WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

GBX copyบล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

Market View : ผันผวนในกรอบ
หุ้นแนะนำเทคนิค : KKC TVT
Analyst meeting : CBG BIG SAMART
หุ้นเด่นรายวัน : RATCH ANAN

  SET วานนี้อ่อนตัวลงจากแรงขายกลุ่มพลังงานที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง รวมถึงแรงขายกลุ่มธนาคารหลังจาก KBANK ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงซึ่งกดดันต่อ NIM ของกลุ่มธนาคาร ส่งผลให้ SET ปิดบวกที่ 1,520.11 จุด (-5.85 จุด) Volume 4.4 หมื่นลบ. ทั้งนี้ Foreign Net Buy 1,984 ลบ. , Net Sell TFEX 4,679 สัญญา

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
  ปัจจัยบวก/ลบที่คละเคล้า ได้แก่
  +/- คาดว่า FED จะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ Q1/58 ที่ซบเซา
  + รมว.คมนาคมของไทยเตรียมเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงเข้าสู่การพิจารณาของครม.ในเดือน มิ.ย.-ก.ค.
  +/- Fundflow ต่างชาติพลิกกลับเป็น Net Buy หุ้น 1.9 พันลบ. แต่ยังคง Net Short TFEX ต่อเนื่องอีก 4.6 พันสัญญา
  - การปรับลดอัตราดอเบี้ยเงินกู้ลงของธพ.ขนาดใหญ่ นำโดย KBANK SCB จึงคาดว่าธนาคารอื่นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยลงตาม ซึ่งกระทบต่อ NIM และกดดันต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร


ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวผันผวนในกรอบ 1,510 – 1,530 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
  SET มีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวน ดังนั้นแนะนำให้เก็งกำไรเป็นรอบในกรอบ 1,510 – 1,530 จุด โดยแนะนำเก็งกำไรในกลุ่มที่มีปัจจัยบวก เช่น หุ้นกลุ่มรับเหมา (ITD CK STEC UNIQ SEAFCO PYLON) ที่ได้รับอานิสงส์จากการที่รัฐประกาศขับเคลื่อนการลงทุนบิ๊กโปรเจ็กต์

หุ้นกลุ่ม Finance (เช่าซื้อ) ที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงขอธนาคารพาณิชย์ ( LIT GCAP THANI ECL GL )
  ประเด็นลบ อัยการสูงสุดระบุกสทช. เจ้าของช่องเลื่อนจ่ายค่าประมูลงวด2 ไม่ได้ เป็นลบต่อกลุ่ม TV digital ( WORK RS MONO GRAMMY )

 

Analyst Meeting
CBG : ราคาปิด 43.75 บาท consensus สูงสุด 47 บาท
  รายงานกำไรสุทธิ 1Q58 313 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%QoQ, 30%YoY ยอดขายทรงตัวที่ 1.7 พันล้านบาท สัดส่วนยอดขายในต่างประเทศ +2 % สู่ระดับ 30% ซึ่งประมาณ 62% จากประเทศกัมพูชา ส่วนยอดขายในประเทศมาจากร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (โชห่วย) ประมาณ 71% โดยสินค้าเครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวแดง” ยังสร้างยอดขายเกือบ 100 %
  ด้านต้นทุนขายลดลงเนื่องจากมีการผลิตขวดแก้วเองส่งผลให้ต้นทุนค่าขวดแก้วลดลง 0.25-0.35 บาทต่อขวดช่วยหนุนกำไรขั้นต้นเพิ่ม 6% สู่ระดับ 38.8% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากค่าเงินเดือนเนื่องจากมีการเปิดสายการผลิตใหม่
  ผู้บริหารยังตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20% แม้ว่ายอดขายใน 1Q58 จะแทบไม่เติบโตแต่เชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมียอดสั่งซื้อจากต่างประเทศและการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น แผนงานในอนาคตมีการตั้งศูนย์กระจายสินค้า 9 แห่งและลงทุนรถขนส่ง 105 คันเพื่อให้สามารถกระจายสินค้าได้อย่างทั่วถึงมากขึ้นซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้

 

BIG : ราคาปิด 1.10 บาท
  ธุรกิจจำหน่ายกล้อง อุปกรณ์ถ่ายภาพ มือถือและอุปกรณ์ มี Market share อับดับ 1 ในอุตฯราว 50%
  คาดกำไรปี 2015 เติบโตสูง เนื่องจากเฉพาะกำไร Q1/15 = 73 ลบ. +102%YoY (คิดเป็น 53% ของทั้งปี 2014) โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2015 ขยายตัวขึ้น 10% เป็น 3,800 ล้านบาท จากการเปิดสาขาเพิ่มอีก 10 สาขาเป็น 250 สาขา (ปัจจุบันมีร้าน Big Camera 214 สาขา และ ร้าน Big Mobile 23 สาขา) และจะเน้นสินค้าที่มี Margin สูงเพื่อรักษา Net Margin ระดับ 6.6% และช่วงQ2/15 เตรียมเปิดให้บริการล้างภาพจากสมาร์ทโฟนเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ถ่ายภาพผ่านสมาร์ทโฟน

 

SAMART : (ราคาปิด 25.75 consensus 34.50)
  กำไร Q1/58 เท่ากับ 273 ล้านบาท ลดลง14%qoq และ 33%yoy เชื่อว่าเป็นจุดต่ำสุดรายไตรมาสของปีนี้ Q2 มีแนวโน้มดีกว่า Q1 และครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก
บริษัทมีแผนนำบริษัท I-SPORT ซึ่งเป็นบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาด MAI ภายในปีนี้หรือต้นปีหน้า
  ขณะที่บริษัทลูกมีแผนขายเงินลงทุนในหุ้น IPO ในตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งคาดจะมีกำไรราว 60 ล้านบาท
  อนาคตรายได้มีแนวโน้มมีเสถียรภาพมากขึ้นจากธุรกิจพลังงาน(โรงไฟฟ้าจากขยะและถ่านหิน)

 

หุ้นเด่นรายวัน
RATCH : (ราคาปิด 60.00 Consensus เฉลี่ย 67.75)
  ใส่เกียร์ลุยธุรกิจพลังงานเต็มสูบ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งผนึกพันธมิตรเก่า-ใหม่ ขยายโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในต่างประเทศเพิ่ม โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน เช่นโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในอินโดนีเซียร่วมลงทุนกับกลุ่มบ้านปู และโครงการโรงไฟฟ้ามะริด จ่อลงนาม MOA กับเมียนมาร์เดือนมิถุนายนนี้ (ที่มา...ทันหุ้น)
  เทคนิค : ราคาเริ่มสร้างฐานที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้และมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นทำให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ โดยมีแนวรับ 59.00 แนวต้าน 61.00 / 62.50 Cut loss 58.50

ANAN : (ราคาปิด 3.56 ซื้อเก็งกำไร)
  ทำข้อตกลงร่วมทุนกับบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง เรสซิเด็นเชียล จำกัด (MFR) เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวรถไฟฟ้าในไทย เพิ่มอีก 5 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 19,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4,200 ยูนิต ขณะที่การเปิดขายโครงการใหม่ได้กระแสตอบรับดีมียอดจองสูงกว่าเป้า 356%

 

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -26.99 จุด
  ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,285.40 จุด ลดลง 26.99 จุด หรือ -0.15% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,071.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.71 จุด หรือ +0.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,125.85 จุด ลดลง 1.98 จุด หรือ -0.09%
  หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในเดือนมิ.ย.นั้น อาจจะไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

ตลาดน้ำมัน NYMEX : +0.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
  สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ ปิดที่ 58.98 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

 

Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร
บุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!