- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 05 June 2015 16:31
- Hits: 1466
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX แกว่งในกรอบแคบ 1,480 จุด +/- ถือว่าแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย และยุโรป ที่ปรับฐานลงแรง จากแรงขายต่างชาติ และกรณีกรีซที่ยังไม่คืบหน้า ทั้งนี้กลุ่มธนาคารและหุ้นหลักในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง / รับเหมาก่อสร้าง กลับขยับขึ้นเด่นในช่วงบ่าย ผลักดันให้ SET INDEX ปิดบวก 8.83 จุด มาอยู่ที่ 1,490.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,487 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติกลับมาเป็นลบอีกครั้ง ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 อีก 1,688 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 865 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ 4,829 ล้านบาท กดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ค่อยข้างมีนัยยะสำคัญวานนี้
ปัจจัยสำคัญวันนี้
การประชุม โอเปคในวันนี้ คาดคงโควต้าการผลิตเช่นเดิม หากเป็นไปตามคาด จะกลายเป็นตัวแปรกดดันราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
ภาวะการจ้างงานของสหรัฐฯ เพราะจะมีผลต่อมุมมองของเฟดต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
กรีซขอเลื่อนการชำระหนี้ IMF ที่ครบกำหนดในเดือนนี้ เป็นครั้งเดียว ขณะที่การเจรจาแผนยังไม่คืบหน้า
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
การประชุม กนง. วันที่ 10 มิ.ย. Bloomberg consensus คาด กนง.คงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนัดนี้
การพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มในวันที่ 10 มิ.ย.
การเคลื่อนไหวของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพื่อประเมินมุมมองของตลาดต่อโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น "กลาง" วันที่ 48 แม้ว่า SET INDEX กลับมาปิดยืนเหนือ 1,490 จุด แต่ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ยังเบาบาง ทำให้เรายังประเมินภาพ SET INDEX ฟื้นตัวช่วงสั้น พร้อมความเปราะบางของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ ภาพของการเกิด Sector Rotation จากกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี เข้าสู่กลุ่มธนาคาร ซึ่งปรับตัวลงมาแรงตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ตามที่ประเมินไว้วานนี้ แนวโน้มดังกล่าวเชื่อว่าจะยังคงอยู่ในวันนี้ โดยหุ้นขนาดกลางในกลุ่มธนาคารมีแนวโน้มฟื้นตัวเด่น ขณะที่กลุ่มพลังงานจะเผชิญแรงขายทำกำไรมากขึ้น เพื่อปิดความเสี่ยงจากการประชุมโอเปคคืนนี้ แนวโน้มจะคงโควต้าการผลิตเช่นเดิม เพราะปริมาณการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสู่ตลาดโลกมาจากการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ทั้งจากการผลิตแบบเดิม และ Shale Oil นอกจากกลุ่มธนาคารแล้ว เราประเมินว่ากลุ่มที่อยู่อาศัยจะฟื้นตัวเด่นต่อเนื่องเช่นกัน
สำหรับ สถานการณ์ในกรีซ ยังไม่มีความคืบหน้า วันนี้หนี้ IMF ครบกำหนด 300 ล้านยูโร จากจำนวนทั้งหมดที่จะครบในเดือนมิ.ย. 1,600 ล้านยูโร กรีซได้ข้อเลื่อนการชำระหนี้วันนี้ออกไปเป็นการรวมยอดของเดือนนี้และชำระเพียงครั้งเดียว เพื่อให้มีเวลาเจรจากับเจ้าหนี้ในช่วงนี้ ซึ่งล่าสุดนายกฯ เยอรมันออกมาให้ความเห็นถึงการเจรจายังไม่มีความคืบหน้า
เรายังคงให้น้ำหนักกับการประชุมกนง.วันที่ 10 มิ.ย. เป็นตัวกำหนดทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติ และภาพรวมของกลุ่มธนาคาร ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus คาด กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วัน ที่ 1.50% หากเป็นไปตามตลาดคาด เชื่อว่ากลุ่มธนาคารจะฟื้นตัวเด่นและดึงให้ SET INDEX มีโอกาสทดสอบ 1,500-1,510 จุดได้ จากแรง Covered Short ของต่างชาติ
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.25 น.) Nikkei - Kospi เปิดลบเล็กน้อย แม้ว่ากรณีกรีซ จะกดดันอยู่บ้าง แต่ถือว่าเป็นปัญหาเฉพาะของอียูเท่านั้น
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนเลือกเก็งกำไรหุ้นเป้าหมาย แบบจำกัดวงเงิน และพร้อมขายทำกำไร เมื่อผลตอบแทน 5% +/- ในแต่ละรอบ" ภายใต้ภาพ SET INDEX ที่ยังมีความเปราะบาง
Top Pick in 2Q15: ITD / TPIPL/ WHA / TASCO
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ WHA/ THAI/ BCP
Speculative Buy: LPN / TMB
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. TMB : ราคาปิด 2.52 บาท ราคาเหมาะสม 3.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะฟื้นตัวต่อเนื่องในวันนี้ หลัง KBANK, SCB ปรับขึ้นนำกลุ่มแล้ววานนี้ จากแรงเก็งกำไรผลการประชุม กนง.ในวันพุธหน้า
b) คาดว่าหากกนง.คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% จะช่วยผ่อนคลายความกังวลต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากจะส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไม่ลดลงมากอย่างที่ตลาดกังวล
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของผลประกอบการใน 2H58 และเชื่อว่ากำไรสุทธิที่ชะลอตัวลง qoq ใน 2Q58 ได้สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว โดย YTD หุ้นกลุ่มธนาคาร -13.3% เทียบกับ SET INDEX -0.5%
d) จุดเด่นของ TMB อยู่ที่การขยายตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตต่อเนื่องในระดับ 10-15% yoy และมี Coverage Ratio สูงถึง 150% รวมทั้งคาดว่า 2Q58 จะเด่นสุด qoq เมื่อเทียบกับหุ้นที่เหลือในกลุ่มธนาคาร
e) และเชื่อว่าแผนการลดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังในบริษัทจดทะเบียนและรัฐวิสาหกิจ อาจเป็นประเด็นเก็งกำไรต่อหุ้น TMB ได้ในอนาคต เนื่องจากราคาปัจจุบันต่ำกว่าต้นทุนของกระทรวงการคลังที่ราว 3.50 บาทต่อหุ้น
2. LPN : ราคาปิด 16.60 บาท ราคาเหมาะสม 20.00 บาท
a) ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง -24.5% YTD เชื่อว่าได้สะท้อนปัจจัยลบต่ออุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลงในปีนี้ไปมากแล้ว
b) มีปัจจัยบวกระยะสั้น คือกำไรสุทธิ 2Q58 ที่คาดว่าจะเติบโตโดดเด่นทั้ง yoy และ qoq จากการรับรู้รายได้โครงการลุมพินีเพลส ศรีนครินทร์หัวหมาก และรัตนาธิเบศร์ และกำไรสุทธิ 3Q58 จะมีทิศทางเติบโต qoq ต่อ และเป็นระดับสูงสุดของปี
c) ยอด Presales 5M58 เท่ากับ 6,672 ล้านบาท คิดเป็น 33% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 20,000 ล้านบาท (+17% yoy) และมีจุดเด่นคือประมาณการรายได้ปี 2558 มี Backlog รองรับแล้วถึง 90%
d) คาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +38.7% yoy เป็น 2,804 ล้านบาท และเชื่อว่า Downside Risk ค่อนข้างจำกัดแล้ว เนื่องจากซื้อขายระดับ PER 2558 ที่ 8.7 เท่า และให้ Dividend Yield 5.7%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิเป็นวันที่ 4 อีก US$149 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$197 ล้าน
ทั้งนี้เงินทุนเริ่มย้ายออกจาก TAIEX เข้า KOSPI ค่อนข้างโดดเด่น
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติลดการลงทุนใน 3 ตลาดพร้อมกันอีกครั้ง
แม้ว่านักลงทุนต่างชาติคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 อีก 1,688 ล้านบาท รวม 6 วันทำการขายสุทธิ 5,973 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 7,310 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเท่ากับ 9,377 ล้านบาท
SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมา Short สุทธิ 865 สัญญา คาดว่าเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Short อีกครั้ง เมื่อ S50M15 คงปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 8 แคบลงเหลือ 4.86 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 9.63 จุด ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะเป็น Short สุทธิเท่ากับ 42,380 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิหนาแน่นอีกครั้ง 4,829 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลงแรงเช่นกัน โดยลดลงเป็นวันที่ 3 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเร่งขึ้นเป็น 12.58bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 6.43bps ปิดล่าสุดที่ 2.971%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 1,311 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 896 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิอีกครั้ง แต่ก็เพียงเล็กน้อย เป็นการปรับน้ำหนักระหว่างกลุ่มหลักเป็นสำคัญ
การซื้อขายผ่าน NVDR ขายสุทธิเพียง 34 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 382 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการปรับน้ำหนักระหว่างกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารและกลุ่มอสังหาฯ ที่ลงมาแรงในก่อนหน้า สรุปได้ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 102 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 131 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 101 ล้านบาท กลุ่มโรงพยาบาล ซื้อสุทธิ 69 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 91 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มพลังงาน ถูกขายสุทธิสูงสุด 337 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
IMF ขอให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเป็น 1H59: หลัง IMF ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลงถึง 2 ครั้งภายใน 3 เดือน เมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าและสูงกว่ามูลค่าพื้นฐานเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะแข็.ค่าขึ้นไปอีก จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งนี้เฟดควรจะเลื่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปจนดว่าอัตราเงินเฟ้อจะส่งสัญญาณที่ดีกว่า ณ ปัจจุบัน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เท่ากับ 2.76 แสนตำแหน่ง เท่ากับ Bloomberg consensus คาด แต่ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.84 แสนตำแหน่ง
ยุโรป
อัตราการว่างงานฝรั่งเศสลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี: อัตราการว่างงานใน 1Q58 เท่ากับ 10.3% ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 10.4% เป็นการลดลงครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี
สถานการณ์ของกรีซ ณ ปัจจุบัน
กรีซขอเลื่อนการชำระหนี้ IMF มูลค่า 301 ล้านยูโร ออกไป ถือเป็นครั้งแรกของ IMF ที่ลูกหนี้เลื่อนการชำระหนี้ในรอบ 35 ปี พร้อมแจ้ง IMF กรีซต้องการชำระหนี้ที่ครบกำหนดในเดือนมิ.ย. เป็นก้อนเดียวกัน มูลค่า 1.6 พันล้านยูโร
ขณะที่นายกฯ เยอรมัน ออกมาให้ความเห็นต่อการเจรจาแผนการปฎิรูปกับกรีซ ยังไม่มีความคืบหน้า ด้านกรีซ ได้ปฎิเสธแผนที่เจ้าหนี้เสนอ
BoE คงนโยบายการเงินตามคาด: อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 0.50% คงที่มาตั้งแต่เดือนมี.ค. 2552 และวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ GBP3.75 แสนล้าน
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
อัตราเงินเฟ้อไต้หวันหดตัวแรงกว่าคาด: หดตัว 0.73% yoy ในเดือน พ.ค. ต่อเนื่องจากเดือน เม.ย.ที่หดตัว 0.82% yoy เทียบกับที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 0.68% yoy ซึ่งยังคงต่ำกว่าคาดการณ์ของรัฐบาลว่าจะเพิ่มขึ้น 0.13% ในปีนี้ ด้านดัชนีค้าส่งหดตัวแรง 9.45% yoy และเป็นการหดตัวแรงกว่าที่ตลาดคาดเช่นกันที่ -8.98% yoy
ไทย
ดัชนีความเชื่อมั่นเดือนพ.ค.ต่ำสุดในรอบ 11 เดือน: ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่น ผู้บริโภคเดือน พ.ค.2558 ที่สำรวจจากประชาชนทั่วประเทศ 2,253 ตัวอย่าง ว่า ดัชนีทุกรายการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ที่ 75.6 ลดจาก 76.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 56.8 ลดจาก 58.0 และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 82.8 ลดจาก 83.8 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 65.0 ลดจาก 66.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายโอกาสในการหางานอยู่ที่ 70.3 ลดจาก 71.2 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับ รายได้ในอนาคตอยู่ที่ 91.4 จาก 92.7
เร่งคลอด EIA ดันรถไฟรางคู่ 6 เส้นทาง: (ว่าที่) ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ได้มีการหารือร่วมกันระหว่าง สผ.และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ถึงปัญหาความล่าช้าการพิจารณาเรื่องการศึกษาและรับรองผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการต่างๆ ของ ร.ฟ.ท. โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ 6 สาย ได้แก่ 1.สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร 2. สายมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 3.สายนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน 4. สายเด่นชัย-เชียงของ 5. สายบ้านไผ่- มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม และ 6.สายลพบุรี-ปากน้ำโพ รือร่วมกันได้มีความเห็นว่าควรจัดทำมาตรฐานกลางสำหรับบางพื้นที่ที่ไม่มีผลกระทบ เพื่อให้ง่ายต่อการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ส่วนพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว มีระบบนิเวศที่เปราะบาง ผ่านชุมชน แม่น้ำ ก็จะให้ความสำคัญต่อการพิจารณาอีไอเอเป็นช่วงๆ
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530