- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 22 May 2015 23:42
- Hits: 1297
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ”ไม่หวั่นแม้ธนาคารกดดัน”
SET ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางรอบบ้านที่เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อปัญหา NPL ของธนาคารที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่สามารถกดดันดัชนีได้จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นที่กระจายในทุก Sector ปิดตลาด SET Index เพิ่มขึ้นสู่ 1,526.25 จุด เปลี่ยนแปลง +6.14 จุด (+0.40%) Vol 3.7 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) แนวโน้มดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง หลังเจ้าหน้าที่ FED มีความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ล่าช้า หลังการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรก สร้างการคาดหมายถึงการชะลอการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
(+) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุ 60 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังผู้ผลิตยานยนต์คาดว่าในช่วงเทศกาลวันหยุด Memorial Day จะมีความต้องการน้ำมันมากที่สุดในรอบ 10 ปี
(+) กสทช. และ กทค. ยืนยันสามารถดำเนินการได้ภายในไตรมาส 4 ปี 58
(+) Fund Flow ต่างชาติมี Net Buy ติดต่อเป็นวันที่ 2 มูลค่า 9 ร้อยล้านบาท รวม 2 วัน Net Buy ติดต่อกันมูลค่า 3 พันล้านบาท
(-) สหรัฐรายงานตัวเลขเศรษฐกิจอ่อนแอ โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด เช่นเดียวกับยอดขายบ้านมือสอง
(-) ความกังวลต่อปํญหา NPL ในระบบธนาคารในประเทศ หลังปัญหาคุณภาพสินเชื่อมีเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 1
(+/-) IMF แสดงข้อมูลให้เห็นว่าแทบไม่มีโอกาสที่กรีซจะชำระคืนหนี้ได้ตามกำหนดในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ เป็นปัจจัยเร่งต่อการเจรจา
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* การแถลงเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในวันศุกร์นี้
* การรายงานตัวเลข CPI เดือนเมษายนของสหรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อการดำเนินนโยบายด้านดอกเบี้ยของ FED
* ความคืบหน้าการเจรจาหนี้กรีซ หลังกรีซมีกำหนดชำระหนี้รวม 1.5 พันล้านยูโรต่อ IMF ในเดือนหน้า ช่วงวันที่ 5
กลยุทธ์การลงทุน “ขึ้นมา Take Profit”
คาดหมายการเคลื่อนไหวทรงตัวของดัชนีในวันนี้ จากภาพรวมที่ขาดปัจจัยที่โดดเด่น ส่งผลให้หุ้นขนาดกลางและเล็กมีบทบาทต่อดัชนีมากขึ้นด้วยปัจจัยเฉพาะตัว ขณะที่ภาพรวมในระยะกลางประเด็นค่าเงินสหรัฐ และการเจรจาหนี้ของกรีซยังคงเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อดัชนี ด้านในประเทศความกังวลต่อปัญหา NPL ของอุตสาหกรรมธนาคารเริ่มกดดันมากขึ้น ทำให้เรามองว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีมีจำกัด มองการปรับขึ้นเป็นโอกาสในการขายทำกำไร สร้าง GAP เพื่อรอสะสมใหม่อีกครั้ง เน้นหุ้นปันผล เช่าซื้อ
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
INTUCH เก็งกำไร
* INTUCH เป็นหุ้น High Dividend Yield ที่ให้อัตราปันผลปี 58 สูง 7% ต่อปี ซึ่งน่าสนใจในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดต่ำ
* บ.ลูกทั้ง ADVANC และ THCOM มีปัจจัยหนุนการเติบโตผ่านการประมูล 4G และการลงทุนดาวเทียม TC8
* ราคาปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่า NAV ที่ 93 บาทราว 17%
SAWAD เก็งกำไร
* ได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่เป็นขาลง ลดต้นทุนทางการเงิน
* คาดพอร์ตสินเชื่อคงค้างในปีนี้ที่ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาทจากเดิม 9 พันล้านบาท จากการขยายสาขา และการซื้อหนี้เสียเข้ามาบริหาร
* ได้รับผลดีจากโครงการนาโนไฟแนนซ์ หลัง MOF อนุมัติใบอนุญาตดำเนินงาน
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ