- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 May 2015 17:04
- Hits: 1257
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"เลือกซื้อจังหวะอ่อนตัว"
Stock Picks-May 2015 : Fundamental : AP, KBANK, MINT, TTCL, WHA Dark Horse: RCL, SAMTEL
Fundamental Pick -Today: MINT
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, AP, QH, SPALI, SRICHA, MODERN, TISCO, TMT, BTSGIF, JASIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : KTIS 57%, BJC 34%, ERW 33%
Technical View ภาพระยะสั้นเป็นลบ แต่มีสิทธิเด้งก่อนลงต่ำต่อ
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อค่าบวก 1500,1510,1520 ค่าลบ
SET50 980-970 990,1000,1010 ค่าลบ
Technical Picks- Today : KBANK, GL, SEAFCO, EPG, AJP, IFEC, CENTEL, MC
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลง 7.23 จุด ปิดที่ 1493.61 โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้น TIPs ส่วนการร่วงแรงของตลาดหุ้นฮ่องกงจากการเพิ่มความเข้มงวดในการซื้อขายบัญชีมาร์จิ้น ส่วนตลาดไทยแรงขายหลักมาจากต่างชาติและพอร์ตบล. ส่วนสถาบันในประเทศกลับมาเป็นซื้อสุทธิ 1.1 พันล้านบาท รายย่อยซื้อสุทธิ 750 กว่าล้านบาท
วันนี้ตลาดหุ้นยังขาดปัจจัยกระตุ้นที่มีนัยสำคัญ ตลาดหุ้นสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย ต่างเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ปัจจัยที่ติดตาม คือ ความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้ ซึ่งปลายสัปดาห์หน้ากรีซมีกำหนดชำระหนี้ให้ IMF จำนวน 500 ล้านยูโร และอีก 1 พันล้านยูโรในช่วงที่เหลือของเดือนมิ.ย.นี้ ส่วนเศรษฐกิจไทย โดยรวมยังซบเซา แต่เริ่มเห็นสัญญาณบวกในบางกลุ่ม เช่น การลงทุนที่เริ่มกระเตื้องขึ้นทั้งภาครัฐและเอกชน, ปริมาณการส่งออกเดือนเม.ย.ที่ +3.7% (แต่มูลค่าที่หดตัวเพราะราคาขายลดลง 10.2%) ส่วนภาคท่องเที่ยวยังขยายตัวแข็งแกร่ง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วง 1-12 พ.ค.58 ยังเติบโต 22.9%YoY สำหรับหุ้นพื้นฐานที่แนะนำซื้อ โดยเฉพาะเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัววันนี้เป็น MINT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นลบ แต่มีโอกาสรีบาวด์ก่อนลงต่ำต่อ กรอบแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1500, 1510, 1520 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวก ค่าลบดูไม่ดี แนะนำให้ Wait & See หรือลดพอร์ตตามในกรณีที่มีหุ้นจำนวนมาก
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
- กรีซ : เจ้าหน้าที่ EU ปฏิเสธเรื่องกรีซใกล้บรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้แล้ว ตามคำกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีกรีซที่ระบุว่าการเจรจาอยู่ในการเจรจาขั้นตอนสุดท้ายและกำลังจะบรรลุข้อตกลง
+ สหรัฐ : จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์สิ้นสุด 23 พ.ค. เพิ่มขึ้น 7,000 ราย แตะ 282,000 ราย แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 12 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
+ สหรัฐ : ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 โดย +3.4%MoM แตะระดับ 112.4 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.49 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1%MoM
+ ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนลงเล็กน้อย (+0.1-0.2%) โดยนักลงทุนยังกังวลกับปัญหาหนี้กรีซ เพราะ EU ระบุว่ายังไม่มีข้อตกลงใดๆ ระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้ รวมถึงเฟดก็มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ด้วย
- ตลาดหุ้นจีนร่วงแรงเมื่อวานนี้ จากการที่โบรกเกอร์ปรับข้อกำหนดเรื่องการซื้อขายหุ้นด้วยมาร์จิ้นเข้มงวดขึ้น หลังจากบัญชีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนั้นยังจะมีการทำ IPO ขนาดใหญ่ นักลงทุนจึงขายหุ้นที่ถืออยู่ออกมาเพื่อรอซื้อ IPO นักวิเคราะห์บางรายประเมินไว้ที่ 8.07 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้น โดย WTI ส่งมอบก.ค.เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ปิดที่ 57.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ปรับขึ้น 52 เซนต์ ปิดที่ 62.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 479.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
สัญญาทองคำ COMEX ปรับขึ้นเล็กน้อย โดยสัญญาส่งมอบส.ค.เพิ่มขึ้น 2.3 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,188.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
มูดีส์ฯ คงอันดับความน่าเชื่อถือรัฐบาลไทยไว้เท่าเดิมที่ Baa1 โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวดีขึ้นจากสถานะทางการเงินของภาครัฐที่แข็งแกร่ง และเศรษฐกิจที่หลากหลาย ทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูงทำให้มีความมั่นคง สำหรับปี 58-59 มองว่า Key Growth คือ การใช้จ่ายและลงทุนภาครัฐ ปัจจัยเสี่ยงคือการเมืองไทย
+ ภาคท่องเที่ยวยังคงแข็งแกร่ง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยเดือนเม.ย.58 เพิ่มขึ้น 25.1%YoY และ 12 วันแรกของเดือนพ.ค.58 เติบโต 22.9%YoY และประเมินว่าทั้งปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 29 ล้านคน เติบโต 16.9%YoY จาก 24.8 ล้านคนใน 57 ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเพิ่มมากเป็นชาวจีน
ความเห็น Retail Research : เรามีมุมมองที่เป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยว โดยประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเพิ่มก้าวกระโดด ทำให้อัตราการเข้าพักของโรงแรมดีขึ้น และส่งผลดีต่อธุรกิจสนามบิน รวมถึงอาหาร ยังคงให้น้ำหนักลงทุน Overweight กับกลุ่มท่องเที่ยว หุ้น Top Picks เป็น AOT, CENTEL, MINT
+ การลงทุนภาคเอกชนเริ่มกระเตื้อง หลังชะลอตัวมา 1-2 ไตรมาส โดยขณะนี้ภาคธุรกิจเริ่มลงทุนขยายกิจการเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ, การเติบโตของภูมิภาคหลังเปิด AEC และรองรับตลาดส่งออกใหม่ๆ ผู้บริหาร PYLON ระบุว่าภาคเอกชนเริ่มเปิดประมูลงานมากขึ้นในช่วงเดือนพ.ค.58 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการที่พักอาศัยประเภทคอนโดเริ่มติดต่องานฐานรากเพิ่ม นับเป็นสัญญาณที่ดี ส่วนการลงทุนภาครัฐคาดว่าจะขยับเดินหน้าได้มากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ และเดินหน้าได้เต็มที่ในปี 59
ความเห็น Retail Research : เรายังคงชอบกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการลงทุน เนื่องจากมองว่าการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนจะมีต่อเนื่องในช่วง 1-5 ปีข้างหน้า ซึ่งช่วยหนุนให้อุตสาหกรรมเติบโตได้ สำหรับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หุ้นเด่นเป็น CK, SEAFCO, TTCL กลุ่มวัสดุก่อสร้างเป็น SCC กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็น AP, QH, CPN, WHA
สำหรับ PYLON (Not Rated) เราได้ข้อมูลจากผู้บริหารในงาน Opportunity Day พบว่าบริษัทมีงานในมือราว 809 ล้านบา แนวโน้มกำไร 2Q58 ไปได้ดี รายได้จะเติบโตได้ 20%QoQ และมาร์จิ้นอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกับ 1Q58 ที่ 24-25% ส่วนใน 2H58 มี Backlog รองรับอยู่แล้วราว 50% แต่การที่งานภาคเอกชนมีแนวโน้มดีขึ้น ก็ทำให้บริษัทมีโอกาสรับงานใหม่เข้ามาในช่วง 7 เดือนที่เหลือของปีนี้อีก บริษัทมีฐานะการเงินดี ณ สิ้นมี.ค.58 มีเงินสด+เงินลงทุนระยะสั้นสุทธิ 430 ล้านบาท คิดเป็น 1.15 บาท/หุ้น เชิงกลยุทธ์แนะนำซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 10.50 บาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]