- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 May 2015 16:03
- Hits: 1183
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -36.87, NASDAQ -8.62, S&P -2.69, FTSE +7.59, CAC -44.70 และ DAX -93.56 ภายใต้ความกังวล (1) แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ หลังเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรป (EU) ระบุยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ ระหว่างกลุ่มเจ้าหนี้และกรีซในขณะนี้ ซึ่งสวนทางกับคำกล่าวของกรีซ ที่ระบุว่าได้มีการเจรจาในขั้นตอนสุดท้ายสู่การทำข้อตกลง และ (2) ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก ออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ โดยจะปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ เมื่อเทียบกับ 1Q/58 ที่ยังอ่อนแอ
.....ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผย (1) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ล่าสุดเพิ่มขึ้น 7,000 ราย อยู่ที่ 282,000 ราย แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 12 ติดต่อกัน และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง (2) ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) – เมย. เพิ่มขึ้น 3.4% อยู่ที่ระดับ 112.4 โดยปรับขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และดีกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณแสดงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ
…..ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ค. +US$0.17 อยู่ที่ US$57.68 ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ข้างต้น และตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ ล่าสุดลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล (ดีกว่าที่คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล) สู่ระดับ 479.4 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากยังคงได้รับปัจจัยกดดันจาก (1) อิรักมีแผนเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบอีก 26% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.75 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนมิย. และ (2) ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) – เมย. เพิ่มขึ้น 18,000 บาร์เรล สู่ระดับ 30.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน
......ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ส.ค. +US$2.3 อยู่ที่ US$1,188.8 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากการเข้าเก็งกำไร หลังราคาปรับลดลงต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -726 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปีสุทธิ -4,920 ล้านบาท (ปี’57 มียอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท)
(-) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) - เมย. ลดลง 5.3%yoy ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และสูงกว่าที่คาดว่าจะลดลง 2.0% ขณะที่ สศอ. คาดดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปี’58 ขยายตัว 3 - 4% จากที่ลดลง 4.59% เมื่อปี’57 จากการฟื้นตัวของการผลิตในอุตสาหกรรมรถยนต์
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : ผันผวน? แต่คาดอยู่ในกรอบแคบ โดยที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังคงถูกกดดันจากปัจจัยเดิมจากต่างประเทศภายใต้
ความไม่แน่นอน (1) สถานการณ์ในกรีซ โดยเฉพาะต่อประเด็นความสามารถในการชำระหนี้ให้กับ IMF ในเดือนมิย. รวม 1,600 ล้านยูโร โดยครบกำหนดงวดแรก 300 ล้านยูโร ในวันที่ 5/6/58 (2) ระยะเวลาในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังล่าสุดประธานเฟดระบุอาจพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยเฟดจะมีการประชุมในวันที่ 16 – 17/6/58
.....ทางด้านปัจจัยในประเทศ เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว คาดปริมาณซื้อขายอาจเบาบางลง ขณะที่คาดยังได้รับปัจจัยลบจาก Fund Flow หลังต่างชาติยังขายสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 2 รวมทั้งปัจจัยเดิมที่คาดกดดันอยู่ เช่น (1) ความกังวลต่อทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ที่คาดผลกระทบต่อหุ้นในกลุ่มสื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังไม่เหมาะที่จะเข้าเก็งกำไรในช่วงนี้ รวมถึงกลุ่มธนาคาร จากประเด็นความกังวล NPL หลัง KTB มีการตั้งสำรองเพิ่ม และ (2) ประเด็นที่กระทรวงการคลังจะขายหุ้น ที่คาดเป็น Sentiment ลบ ต่อหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ เช่น PDI, MFC, TMB, NEP, MCOT, THAI, PTT, BCP, AOT และ THL
.....ยังแนะติดตามกลุ่มโรงกลั่น เช่น TOP, PTTGC, IRPC และ BCP จากค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง ประมาณ 8 – 9USD รวมถึง (1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, SEAFCO, TRC และ UNIQ (2) ค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่า โดยเคลื่อนไหวบริเวณ 33.73 – 33.76 คาดส่งผลดีต่อส่งออก และหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA, HANA, SMT (3) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO เป็นต้น
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.01 อยู่ที่ 2.13% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.04 อยู่ที่ 13.31
หุ้นแนะนำ : ITD
ประเด็นที่ต้องติดตาม (29 พค. – 3 มิย. ’58)
29/5/58 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ประมาณการ GDP – 1Q/58 (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก - พค. (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย - พค.
3/6/58 : ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)
หุ้นแนะนำ
ITD : ราคาเป้าหมาย (ปี’58) 8.40 บาท
(ข่าวหุ้น 29/5/58 – 1/6/58) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ช่วงฉะเชิงเทรา – คลอง 19 – แก่งคอย และช่วงบุใหญ่ – แก่งคอย อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับราคากลางลง จากเดิม 11,348 ล้านบาท คาดมีความเป็นไปได้ที่จะประกาศร่าง TOR ได้ในสัปดาห์หน้า และคาดเร่งรัดการประมูลให้เสร็จภายใน 3 เดือน
ITD มีความน่าสนใจ (1) ใน 2Q/58 คาดมีการลงนามสัญญางานที่ชนะประมูล มูลค่ารวมกว่า 170,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ประมาณ 100,000 ล้านบาท มาจากเหมืองโปแตชและเหมืองบอกไซต์ ซึ่งคาดทำให้ Backlog สิ้น 2Q/58 สูงถึง 350,000 ล้านบาท และ (2) มีแผนเข้าร่วมประมูลงานจากภาครัฐ มูลค่ารวม 400,000 – 500,000 ล้านบาท ทั้งโครงการรถไฟรางคู่ โครงการมอเตอร์เวย์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สีเหลือง และสีชมพู เป็นต้น รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าไทย – จีน มูลค่ารวมอีก 400,000 ล้านบาท
โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ITD คาดลงนามสิทธิสัมปทานเพื่อเริ่มดำเนินโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม เฟสแรก 45 ตารางกม. ในช่วงเดือนเมย. – พค. ซึ่งมีพื้นที่ขายรวม 18,000 ไร่ และ ITD เปิดเผยมีลูกค้ารายใหญ่ 1 ราย เข้าจองแล้วประมาณ 10,000 ไร่ โดยโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนกับ ROJNA
ITD เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่มีความสามารถ มีศักยภาพในการรับงานก่อสร้างทุกประเภท ทั้งในและต่างประเทศ มี Backlog อยู่ในระดับที่สูงกว่า 200,000 ล้านบาท มาโดยตลอดในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดเพียงพอต่อการเติบโตไม่ต่ำกว่า 3 ปีข้างหน้า โดยไม่ได้รับผลกระทบจากความล่าช้า / ชะลอ / ความไม่แน่นอนในการเปิดประมูลโครงการต่างๆ ของภาครัฐ
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบปัจจัยทางด้านพื้นฐานกับ STEC และ CK พบว่ามีความสามารถในการทำกำไรค่อนข้างต่ำ คาดเป็นผลมาจาก Gross Profit Margin ที่ยังมีความผันผวนสูง เช่นเดียวกับสัดส่วนค่าใช้จ่ายและบริหาร และดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวในระดับสูง ทำให้ Net Profit Margin เฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำเพียง 1 – 3%
ภายใต้ปัจจัยเชิงพื้นฐาน แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินราคาเป้าหมายที่ 8.40 บาท
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788