- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 May 2015 17:10
- Hits: 1172
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Play on MSCI
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ซึมตัวลงสู่บริเวณ 1,485 จุด ก่อนเกิด Technical rebound แบบอ่อนๆ นำโดย AOT / KTB / THAI เป็นต้น อีกทั้งตลาดหุ้นยุโรปเปิดฟื้นตัว ด้วยความคาดหวังเชิงบวกต่อการหารือระหว่างกรีซ และ เจ้าหนี้อียู อาจได้ข้อสรุป ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,500.84 จุด บวกเล็กน้อย 2.86 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 31,751 ล้านบาท
กระแสเงินทุนต่างชาติเป็นกลางถึงลบ เมื่อกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 789 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 อีก 5,783 สัญญา แต่ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เพียง 144 ล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
ปัจจัยสำคัญวันนี้
รองนายกฯ คาดส่งออกเดือนพ.ค.จะกลับมาเป็นบวก หลังได้รับผลบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
การปรับน้ำหนักดัชนี MSCI Thailand / MSCI Global Small Cap จะมีผล ณ ราคาปิดวันที่ 29 พ.ค.
กรีซยังไม่คืบ หลังหารือกับเจ้าหนี้อียู และ IMF ขณะที่ ECB คงเพดานเงินช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์กรีซ
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น "กลาง" วันที่ 43 ตราบใดที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันต่ำกว่า 4.0 หมื่นล้านบาท ย่อมทำให้ภาพรวมของ SET INDEX คงความเปราะบาง อาจเห็นการฟื้นตัว หรือปรับฐานลง 10+/- จุดในระหว่างวันได้เสมอ เพราะความเชื่อมั่นของนักลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในระดับต่ำ โดยรอความชัดเจนของภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ การเร่งทำงานของรัฐบาลเพื่อผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ได้ตามแผนหรือไม่ รวมถึงการประชุม กนง. วันที่ 10 มิ.ย. มีความเป็นไปได้สูงที่จะเห็นการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้ง 3 จะทำให้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกอีกครั้งหรือไม่ ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้นักลงทุนในประเทศต่างถือเงินสดและรอดูความชัดเจนอีกระยะหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขเดือนเม.ย.ซึ่งธปท.จะรายงานในวันพรุ่งนี้
ขณะที่ประเด็นการเจรจาระหว่างกรีซ และเจ้าหนี้อียู และ IMF วานนี้ไม่มีความคืบหน้าใดๆ เราเชื่อว่ากรีซ และเจ้าหนี้อียู น่าจะหาข้อสรุปได้ทันก่อนที่หนี้ของ IMF จะครบกำหนดวันที่ 5 มิ.ย. มูลค่า 1.6 พันล้านยูโร แต่แน่นอนว่าในช่วงสั้นนี้ ตลาดหุ้นยุโรปจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการกำหนดบรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงทิศทางค่าเงินยูโรอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ กดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทางอ้อม
ดังนั้นหุ้นปันผลระหว่างกาล หรือ หุ้นที่แนวโน้มจะได้เพิ่มเข้าในการคำนวณ SET50 / SET100 ซึ่งจะประกาศในช่วงกลางเดือนมิ.ย. น่าจะเป็นเป้าหมายของการเลือกเก็งกำไรรอบสั้นนี้
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.12 น.) Nikkei - Kospi เปิดบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Nikkei เปิดบวกเด่น จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าช่วยภาคการส่งออกของญี่ปุ่น
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนเริ่มพิจารณาขายทำกำไรในส่วนของเทรดดิ้ง เมื่อ SET INDEX ยืนเหนือ 1,500 จุด และกลับมาถือเงินสดอีกครั้ง"
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ TASCO/ WHA/ THAI/ BCP
Accumulative Buy: IFEC
Cut loss: MONO
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. IFEC : ราคาปิด 11.00 บาท ราคาเหมาะสม 18.00 บาท
a) MBKET ประเมินว่าหุ้น IFEC จะได้รับ Sentiment บวกจากการปรับน้ำหนักของดัชนี MSCI ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากเป็น 1 ในหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Global Small Cap ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมแห่งแรกที่ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 10 MW ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการผันตัวเข้าสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงามลม หลังการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตั้งชิ้นส่วนกังหันลม คาดว่าจะเสร็จสิ้นใน 2Q58 และเริ่มจ่ายไฟ (COD) ได้ตั้งแต่ 3Q58 เป็นต้นไป
c) ฐานกำไรใน 2H58 จะยกตัวขึ้นจากการรับรู้รายได้โครงการโซลาร์ฟาร์มในกัมพูชาแห่งแรกจำนวน 20 MW พร้อมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมแห่งแรกที่ปากพนัง
d) คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +238% yoy เป็น 459 ล้านบาท และ +282% yoy เป็น 1,753 ล้านบาท ในปี 2559
e) จะขึ้นเครื่องหมาย XW ในสัดส่วน 4 หุ้นเดิม ต่อ 1 Warrant ในวันที่ 25 มิ.ย. เป็น Catalyst ที่รออยู่ในเดือนหน้า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิอีกครั้ง US$126 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$194 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติกลับมาลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 789 ล้านบาท เทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 7,310 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเท่ากับ 4,193 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 4 เร่งขึ้นเป็น 5,783 สัญญา รวม 4 วันทำการ Short สุทธิ 17,911 สัญญา แม้ว่า S50M15 คงปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 3 กว้างขึ้นเป็น 4.09 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 3.61 จุด ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะเป็น Short สุทธิเพิ่มเป็น 24,698 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 เพียง 144 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 721 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 1,836 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 2 เล็กน้อย 0.15bps จากวันก่อนหน้าลดลง 2.06bps ปิดล่าสุดที่ 2.809%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็น 390 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 935 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 9 ยังคงให้น้ำหนักกับกลุ่ม ICT แต่กลับมาขายกลุ่มธนาคารหนาแน่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 894 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 895 ล้านบาท รวม 9 วันทำการซื้อสุทธิ 8,623 ล้านบาท สรุปภาพรวม NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 357 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 288 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่งซื้อสุทธิ 274 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 181 ล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 206 ล้านบาท และกลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 198 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคาร ถูกขายสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 332 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 246 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขายสุทธิ 55 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ไม่มี
ยุโรป
สถานการณ์ในกรีซ ยังไม่คืบหน้า
เจ้าหนี้ยืนยัน การเจรจาร่วมกับกรีซ ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ มีหลายประเด็นที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้
รมว.คลัง เยอรมัน ยืนยัน ยังไม่มีอะไรคืบหน้ากรณีกรีซ ขณะที่นายกฯ กรีซ กลับให้มุมมองเชิงบวกต่อสื่อถึงการเจรจา
ECB คงวงเงินช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์กรีซ ผ่าน ELA ไว้ที่ 8.02 หมื่นล้านยูโร ขณะที่ธนาคารพาณิชย์กรีซ มีสภาพคล่องเหลืออยู่ราว 3.0 พันล้านยูโร
จีน
กำไรภาคอุตฯ ชะลอตัว: เดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.6% yoy แต่ YTD กลับหดตัว 1.3% yoy สะท้อนความอ่อนแอของความสามารถในการทำกำไรของภาคอุตฯ ใน 1Q58 แต่เมื่ออัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมลดลงช่วยเพิ่มกำไรให้แก่ภาคอุตฯ อย่างไรก็ตามภาคเอกชนยังเผชิญกับความอ่อนแอของอุปสงค์ และราคาสินค้าที่ลดลง
เอเชียแปซิฟิก
รายงานการประชุม BoJ ยังคงมีความกังวลด้านเงินเฟ้อ: การประชุม BoJ ครั้งที่แล้ว คาดการณ์การบริโภคภายในประเทศจะเติบโตต่อเนื่อง จากรายได้ที่ดีขึ้น แต่ BoJ ยังคงกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อเป้าหมาย 2.0% อาจเป็นการยากที่จะถึงเป้าหมาย กรรมการบางท่านเชื่อว่าจะไม่ถึงในปีงบประมาณ 2560 แต่แน่นอนว่าอัตราเงินเฟ้อระยะยาวจะยังเป็นการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อ
ไทย
รองนายกฯ เชื่อส่งออก 2Q58 จะดีกว่า 1Q58: ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวถึงแนวโน้มการส่งออกของไทยในเดือนพ.ค. โดยคาดว่าจะไม่ติดลบแล้ว หลังจากที่เดือนเม.ย.การส่งออกติดลบลดลงมาอยู่ที่ -1.7% ซึ่งคาดว่า 2Q58 การส่งออกจะปรับตัวดีขึ้นกว่าไตรมาสแรกที่ติดลบกว่า 4% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากที่ช่วงนั้นเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินของจีน และญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าในลำดับต้นๆ ของไทย ดังนั้นจึงต้องรออีกสักระยะหลังจากที่เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงจึงจะทำให้การส่งออกของไทยกลับมาดีขึ้นได้
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530