- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 June 2015 17:37
- Hits: 1083
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index : ทดสอบแนวรับ 1495-1500
SET Index : 1500.08 ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นต่างประเทศหลังจากฟื้นตัวเข้าใกล้แนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงระยะสั้นที่ 1510 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง จึงทำให้การปรับตัวลดลงของ SET Index น่าจะอยู่ในกรอบจำกัด และมีแนวรับสำคัญที่ 1495-1500 จุด ซึ่งเราคาดว่า การฟื้นตัวกลับขึ้นมาปิดยืนเหนือระดับ 1500 จุดได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้แนวโน้มของ SET Index ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1520-1525 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1550 จุด
Energy : ปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับที่ 19400 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 19000 โดยมีแนวต้านที่ 20000 และ 20400
Bank : ปรับตัวลดลงหลังจากฟื้นตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 520 และมีแนวรับที่ 515 และ 505 เรายังคงเน้นเข้าซื้อ BAY KBANK SCB BBL และ KTB
AOT = 310 / 314, JAS = 6.00 / 6.10, PTTGC = 66.50 / 67.00, BBL = 179 / 182, PTT = 340 / 344
S50M15:979.50 ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 980 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านที่ 990 และมีแนวต้านของกอรบแนวโน้มขาลงที่ 100% ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มของ S50M15 น่าจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 990 และ 100% ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1020 เราจึงแนะนำให้เน้นการ Open Long ใน S50M15 แต่ถ้าปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่า 978 ลงไป ให้ STOP LOSS สถานะ Long ออกไปก่อน
GFM15:18890 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ 18900 ตามการฟื้นตัวของราคาทองคำ แต่เราแนะนำให้ขายสถานะ Long ใน GFM15 ออกที่บริเวณ 18900 หลังจากราคาทองคำหลุดแนวรับที่ US$1185 ลงไป และแนวโน้มของ GFM15 ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 18600
USDM15:33.81 เราแนะนำให้ Open Short ใน USDM15 ที่แนวต้าน 33.80 และมีแนวรับที่ 33.50 และ 33.40 เป็นจุดขายทำกำไร
TECHNICAL FOLLOW UP : แนวรับ แนวต้าน
SET Index ทดสอบแนวรับสำคัญ 1495-1500 แนวต้าน 1520 1500 / 1495 1505 / 1508
S50M15 ถ้าปิดต่ำกว่า 978 ลงไป ควร STOP LOSS สถานะ Long ออกไปก่อน 978** / 974 984 / 988
GFM15 STOp LOSS สถานะ Long ที่แนวต้าน 18900-18950 18800 / 18750 18900 / 18950
USDM15 Open Short ต่อเนื่องที่แนวต้าน 33.80 แนวรับ 33.50 และ 33.40 33.70 / 33.65 33.80 / 33.84
SAMART ซื้อที่แนวรับ 24.80-25.00 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 27.00 และ 28.00 24.80 / 24.50** 25.50 / 27.00
UAC ซื้อที่แนวรับ 7.50 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 8.00 และ 8.30 7.50 / 7.40** 7.80 / 8.00
CPR Gomu Industrial (CPR TB; THB 5.00) - ซื้อ
แนวต้าน : 5.30 และ 5.50 / แนวต้านสำคัญ 5.80
แนวรับ : 5.00 และ 4.94
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ CPR โดยมีแนวรับที่ 5.00 และ 4.94 และมีแนวต้านที่ 5.30 และ 5.50 เป็นจุดขายทำกำไร แนวต้านสำคัญ 5.80
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.84 ลงไป
Chai Watana Tannery Group (CWT TB; THB 4.62) - ซื้อ
แนวต้าน : 4.90 และ 5.20
แนวรับ : 4.62 และ 4.58
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคมาทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลง ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นน่าจะสามารถทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ฟื้นตัวทดสอบระดับ 50
แนะนำซื้อ CWT โดยมีแนวรับที่ 4.62 และ 4.58 และมีแนวต้านที่ 4.90 และ 5.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.50 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ปัจจัยภายนอกยังทรงๆตัว
สภาพตลาดหุ้นสหรัฐหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีกว่าคาด เริ่มมีการคาดกันว่าทาง FED น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน ก.ย. ผลดังกล่าวทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐและยุโรป เริ่มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ไม่เหมือนช่วงแรกๆ ที่ขยับตัวขึ้นเร็ว จนทำให้เกิดแรงขายหุ้นทั่วโลก หากมาดูมุมองของตลาดหุ้นสหรัฐตอนนี้ผ่าน ความรู้สึกของนักลงทุนรายย่อยของสหรัฐ (America Association of Individual Investor) หรือ AAII พบว่า มุมมองของตลาดหุ้นยังเป็น Neutral อีก 6 เดือนข้างหน้าโดยมีสัดส่วน 48% หรือมากกว่า 45% เป็นสัปดาห์ที่ 9 ยาวสุดในรอบ 28 ปี ส่วนสัญญาณ Bullish อยู่ที่ 27% ขณะที่ Bearish อยู่ที่ 25% โดยสัญญาณ Bullish อยู่ต่ำกว่า 30% มา 5 สัปดาห์ ยาวสุดนับตั้งแต่ปี 2003 (ดูจากรูปด้านซ้าย)
สัญญาณที่เกิดในมุมมองของรายย่อยในสหรัฐ น่าจะยังไม่ส่งผลอะไรกับตลาดหุ้นทั่วโลก เว้นแต่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจทำให้ตลาดผันผวนแรง แต่เมื่อดูๆเหตุการณ์ในตอนนี้ แทบมองไม่เห็น ดังนั้นเราจึงมองว่าตอนนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ จะแกว่งในกรอบแคบ คือ 18000+/- จุดต่อไปจนกว่าผลดำเนินงาน Q2/15 จะทยอยประกาศ หาก Outlook ตลาดหุ้นสหรัฐยังเป็น Neutral ตลาดหุ้นอื่นๆก็น่าจะไม่ต่างกันเพียงแต่อาจจะมีมุมมองในการประเมินความถูกความแพงของแต่ละตลาด ที่อาจจะมีการโยกย้ายเม็ดเงิน สำหรับตลาดหุ้นอาเซียน แม้จะยังไม่มีเม็ดเงินไหลเข้า แต่ความน่าสนใจเริ่มปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ หลังหลายประเทศมีการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการเงินและคลัง แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังดำเนินไปอย่างช้าๆ จากแรงกดของหนี้ภาคครัวเรือนต่อ GDP ของภูมิภาคสูงมาก การส่งออกอิงกับเศรษฐกิจจีนและการตกต่ำของสินค้าเกษตร
กลุ่มอุตสาหกรรมที่กำลังมีสัญญาณการฟื้นตัวตามลำดับ คือ กลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะในส่วนของผู้ผลิตน้ำมันเบนซิน จากสาเหตุต้นทุนน้ำมันดิบทรงตัวในระดับต่ำและที่สำคัญปริมาณความต้องการใช้เพิ่มขึ้นในจีน (รถยนต์) อินเดีย (เน้นนโยบายกระตุ้นภาคอุตสาหกรรม) ส่งผลให้มาร์จินส์เพิ่มสูงขึ้น โดยปรับตัวเพิม่ขึ้นมากกว่ามาร์จินส์ของผลิตภัณฑ์อื่นถึง 121% จากต้นปีหรือกล่าวง่ายๆ มาร์จินส์ปรับตัวสูงขึ้นเท่าตัวนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (ดูจากรูปด้านขวา) สถานการณ์ดังกล่าวน่าจะยังดำเนินต่อไปในช่วงฤดูร้อนนี้ ซึ่งจะส่งผลดีกับโรงกลั่นที่ผลิตเบนซินในสัดส่วนที่สูง อย่าง ESSO TOP และ IRPC
ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ น่าจะเริ่มยืนเหนือ 1500 จุดได้ หลังเริ่มมีแรงซื้อหุ้นใหญ่ในกลุ่มที่น่าสนใจอย่าง ธนาคารพาณิชย์และพลังงาน แต่คาดความผันผวนจะยังมี หากกรีซไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ได้ ส่วนประเด็นที่ทาง ธปท. อาจจะปรับลดประมาณการณ์การเติบโต GDP ในปีนี้ลงอีกในการแถลงในวันที่ 19 มิ.ย. ไม่น่าจะกระทบกับตลาด เพราะอยู่ในความคาดหมายของตลาด โดยประเด็นที่ตลาดจะนำมาใช้เล่นกันหลังจากนี้ คือ ตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนและกลุ่มอุตสาหกรรมที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัว โดยวันนี้คาดดัชนีจะยังผันผวนแต่ไม่มากคือยืนในแดนบวกสลับแดนลบ และยังเล่นกันเหนือ 1500 จุด โดยแนวต้านอยู่ที่ 1512-1517 จุด ส่วนแนวรับที่ 1502-1498 จุด หุ้นที่ยังเล่นเก็งกำไรได้ คือ AOT ขณะที่ CHG มาจากค่า EPS ถูกปรับขึ้นในรายสัปดาห์และเดือนที่ 18.35% และ 18.84%
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,500.08 จุด ลดลง 8.20 จุด (-0.54%) มูลค่าการซื้อขาย 17,690.60 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ติดลบ โดยได้รับแรงกดดันจากกระแสการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่บ้านเรา SET พยายามอยู่ที่ระดับ 1500 จุดในช่วงเช้า ติดตามการประชุมกนง. (พรุ่งนี้)
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดภาคบ่าย ถ้ายืนเหนือ 1500 จุดไม่ได้ จะเกิดสัญญาณขายเล่นรอบออกอีกครั้ง โดยจะมีแนวโน้มลงไปที่ แนวรับ 1480 จุด อีกรอบ แต่ถ้ายังประคองตัวเหนือ 1500 จุดได้ ตลาดก็ยังมีลุ้น ดีดตัวขึ้นต่อได้ ซึ่งอาจจะต้องอาศัยปัจจัยเรื่อง การประชุม กนง. โดยหากผลออกมาว่าไม่ลดดอกเบี้ย จะเกิดแรงซื้อกลับของนักลงทุนต่างชาติ โดยจะยืนยันสัญญาณซื้อทางเทคนิคด้วย ถ้า SET สามารถทะลุ 1508 จุด แล้วยืนได้ ภาพใหญ่ SET จะกลับมาดูดีและจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1525 จุด โดยกรณีนี้ให้ซื้อหุ้นใหญ่ และ หุ้น high beta เช่น กลุ่มธนาคาร รับเหมา พลังงานทดแทน
Fundamental Picks & Technic (PM)...
CPR Gomu Industrial (CpR TB; THB 5.00) - ซื้อ
Chai Watana Tannery Group (CWT TB; THB 4.62) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]