- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 25 May 2015 16:40
- Hits: 1218
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : เก็งสั้นในกรอบ
หุ้นแนะนำเทคนิค : RCL XO
Analyst meeting : SC CK RML
หุ้นเด่นรายวัน : SGP CCP
SET วันก่อนปรับตัวลงจากความกังวลประเด็นข่าวก.คลังเล็งขายหุ้นที่ถืออยู่เพื่อใช้บริหารจัดการหนี้ภายใน 2 เดือน รวมถึงความกังวลปัญหา NPL และการลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงกดดันต่อ NIM ส่งผลให้ SET ปิดลบที่ 1,523.86 จุด (-2.39 จุด) Volume 3.8 หมื่นลบ. ทั้งนี้ Foreign Net Buy 2,302 ลบ. , Net Short TFEX 6,145 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
ปัจจัยบวก/ลบที่คละเคล้าในช่วงนี้ ได้แก่
+/- คาด FED จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อ่อนแอ แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา FED แถลงว่าพร้อมจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้หากเศรษฐกิจขยายตัวตามที่คาดการณ์ โดยใช้ตลาดแรงงาน และอัตราเงินเฟ้อระดับ 2%เป็นตัวชี้วัด
+ รมว.คมนาคมของไทยเตรียมเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงเข้าสู่การพิจารณาของครม.ในเดือน มิ.ย.-ก.ค.
+/- Fundflow ต่างชาติพลิกกลับเป็น Net Buy หุ้น 3 วันติดต่อกันราว 5.2 พันลบ. แต่ Net Short TFEX 6.3 พันสัญญา
-ราคาน้ำมันดิบ -1.00 = 59.72 US/Barrel เป็นลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
-ความกังวล NPL และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กดดันต่อNIM ของกลุ่มธนาคาร ( คาด BAY TMB มีโอกาสตั้งสำรองเพิ่มเนื่องจาก NPL Q1/58 เพิ่มขึ้น +16.4% และ +6.1% QoQ ตามลำดับ )
-ก.คลังเล็งขายหุ้นที่ถืออยู่และไม่ได้มีประโยชน์กับการบริหารเศรษฐกิจของประเทศเพื่อใช้บริหารจัดการหนี้ภายใน 2 เดือน คาดว่าจะได้เงินไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท (หุ้นที่คลังถือ MCOT 68.80%,THAI 51.03%, PTT 51.11%, AOT 70.00%, PDI 13.81%, MFC 16.67%, NEP 20.45%, TMB 25.98%, BCP 9.98%, THL 1.98% )
ดังนั้นประเมินว่า SET แกว่งตัวในกรอบ 1,515 – 1,530 จุด เพื่อรอธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือนในวันที่ 29 พ.ค.
กลยุทธ์การลงทุน
SET มีแนวโน้มแกว่งตัว จึงให้ซื้อเก็งกำไรในกรอบ 1,515 – 1,530 จุด และถือหุ้นข้ามวันได้หาก SET ไม่ปิดต่ำกว่า 1,510 จุด ทั้งนี้แนะนำเก็งกำไรแบบ selective buy
กลุ่มรับเหมา (ITD CK STEC UNIQ SEAFCO PYLON) ได้รับอานิสงส์จากรัฐบาลประกาศขับเคลื่อนการลงทุนบิ๊กโปรเจ็กต์
กลุ่ม Finance (เช่าซื้อ) ที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงของธพ. ( SAWAD MTLS GL THANI ECL )
หุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 รอบถัดไป BLA, TPIPL, WHA, SUPER, ITD, BA, SAWAD
กลุ่มที่แนะนำ wait & see จากประเด็นลบ
กลุ่มธนาคาร ความกังวล NPL และลดดอกเบี้ยฝั่งเงินกู้กระทบต่อ NIM
กลุ่ม TV digital >> บอร์ดกสทช.มีมติไม่เลื่อนจ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 ให้ชำระถึง 25 พ.ค.เป็นลบต่อ ( WORK RS MONO GRAMMY )
ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการวันนี้ (25 พ.ค.) เนื่องในวัน The Birthday of the Buddha
Analyst Meeting
SC : ราคาปิด 3.36 บาท Consensus 4.11 บาท
Q1/58 มีกำไรสุทธิ 160 ลบ. +80%yoy -74%qoq อัตรากำไรขั้นต้นรวมเท่ากับ 37.7% ดีขึ้นจาก 36.4% ใน Q4/57 แต่ลดลงจาก 38.7% ใน Q1/57 โดยอัตรากำไรขั้นต้นโครงการทำได้ตามค่าเฉลี่ย 34-35% และอัตรากำไรขั้นต้นของโครงการเช่าเฉลี่ย 65% ซึ่งน่าจะยืนที่ระดับนี้ได้ทั้งปี
ยอดจองใน Q1/58 อยู่ที่ 2.7 พันลบ. +11%qoq +132%yoy Q2 เปิดตัวคอนโดมิเนียมหรูโครงการเดียวชื่อ "ศาลาแดงวัน" มูลค่า 4.7 พันลบ. ราคาเฉลี่ย 280,000 บาทต่อตรม. ช่วงเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการมียอดจอง 815 ลบ. อีก 5 โครงการใหม่มูลค่าราว 8.2 พันลบ.จะเปิดขายในช่วงครึ่งปีหลัง ผู้บริหารคาดว่าครึ่งแรกของปียอดจองจะมีสัดส่วนราว 40% ของเป้าทั้งปีที่ 1.3 หมื่นลบ.
ยอดขายรอโอน (backlog) ปลายมี.ค. อยู่ที่ 9.7 พันลบ. ส่วนที่จะโอนในปีนี้ 3.6 พันลบ.มี backlog รองรับแล้ว 45% ของเป้ารายได้ทั้งปีที่ 1.39 หมื่นลบ. จึงมีส่วนที่ต้องขายได้เพิ่มอีก 7.6 พันลบ. ซึ่งจะได้จากโครงการแนวราบที่จะเปิดขายใหม่มีมูลค่าเกือบ 4 พันลบ. คอนโดพร้อมขายมีมูลค่า 1.1 พันลบ.
25 พ.ค.หุ้นปันผลสัดส่วน 8:1 รวม 464 ล้านหุ้นจะเข้าซื้อขายในตลาด
CK : รายงานกำไร 1Q58 437 ล้านบาท เติบโต 5%QoQ, 20%YoY
มีรายได้จาการก่อสร้าง 8.5 พันล้านบาทและมีกำไรปกติ 177 ล้านบาทลดลง 57% QoQ และ 51% YoY ซึ่งเป็นผลมาจากกำไรขั้นต้นที่ปรับตัวลงเนื่องจากงานก่อสร้างเริ่มเข้าสู่ช่วงส่งมอบ โดยมีกำไรจากการขายเงินลงทุนใน BECL 270 ล้านบาท และBMCL 37 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาส 1 มีกำไรรวมทั้งสิ้น 437 ล้านบาท
โดยในปีนี้ CK ตั้งเป้ารายได้ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท โดยเป็นงานจากเขื่อนไซยบุรีประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท ในอนาคตหลังจากที่ CK ขายหุ้นของเขื่อนไซยบุรีให้ CKP จะทำให้ทาง CK ไม่ต้องใส่เงินลงทุนในเขื่อนดังกล่าวเพิ่มเติมอีก
สำหรับการควบรวม BECL และ BMCL คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงเดือน ก.ย. ซึ่งทาง CK จะถือหุ้นในบริษัทใหม่ประมาณ 28% ซึ่งจะรับรู้กำไรด้วยวิธี Equity Method
ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าทางรัฐจะเปิดปะมูลรถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม สุวรรณถูมิเฟส 2 และ Motor way พัทยา-มาบตาพุดซึ่งมีมูลค่างานรวมกว่า 2 แสนล้านบาทซึ่งจะปัจจัยหนุนต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาในช่วงครึ่งปีหลัง
RML : ราคาปิด 1.68 บาท ถือ อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการและเป้าหมาย
Q1/58 มีรายได้จากการขายโครงการคอนโด 1.6 พันลบ. -3%yoy +72%qoq มีกำไรสุทธิ 313 ลบ. -14%qoq +361%qoq อัตรากำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 38.7 % ต่ำกว่า 41.3% ใน Q1/57 อัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 19.5% ลดลงจากระดับ 22% ใน Q1/57 แต่ดีกว่าระดับ 7% ใน Q4/57
ยอดขาย Pre-sale ใน Q1/58 อยู่ที่ 579 ล้านบาท ใกล้เคียงกับ Q4/57 แต่ถือว่ายังแผ่วเนื่องจากไม่ได้เปิดขายโครงการใหม่ ผู้บริหารเปิดเผยถึงแผนการจัดโรดโชว์โครงการ Unixx ที่จีนซึ่งทำให้มียอดจองเพิ่มขึ้นมาก
โครงการใหม่มีอีก 2 โครงการ จะเปิดขายในช่วงครึ่งปีหลังคือ Mews-เย็นอากาศเป็นทาวน์โฮมซึ่งขายล่วงหน้าได้แล้ว 2 ยูนิตจากทั้งหมด 9 ยูนิต และ The Loft Asoke คอนโดฯ 28 ชั้น 128 ยูนิต สำหรับรับรู้รายได้ในปี 2017
ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 6 พันลบ. ปลายมี.ค.มียอดขายรอโอน (backlog) 8.7 พันลบ. คาดจะโอนปีนี้ประมาณ 3 พันลบ.และมีคอนโดพร้อมขายมูลค่า 4.4 พันลบ.(จาก The River, Zire วงศ์อมาตย์ และ 185 ราชดำริ) ซึ่งคาดว่าต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการระบายสต๊อกและให้ทำได้ตามเป้า ทั้งนี้ สถานการณ์ตลาดอสังหาฯที่ชะลอตัวตั้งแต่ต้นปีทำให้ผู้บริหารกำลังชั่งใจว่าจะยอมชะลอ การลงทุน เพราะไม่อยาก เผชิญกับสภาวะ Over Supply
กำหนดประชุมผถห.ในวันที่ 29 พ.ค.เพื่อขอมติแจกฟรี RML-W4 อายุ 3 ปี อัตราส่วน 4:1 อัตราส่วนการแปลงสภาพ 1:1 ราคาใช้สิทธิ 1.97 บาท กำหนด XW 5 มิ.ย. และขออนุมัติเพิ่มทุนแบบ PP แบบ General Mandate เพื่อเปิดทางไว้สำหรับพันธมิตรในอนาคตโดยระบุว่าราคาเสนอขายจะไม่ต่ำกว่า 2 บาท
หุ้นเด่นรายวัน
SGP: (ราคาปิด 11.70 ซื้อเก็งกำไร)
ส่งซิก Q2/2558 ผลงานพลิกกำไรจากช่วงเดียวปีก่อนขาดทุน 95.97 ล้านบาท รับอานิสงส์ราคาแอลพีจีพุ่ง แถมรัดเข็มขัดคุมต้นทุนแจ๋ว พร้อมย้ำเป้าปีนี้รายได้แตะ 6 หมื่นล้านบาท จากดีมานด์ทะลัก บิ๊ก "จินตนา กิ่งแก้ว" ควักงบเฉียด 100 ล้านบาท เปิด 5 สถานีบริการทั่วไทย ขยายฐานเพิ่ม (ที่มา...ทันหุ้น)
เทคนิค : กำลังฟอร์มตัวรูปแบบกลับตัว U Shape อีกทั้งปิดสร้างแท่งเทียนเขียวและมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นสนับสนุนมีลุ้นทดสอบแนวต้านที่ 12.30 บาท แนวรับ 11.40 / 10.80 Cut loss 10.50
CCP : (ราคาปิด 1.2 ซื้อเก็งกำไร)
จัดทัพขยายไลน์ผลิต "หมอนรถไฟคอนกรีต" หวังรับบิ๊กโปรเจ็กต์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม 1.99 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ผู้บริหารมีแนวคิดตั้งบริษัทย่อย ทุ่มงบซื้อเครื่องจักรใหม่ลุยธุรกิจเต็มสูบ ส่วนผลงาน Q2/2558 หรู เตรียมส่งมอบออเดอร์ (ที่มา : ทันหุ้น)
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -53.72 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 53.72 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 18,232.02 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 4.76 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 2,126.06 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.43 หรือ 0.03% ปิดที่ 5,089.36 จุดหลังจากที่เคลื่อนไหวอย่างผันผวน ในระหว่างที่นักลงทุนรอประเมินการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงบ่าย
ตลาดน้ำมัน NYMEX : -1.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.72 ดอลลาร์/บาร์เรลจากแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่ปิดพุ่งแรงเมื่อวันก่อน รวมทั้งจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร
บุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์