- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 18 May 2015 16:29
- Hits: 1617
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังแกว่งบวกให้ถือรอขายได้ แต่กรอบบวกเริ่มจำกัด
กลยุทธ์ : SET เริ่มมีจังหวะรีบาวด์กลับมาแกว่งบวกได้ดีขึ้น ทำให้ FSS ยังคาดหมายถึงโอกาสที่ดัชนีจะแกว่งขึ้นต่อเนื่องได้อีกสักพัก เราจึงยังแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอจังหวะขายทำกำไรช่วงบวก แต่ด้วยประเด็นเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอและไม่มีสัญญาณฟื้นตัว ทำให้เราคาดว่ากรอบขยับขึ้นเริ่มจำกัด ดังนั้นเน้นขายลดพอร์ตช่วงบวกและยังไม่ซื้อเพิ่ม เพื่อรอดูความชัดเจนอีกครั้ง ส่วนถ้าจะเลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งตามรอบ น่ารอช่วง SET อ่อนตัวลงค่อยพิจารณาหาจังหวะซื้อดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SYNTEC, THCOM, BH(buy back)
แนวโน้ม : ช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้ว SET มีจังหวะรีบาวด์กลับมาแกว่งบวกได้ดีขึ้น ทำให้ FSS คาดว่ายังลุ้นโอกาสที่ดัชนีจะยังแกว่งบวกต่อเนื่องได้อีก โดยตลาดหุ้นสหรัฐปลายสัปดาห์ก่อนยังสามารถปิดบวกเล็กน้อยได้ แม้ว่าตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐจะออกมาย่ำแย่กว่าคาด แต่ก็ทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดเป็นลบ จึงกดดันให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังแกว่งตัวค่อนข้างผันผวน ซึ่งอาจส่งผลให้ SET มีลักษณะแกว่งตัวผันผวนในจังหวะบวกขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจึงยังแนะนำให้เน้นถือเพื่อรอขายทำกำไรในช่วงบวกต่อไปได้ อย่างไรก็ตามจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังอ่อนแอและมีความไม่แน่นอนสูง ทำให้ FSS มีการปรับลดคาดการณ์ระดับดัชนีเป้าหมายของปี 2558 ลงจากเดิมพอควร ซึ่งทำให้ upside เริ่มจำกัดมากขึ้น (ติดตามรายละเอียดในรายงานฯ ที่จะออกตามมา) เราจึงแนะนำให้ชะลอการซื้อเพิ่มไว้ก่อน โดยเฉพาะในช่วงตลาดบวก
แนวรับ 1510-1506 , 1502-1498 จุด
แนวต้าน 1517-1520 , 1526-1532 จุด
Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านมาไหลเข้าตลาดหุ้นภุมิภาคเพิ่มขึ้นเป็น US$571 ล้าน จาก US$382 ล้านในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนศุกร์ที่ผ่านมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณหนาแน่น โดยซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$465.9 ล้าน และไต้หวัน US$40.8 ล้าน ขณะที่ขายไทย US$21.6 ล้าน อินโดนีเซีย US$12.3 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$2.5 ล้าน และเวียดนาม US$1.7 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow น่าจะไหลเข้าต่อแต่เบาบาง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ตลาดคาด GDP 1Q15 +3.3% Y-Y, +0.5% Q-Q ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าแม้ GDP อาจต่ำกว่าคาด เพราะตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในระยะหลังไม่ค่อยดีนัก และหากต่ำกว่าคาด อาจทำให้กนง.ปรับดอกเบี้ยลงอีกในการประชุม 10 มิ.ย. ล่าสุดเราปรับ GDP ปีนี้เหลือ 3% จากเดิม 3.8%
(-) ปรับ SET Target ลงเหลือ 1,560 จุด จากเดิม 1,680 จุด อิง PE 16 เท่า (+1.5SD) จากการปรับประมาณการการเติบโตของ EPS ปี 2015 ลงเหลือ 28% Y-Y จากเดิม 33% Y-Y จากกำไรของบจ.ที่อ่อนแอกว่าคาด ปรับลด GDP ปีนี้ลงเหลือ 3.0% จากเดิม 3.8% แต่กรณีดีสุดหากภาครัฐเร่งให้มีการประมูลโครงการขนาดใหญ่ในช่วงที่เหลือของปีและ Fed เลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเป็นปีหน้า EPS growth ในปีนี้มีโอกาสขยับขึ้นเป็น 30% Y-Y และ SET Target มีโอกาสปรับขึ้นเป็น 1,620 จุด
(-) ผลประกอบการ 1Q15 สะท้อนเศรษฐกิจที่ฟื้นช้ากว่าคาดมาก หากไม่รวมกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันดิบที่ผันผวนตามราคาน้ำมันในตลาดโลก กำไรปกติของหุ้นใน FSS Coverage ใน 1Q15 +8.3% Q-Q (กลุ่มท่องเที่ยวเป็นกลุ่มหลักที่ช่วยผลักดัน) และ +11.5% Y-Y (จากฐานต่ำใน 1Q14 ที่มีเหตุการณ์ทางการเมือง) แต่เป็นกำไรที่ไม่มีคุณภาพเพราะเกิดจากการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย แต่ข้อดีคือกำไรใน 1Q15 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี การฟื้นตัวจะดีขึ้นใน 2H15
(+) GPSC ปัจจุบันมีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 1,315 MW และจะเพิ่มขึ้น 40% เป็น 1,851MW ในปี 2019 เราคาดปี 2015 กำไรสุทธิโต 25% Y-Y เป็น 1,974 ล้านบาท จากการรับรู้กำไรจากโครงการ IRPCCP – I และโตต่อเนื่อง 11% Y-Y ในปี 2016 จากการเริ่มรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้านวนคร (NNEG) และเติบโต 21.5% ในปี 2017 จากการเริ่มรับรู้กำไรจากโครงการ IRPCCP –II, NL1PC และ BIC2 เราประเมินมูลค่าหุ้นได้เท่ากับ 33 บาท (DCF) และคาด Dividend yield 3.5-4.5% ต่อปี (FSS เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ GPSC)
(-) TUF กำไรต่ำผิดคาด กำไรสุทธิ 1Q15 ที่โดดเด่น 1.5 พันล้านบาทมาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนถึง 1.1 พันล้านบาท กำไรจากการดำเนินงานหลัก -46% Q-Q, -21% Y-Y ต่ำสุดในรอบ 7 ไตรมาส จากการลดลงของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ถูกกระทบจากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่า เราปรับกำไรปีนี้ลง 12% เหลือโต 20% Y-Y ปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 22.50 บาทจาก 25 บาท ลดคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมซื้อ
(+) CK กำไรเป็นไปตามคาด กำไรปกติ +3% Q-Q, -49% Y-Y รายได้จากงานก่อสร้างหลักๆในไตรมาสนี้มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีเขียว และทางด่วนศรีรัช เรายังคงคาดกำไรปกติปีนี้ทรงตัวจากปีก่อน แต่มี Upside จากการซื้อหุ้นไซยะบุรีและการควบรวม BMCL และ BECL หากการควบรวมแล้วเสร็จ กำไรโอกาสเติบโต 24% Y-Y ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 33 บาท
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมายังปิดในแดนบวกได้เล็กน้อยโดยตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังถูกชดเชยได้ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงและดอลลาร์ที่อ่อนค่า
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนลบโดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อ่อนแอ ส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์และกระทบต่อหุ้นในกลุ่มส่งออก
ซึ่งจากบรรยากาศการลงทุนที่ไร้ปัจจัยบวกที่ชัดเจนส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบๆ
ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวค่อนข้างผันผวน ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 33.40-33.54 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 59.69 เหรียญ/บาร์เรล ขยับลง 0.19 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในวันนี้หลังมีรายงานว่าการปรับตัวลงของจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯใกล้จะถึงจุดสิ้นสุดเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น 9 สัปดาห์ติดต่อกัน
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,225.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับขึ้น 0.10 เหรียญ/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนรวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง ซึ่งทำให้ FED อาจยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
18 พ.ค. - ไทย: 1Q15 GDP (ตลาดคาด +3.3% Y-Y), GPSCเข้าเทรดวันแรก
19 พ.ค. - ไทย:ศาลฏีกานัดพิจารณาคดีจำนำข้าวครั้งแรก
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI)ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (เม.ย.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
20 พ.ค. - ไทย:ยอดขายรถ (เม.ย.)
- ญี่ปุ่น: 1Q15 GDP (ตลาดคาด +1.6% annualized Q-Q)
- สิงคโปร์: 1Q15 GDP (ตลาดคาด +1.6% Q-Q)
21 พ.ค. - จีน:HSBC China Manufacturing PMI (พ.ค.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (เม.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (พ.ค.),ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ค.)
22 พ.ค. - ญี่ปุ่น BOJประชุม
- สหรัฐ:อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
25 พ.ค. - ไทย:ดุลการค้า (เม.ย.)
- ตลาดหุ้นสหรัฐ ฮ่องกง เกาหลีใต้ ปิดทำการ
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research