกลุ่มธนาคารปรับฐานลงไปแล้ววานนี้
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นหลักในเอเชียเกิดใหม่ ระหว่าง ตลาดหุ้นจีน / TAIEX / KOSPI วันนี้ ตลาด TAIEX / KOSPI น่าจะเกิดการฟื้นตัว หลัง MSCI ประกาศไม่เพิ่ม A-Share ของตลาดหุ้นจีนเข้าในการคำนวณรอบนี้ ทำให้แรงขายจากต่างชาติใน TAIEX / KOSPI น่าจะเริ่มชะลอตัวลง จากประเด็นดังกล่าว และอาจเกิด Technical Rebound ได้
ทั้งปัจจัยภายในและภายนอกที่ยังขาดน้ำหนักเด่นที่ชัดเจนในด้านใดด้านหนึ่ง SET INDEX จึงกลับมาแกว่งในกรอบอีกครั้งระหว่าง 1,470-1,520 จุด ไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะถึงการประชุมเฟดในวันที่ 15-16 มิ.ย. เพื่อประเมินช่วงเวลาที่เฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ภายใต้มูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเฉลี่ย 3.0-4.0 หมื่นล้านบาท/วัน ภาพของความเปราะบางจึงยังคงอยู่กับตลาดหุ้นไทยไปอีกสักพัก
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.20 น.) Nikkei เปิดลบเล็กน้อย ส่วน Kospi ฟื้นตัว หลัง MSCI ไม่ได้เพิ่ม A-Share เข้าในการคำนวณรอบนี้
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนที่ขายทำกำไรรอบสั้นไปก่อนหน้านี้ เราแนะนำให้นักลงทุนกลับมาทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายบริเวณ 1,490 จุดหรือต่ำกว่า" เน้นหุ้นที่มีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัวในช่วงที่เหลือของเดือนนี้ เป็นสำคัญ
Top Pick in 2Q15: ITD / TPIPL/ WHA / TASCO
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP/ IFEC
Speculative Buy: PTTGC / TPIPL
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. PTTGC : ราคาปิด 66.75 บาท ราคาเหมาะสม 70.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะตอบรับเชิงบวก หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ US$60.00/barrel อีกครั้ง เนื่องจาก EIA ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันปี 2558 ของสหรัฐฯขึ้น
b) ทิศทางผลประกอบการ 2Q58 โดดเด่น โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตทั้ง yoy และ qoq เนื่องจาก
I. ค่าการกลั่นทรงตัวในระดับสูง qoq และเพิ่มขึ้น yoy
II. คาดว่าจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน จากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบดูไบ +17% QTD ใน 2Q58 และ
III. ส่วนต่างราคาโอเลฟินส์ปรับตัวขึ้น qoq จากการปิดโรงงานซ่อมบำรุงในภูมิภาค
c) คาดผลประกอบการปี 2558 เติบโต +88.7% yoy เป็น 28,376 ล้านบาท และ Valuation ยังไม่แพง โดยซื้อขายระดับ PER 2558 ที่ 10.6 เท่า และให้ Dividend Yield 4.7%
2. TPIPL : ราคาปิด 2.74 บาท ราคาเหมาะสม 3.40 บาท
a) ราคาหุ้น TPIPL วานนี้ปรับตัวลง -5% เนื่องจากเป็นหุ้น High Beta จึงมีความแกว่งตัวสูงตามภาวะตลาดที่ผันผวน
b) คาดว่าราคาหุ้นมีแนวโน้มดีดกลับได้ เนื่องจากมีปัจจัยบวกรออยู่คือการถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี SET50 ซึ่งจะประกาศในวันที่ 15 หรือ 16 มิ.ย.
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ 2H58 ที่คาดว่าจะโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับ 1H58 เพราะธุรกิจปูนซีเมนต์จะมีทิศทางขยายตัวสูง จากโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ และจะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าขยะอีก 55MW ใน 2H58
d) ยังซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ระดับ PBV 2558 เพียง 0.9 เท่า เทียบกับ SCCC ที่ 4.0 เท่า และ SCC ที่ 3.1 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก US$337 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทิ US$342 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเนื่อง
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 499 ล้านบาท สอดคล้องกับภาพรวมของตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ ที่เงินทุนไหลออก เพียงแต่แรงขายตลาดหุ้นไทยเป็นไปอย่างจำกัด ในเชิงเปรียบเทียบ ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเท่ากับ 10,611 ล้านบาท
และ SET50 Index Futures นักลงทุนต่างชาติคงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 4 เร่งขึ้นเป็น 7,057 สัญญา รวม 4 วันทำการ Short สุทธิ 12,486 สัญญา น่าจะเป็นการเปิดสถานะ Short ต่อเนื่อง กดดันให้ S50M15 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index อีกครั้ง และกว้างถึง 10.08 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 1.00 จุด ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิ มากถึง 54,001 สัญญา
ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้เริ่มกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 1,708 ล้านบาท เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 10,117 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยกลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ผ่าน ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง 1.27bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 4.76bps กดดันให้ผลตอบแทนปิดต่ำกว่า 3.00% อีกครั้ง มาปิดที่ 2.992%Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 1,574 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 456 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 เน้นสะสม AOT / PTTGC
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 823 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 333 ล้านบาท รวม 3 วันทำการ ซื้อสุทธิ 2,551 ล้านบาท ด้วยการเลือกสะสม AOT / PTTGC อย่างโดดเด่น ส่วนกลุ่มธนาคารที่ถูกขายสุทธิต่อเนื่อง แต่ก็เป็นไปอย่างชะลอตัว สรุปภาพรวมได้ดังนี้
1. กลุ่มขนส่ง ซื้อสุทธิสูงสุด 448 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 297 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 74 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารกลับถูกขายสุทธิสูงสุด 128 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 55 ล้านบาท และตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้างขายสุทธิ 61 ล้านบาทจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 259 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตลาดคาดเฟดจะเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปหลังการประชุมเดือนก.ย.: การสำรวจล่าสุดของ Bloomberg consensus วันที่ 5-9 มิ.ย. พบว่า 40% ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ตอบแบบสอบถาม ประเมินว่า เฟดจะเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไปหลังการประชุมเดือนก.ย. หากการจ้างงานไม่เป็นไปตามคาด หรืออัตราเงินเฟ้อไม่สามารถฟื้นตัวได้ ขณะที่ 50% ยังคงคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
ยุโรป
เศรษฐกิจอียูเติบโตเด่นจากภาคการส่งออกและการบริโภค: GDP ใน 1Q58 ของอียู เติบโต 0.4% qoq เท่ากับไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 0.4% qoq และเท่ากับตัวเลขเบื้องต้นที่ประกาศไปก่อนหน้า โดยภาคการบริโภคครัวเรือนเติบโต 0.5% qoq การลงทุน +0.8% qoq และ การส่งออก +0.6% qoq
ดุลการค้าของอังกฤษขาดดุลน้อยกว่าคาด: เดือนเม.ย. ขาดดุล GBP8.6 พันล้าน แคบลงจากเดือนมี.ค.ที่ขาดดุล GBP1.07 หมื่นล้าน เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน ขณะที่ Bloomberg consensus คาดขาดดุล GBP1.0 หมื่นล้าน ทั้งนี้การส่งออกเพิ่มขึ้น 2.8% mom โดยเป็นการส่งออกไปยังนอกกลุ่มอียู เพิ่มขึ้นถึง 4.7% mom
สถานการณ์ของกรีซ ณ ปัจจุบัน
กรีซได้ยื่นแผนงบประมาณ และข้อมูลเพิ่มเติมแก่ EC เพื่อเป็นการยืนยันว่ากรีซยังมีความสามารถในการชำระหนี้ บนแผนดังกล่าวได้ ซึ่ง EC จะพิจารณาอย่างรอบคอบต่อแผนดังกล่าว
รัสเซียหยุดการเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐฯ: ถือเป็นการหยุดการเข้าซื้อครั้งแรกนับตั้งแต่ธนาคารกลางรัสเซียเริ่มเข้าซื้อในเดือนพ.ค. ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิ้ลเริ่มทรงตัวดีขึ้น เทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ในเยอรมันและออสเตรีย: S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคาร Deutsche Bank AG, Commerzbank AG, Erste Group Bank AG และธนาคารอื่นๆ ของเยอรมันและออสเตรีย เนื่องจากรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะลดความช่วยเหลือหากเกิดวิกฤติในอนาคต
จีน
อัตราเงินเฟ้อของจีนออกมาต่ำกว่าคาด:
อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.2% yoy ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด +1.3% yoy และชะลอตัวจากเดือนเม.ย.ที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1.5% yoy และอัตราเงินเฟ้อใน 5M58 ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของทางการที่ 3.0% ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อจากอาหารเพิ่มขึ้น 1.6% yoy ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่ไม่ใช่อาหาร เพิ่มขึ้น 1.0% yoy
ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ค. หดตัว 4.6% yoy เป็นการหดตัวยาวนานกว่า 3 ปี
MSCI ยังไม่เพิ่ม A-Share เข้าคำนวณดัชนีรอบนี้: MSCI คาดว่าจะเพิ่มตลาดหุ้นจีน A-Share เข้าในการคำนวณ MSCI Emerging Market Index หากปัญหาในการถึงการลงทุนได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องของสภาพคล่องของการซื้อขาย ขณะที่จีนได้ขยายเพดานการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศ และการเชื่อมโยงการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นจีน และ ฮั่งเส็ง
เอเชียแปซิฟิก
กองทุนบำเหน็จบำนาญของญี่ปุ่นคาดจะปรับพอร์ตตามเป้าหมายได้ภายใน 1-2 ปี: กองทุน GPIF ขนาดสินทรัพย์ US$1.1 ล้านล้านตั้งเป้าที่จะลดการถือพันธบัตรให้เหลือ 35% จาก ณ สิ้นปี 2557 มีสัดส่วนที่ 43% ลดลงจากสิ้นเดือนก.ย. 2557 ที่ 48% ส่วนสัดส่วนการถือหุ้นตั้งเป้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% จาก ณ สิ้นปีที่สัดส่วนการถือหุ้นในญี่ปุ่น 20% และหุ้นต่างประเทศ 20% ทั้งนี้ GPIF คาดว่าจะปรับพอร์ตได้ตามเป้าหมายภายในปี 2560
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530