- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 June 2015 18:05
- Hits: 1386
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
บทวิจัยตลาดทุนกรุงศรี (Morning Brief Package)
ภาวะตลาดหุ้นวานนี้:
SET แกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการประชุม กนง. ในวันพุธนี้ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดไว้หรือไม่ และมีมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยอย่างไร นอกจากนี้ยังเกิดแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มปตท. หลังปรับขึ้นแรงเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขส่งออกจีนเดือน พ.ค ที่ติดลบ 2.5% Y-Y ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน แต่ก็ดีกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิครั้งแรกในรอบ 7 วันทำการ แต่ยังขายสุทธิในตลาดพันธบัตรและ TFEX
แนวโน้มวันนี้:
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดในช่วงนี้ SET น่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ 1,505 –1,515 จุดและเชื่อว่านักลงทุนทั้งในและต่างประเทศจะยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลประชุมกนง. ในวันพุธนี้ เพื่อกำหนดทิศทางการลงทุนในระยะถัดไป โดยเรามองว่าหาก กนง. คงดอกเบี้ยตามตลาดจะเป็นบวกต่อตลาด และหุ้นกลุ่มธนาคารจะเป็นกลุ่มนำตลาด แต่หากปรับลดดอกเบี้ยจะมองเป็นลบต่อตลาดมาก อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่า กนง. น่าจะคงอัตราดอกเบี้ย กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ “Selective BUY” โดยเข้าเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคาร (Top pick: KBANK) เน้นหุ้นขนาดเล็กที่มีพื้นฐานดีและมี Growth เช่น EPG และ SCN
ปัจจัยที่มีผลกระทบ
ส่งออกจีนยังติดลบ 2.5%Y-Y ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แต่ดีกว่าคาด มูลค่าการส่งออกของจีนเดือน พ.ค. ติดลบ 2.5%Y-Y และนำเข้าลดลง 17.6% Y-Y แม้จะได้เปรียบดุลการค้า แต่การส่งออกลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และการนำเข้าก็ลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันแล้ว ขณะที่ทางการจีนตั้งเป้าส่งออกว่าจะเติบโต 6% ในปีนี้ ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ยาก ประกอบกับค่าเงินหยวนที่แข็งแกร่งว่าเงินสกุลอื่น ทำให้เราคาดว่าเศรษฐกิจจีนยังอยู่ในช่วงขาลงต่อไป และการส่งออกจะยังคงซบเซาไปอีก 4-5 เดือน จะเกิดผลกระทบในเชิงลบต่อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ สินค้าส่งออก 5 อันดับแรกของไทยไปจีน เม็ดพลาสติก มันสำปะหลัง ยางพารา เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ และเคมีภัณฑ์ ดังนั้นแม้หุ้นกลุ่มส่งออกจะได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าแต่ปริมาณการส่งออกจะลดลงตามเศรษฐกิจจีน
คาด กนง. คงดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ที่ระดับ 1.50% หลังปรับลง 2 ครั้งติดต่อกัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าแต่ไม่มากอย่างคาด และต้นทุนทางการเงินปรับลดลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามตลาดคาดว่ากนง. จะยังอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม หาก กนง. คงดอกเบี้ย หุ้นกลุ่มธนาคารมีโอกาสฟื้นตัวเพราะเชื่อว่าดอกเบี้ยน่าจะลงถึงจุดต่ำสุดแล้ว แต่หาก กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งจะเกิดผลลบต่อตลาดหุ้นมากกว่าครั้งที่ผ่านมา ซึ่งก็มีโอกาสเป็นไปได้เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบเป็น 5 เดือนติดต่อกัน การบริโภคภายในที่ชะลอตัวต่อเนื่อง
มูดีส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ 4 แบงก์ไทยหลังปรับวิธีจัดอันดับใหม่ กระทบหุ้นกลุ่มแบงก์เล็กน้อย มูดี้ส์เสร็จสิ้นการทบทวนอันดับเครดิต 4 แบงก์ไทย ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงหลังปรับวิธีจัดอันดับใหม่ โดยเงินเครดิตเงินฝากสกุลบาทของ KBANK SCB ลดลงมาอยู่ที่ Baa1 พร้อมลด หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและ MTN ของ BBL KBANK และ SCB ลดลงสู่ Baa1 และ (P) Baa1 เชื่อไม่กระทบกับแบงก์เพราะถือเป็นการปรับลดเครดิตทางเทคนิคมากกว่าจะเป็นด้านพื้นฐาน นอกจากนี้ก่อนหน้านี้ มูดี้ส์คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทย พร้อมมองเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้น ไม่น่ามีความเสี่ยงถูกหั่นอันดับเครดิตในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า คงจับตาความขัดแย้งทางการเมือง-วินัยการคลัง-ดุลชำระ เงินตัวเสี่ยงฉุดเครดิตในอนาคต