WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

GBX copyบล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

Market View : อาการน่าเป็นห่วง
หุ้นแนะนำเทคนิค : SWC PLANB
Analyst meeting : TASCO
หุ้นเด่นรายวัน : SYNEX BTS CPN GENCO
  SET วานนี้ทรุดตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่3 จากตัวเลขส่งออกไทยเดือนเมย. -1.7% YoY อีกทั้งประเด็นลบกรีซยอมรับไม่มีเงินจ่ายหนี้ IMF ที่ต้องชำระเดือนมิ.ย.รวม 1,600 ล้านยูโร กดดันให้ SET ปิดลบที่ 1,497.98 จุด (-10.18 จุด) Volume 3 หมื่นลบ. ทั้งนี้ Foreign Net Buy 1,114 ลบ. , Net Short TFEX 1,136 สัญญา

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
  - ความกังวลการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซต่อ IMF ราว 1,600 ล้านยูโรในเดือนมิ.ย. ซึ่งกรีซยอมรับว่าไม่มีเงินเพียงพอ และต้องรีบเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้เพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลืองวดใหม่และหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
  - ความกังวล FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ + 6.8% ในเดือนเม.ย.
  + ครม.เห็นชอบยุทธ์ศาสตร์ร่วมทุน "รัฐ-เอกชน" ระยะ 5 ปี วงเงิน 1.41 ล้านล้าน เน้นเอกชนร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมไฟเขียวบันทึกความร่วมมือกับญี่ปุ่น ศึกษาก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง
  +/- Fundflow ต่างชาติ Net Buy หุ้น 5 วันติดต่อกันราว 7.3 พันลบ. แต่ยังคง Net Short TFEX
  - ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลง -1.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.03 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็นลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
  - ความกังวล NPL และการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กดดันต่อNIM ของกลุ่มธนาคาร ส่วน NPL คาด BAY TMB มีโอกาสตั้งสำรองเพิ่มเนื่องจาก NPL Q1/58 เพิ่มขึ้น +16.4% และ +6.1% QoQ ตามลำดับ
  ปัจจัยลบยังคงมีน้ำหนักกดดันต่อภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ ทั้งปัญหาหนี้กรีซ การขึ้นดอกเบี้ยของ FED รวมถึงราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลง ดังนั้นประเมินว่า SET จะปรับตัวลงโดยมีแนวรับบริเวณ 1,480 – 1,485 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
  SET มีแนวโน้มปรับตัวลง ดังนั้นให้รอซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงอ่อนตัวบริเวณ 1,480 – 1,485 จุด ทั้งนี้แนะนำเก็งกำไรแบบ selective buy
  - ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง (ล่าสุด 33.75 Bath/USD) เป็นบวกต่อกลุ่มส่งออก เช่น กลุ่มอาหาร (CPF TUF GFPT XO) และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ (HANA KCE SVI DELTA)
  - กลุ่มสายการบิน (AAV BA ) ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวลง และข่าวททท.รับลูกรัฐเข็นรายได้ท่องเที่ยว 2.3 ล้านล้านบาทปี2559
- กลุ่มรับเหมา ได้รับอานิสงส์จากบิ๊กโปรเจ็กต์ของรัฐบาล
  - กลุ่ม Finance (เช่าซื้อ) ที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนการเงินที่ลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธพ. ( SAWAD MTLS GL THANI ECL )


  กลุ่มที่แนะนำ wait & see จากประเด็นลบ
  - กลุ่มธนาคาร ความกังวล NPL และลดดอกเบี้ยฝั่งเงินกู้กระทบต่อ NIM
  - กลุ่ม TV digital >> บอร์ดกสทช.มีมติไม่เลื่อนจ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอลงวดที่ 2

 

MSCI รอบใหม่มีผลบังคับใช้ วันที่ 29 พ.ค.
MSCI Thailand Index - ไม่มีการปรับหุ้นเข้า-ออก แต่
- เพิ่มน้ำหนัก BDMS CPF IVL
- ลดน้ำหนัก PTT PTTEP KBANK SCB ADVANC CPALL AOT TRUE
MSCI Global Small Cap
- เพิ่มเข้า BA BEAUTY CBG EPG IMPACT IFEC MTLS PLANB PTG SIM SCN TSE UNIQ WORK
-ถอดออก JMART TPIPL

 

Analyst Meeting
TASCO ราคาปิด 17.00 บาท consensus สูงสุด 18.00 บาท
  กำไร Q1/58 = 1,126 ลบ. คิดเป็น 94% ของทั้งปี 57 ที่เท่ากับ 1,200 ลบ. แม้ยอดขาย -31%yoy -25%qoq แต่มี ROE สูงถึง 34% ยอดขายในประเทศเติบโตกว่า 100% ทำให้สัดส่วนยอดขายในประเทศเพิ่มเป็น 36% จากระดับปกติ 16% เนื่องจากราคาต้นทุนน้ำมันดิบลดลงขณะที่ราคาขายทรงตัวทำให้มีมาร์จิ้นเป็นบวกตั้งแต่ Q3/57 ต่อเนื่องถึง Q1/58 นอกจากนี้ยังได้รับผลดีจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณค้างท่อ
  แนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่อง ใน Q2 และคาดจะ peak ใน Q3 เนื่องจาก 1) ต้นทุนวัตถุดิบทรงตัวจากราคาน้ำมันดิบน่าจะทรงตัวที่ $60-$70 2) strong demand จากอินโดนีเซียทำให้ยอดขายตลาดตปท.ยังดี 3) รัฐบาลเรียกผู้รับเหมาให้ทยอยเซ็นสัญญาโครงการก่อสร้างเพื่อกระตุ้นให้ทันภายในปลายเดือนพ.ค. จึงคาดว่าความต้องการยางมะตอยน่าจะเพิ่มขึ้น 4) ด้านขนส่ง บริษัทได้ซื้อเรือเล็กและเช่าเรือเพิ่มเพื่อรองรับความต้องการขนส่งที่เพิ่มขึ้น 5) วัตถุดิบที่สต๊อกสำหรับ Q2 ขายออกหมดแล้ว ตอนนี้ขายของที่จะส่งมอบใน Q3 อยู่ และลูกค้ามีแนวโน้มทำสัญญาแบบระยะยาว 6 เดือน – 1 ปีมากขึ้นเพื่อตัดปัญหาการขาดแคลนยางมะตอย
  ปัจจัยที่ต้องระวังราคาหุ้นปรับขึ้นเกือบ 3 เท่าจากต้นปี 58 และspread ที่แคบลงตั้งแต่ต้น Q2/15

 

หุ้นเด่นรายวัน
  SYNEX (ราคาปิด 3.82 ซื้อเก็งกำไร) เข้าตากองทุนไทย-เทศสนใจเข้าลงทุน บิ๊ก "สุธิดา มงคลสุธี" ใส่เกียร์เดินหน้าลุยต่างประเทศเต็มสูบ หวังดันยอดส่งออกพุ่ง 100% คอนเฟิร์มปีนี้รายได้ตามนัด 2.1 พันล้านบาท พร้อมเตรียมเข็นบริษัทลูก "Prism solution" เข้าตลาด
  เทคนิค: ราคาปรับตัวลงยืนเหนือแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน พร้อมทั้งยังมีปริมาณการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นสร้างลักษณะ Bullish Flag รับ 3.78 / 3.60 ต้าน 3.94 / 4.08 Cut Loss 3.56
  BTS (ราคาปิด 9.40 Consensus เฉลี่ย 11.40) ขานรับธุรกิจรถไฟฟ้าแข็งแกร่ง จ่ายเงินปันผล 30 สตางค์ต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 31 ก.ค.นี้ (ที่มา...ข่าวหุ้น)
  เทคนิค : ราคาพักตัวมาพักใหญ่โดยวานนี้มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ แนวรับ 9.25 / 9.00 แนวต้าน 9.75 / 10.00 Cut loss 9.00
  CPN (ราคาปิด 43 ซื้อ เป้าหมาย 65) วันนี้ (27 พ.ค.) จะเปิดบริการสาขาใหม่เซ็นทรัลระยอง ปีนี้ยังมีสาขาที่จะเปิดใหม่อีก 2 แห่งคือเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกตที่บางใหญ่ (ก.ค.58) และเซ็นทรัลอีสท์วิลล์ บนถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา (ต.ค.58) ส่วนเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ตซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติเข้าซื้อจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง หนุนกำไรปี 58 เติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ แนวโน้มกำไรในช่วง Q 2/58 จะใกล้เคียงกับ Q1/58 แต่คาดว่าจะดีกว่า Q2/57
  GENCO (ราคาปิด 3.68 ซื้อเก็งกำไร) เตรียมเข้าซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าขยะ "พีเจที เทคโนโลยี" หลังบอร์ดอนุมัติในหลักการให้ซื้อหุ้น 49% มูลค่า 430 ล้านบา เตรียมเข้าทำ Due Diligence ก่อนชงที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ขออนุมัติอีกรอบ ระบุโรงไฟฟ้ารองรับมูลฝอยถึง 700 ตันต่อวัน และผลิตไฟฟ้าสูงสุด 12 เมกะวัตต์ต่อชุด

 

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -190.48 จุด
  ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,041.54 จุด ร่วงลง 190.48 จุด หรือ -1.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,032.75 จุด ลดลง 56.61 จุด หรือ -1.11%
  ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,104.20 จุด ลดลง 21.86 จุด หรือ -1.03%
  เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังข้อมูลเศรษฐกิจบางรายการของสหรัฐออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย. นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วย

 

ตลาดน้ำมัน NYMEX : -1.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
  สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 1.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.03 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรับได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบ โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้


Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
     ชัยยศ จิวางกูร
     บุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!