- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 15 May 2015 16:33
- Hits: 1386
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ แกว่งตัวระหว่าง 1,485-1,500 จุด กลุ่มหลักอย่างวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มพลังงาน ยังคงเป็นตัวแปรกดดันตลาดหุ้นไทยในภาพรวม แต่การฟื้นตัวของกลุ่ม ICT และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างในรอบบ่าย บวกกับค่าเงินบาทที่ทรงตัวดีขึ้น ทำให้ SET INDEX สามารถปิดบวกได้เล็กน้อย 1.45 จุด มาอยู่ที่ 1,497.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,712 ล้านบาท
แม้ว่าเงินบาททรงตัวได้ดีขึ้น แต่เงินทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันอีกครั้ง ขายสุทธิตลาดหุ้นไทย 754 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีก 4,777 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 7 อีก 2,715 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กพช. อนุมัติแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP) และกำหนดวันออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ FiT ในเดือนก.ค. 2558
เหตุระเบิดที่จังหวัดยะลา 17 จุด
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
การประกาศ GDP ใน 1Q58 ของไทยเช้าวันที่ 18 พ.ค. Bloomberg consensus คาด 3.4% yoy แต่ลดลง 0.7% qoq
คสช. และ ครม. เตรียมพิจารณาการทำประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญ วันที่ 19 พ.ค.
การไต่สวนนัดแรก อดีตนายกฯ คุณยิ่งลักษณ์ คดีจำนำข้าว วันที่ 19 พ.ค.
ติดตามประมาณการกำไรสุทธิปี 2558 ของตลาดหุ้นไทย หลังสิ้นสุดการประกาศงบ
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองเป็น "กลาง" วันที่ 34 พร้อมประเมินกรอบแกว่งใกล้เคียงกับวานนี้ ระหว่าง 1,485 -1, 505 จุด มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบางระดับ 3.0-3.5 หมื่นล้านบาท เพราะขาดปัจจัยใหม่ทั้งด้านบวก และ ลบ มากำหนดทิศทางการลงทุนที่ชัดเจน
ณ ปัจจุบัน นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ต่างรอดูตัวเลข GDP ใน 1Q58 ของไทยในเช้าวันจันทร์ที่ 18 พ.ค. ณ ปัจจุบัน Bloomberg consensus คาดเติบโต 3.4% yoy แต่หดตัว 0.7% qoq รวมถึงมุมมองเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ผ่านสศค. ถึงโอกาสที่จะปรับประมาณการเป้าหมายลงได้อีกหรือไม่ โดยเฉพาะภาคการส่งออก หลัง กนง. ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งล่าสุด และทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าถึง 2.0 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
อีกทั้งประเด็นการเมืองที่กลับมาอยู่ในเรดาร์ของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศอีกครั้ง ต่อกรณีการลงประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่ง ครม.และ คสช.จะพิจารณาประเด็นนี้ในวันที่ 19 พ.ค. หากมีมติให้ดำเนินการลงประชามติ นั่นย่อมหมายความว่า การเลือกตั้งทั่วไปจะต้องยืดเวลาออกไปอีก 2-3 เดือนเป็นอย่างน้อย
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศในสัปดาห์หน้า ขาดความโดดเด่น เพียงแต่เป็นการติดตามพัฒนาการกรณีกรีซ ที่ยังไม่คืบหน้า กับการเจรจาแผนปฎิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ และการเคลื่อนไหวผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ขยับขึ้นเด่นในสัปดาห์ล่าสุด อาจกลายเป็นแรงกดดันต่อต้นทุนทางการเงินของทั้งรัฐบาล และ เอกชน ของสหรัฐฯ ได้ ซึ่งน่าจะเป็นอีกตัวแปรที่เฟดจะต้องให้ความสนใจต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินจากนี้ไป
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.32 น.) Nikkei-Kospi เปิดบวก สอดคล้องกับ DJIA คืนวานนี้ที่ปิดบวกเด่น แม้ว่าจะไม่มีปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุนก็ตาม
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนยังคงใช้กลยุทธ์ ขึ้นแรงขาย - ลงแรงซื้อ" เป็นอีกสักระยะหนึ่ง
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA/ THAI/ BCP
Speculative Buy: TIPCO
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ ""ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. TIPCO : ราคาปิด 8.05 บาท ราคาเหมาะสม 11.89 บาท***
a) TIPCO รายงานกำไรสุทธิ 1Q58 ที่ 318 ล้านบาท (EPS 0.66 บาท) เติบโต +442% yoy จากอานิสงค์ของส่วนแบ่งกำไรจาก TASCO ที่เติบโต +348% yoy เป็น 276 ล้านบาท เนื่องจาก TIPCO ถือหุ้น 24.1% ใน TASCO
b) ธุรกิจน้ำผลไม้มีพัฒนาดีขึ้น โดยหากไม่รวมส่วนแบ่งกำไรจาก TASCO จะมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 52 ล้านบาท +224% yoy และพลิกกลับจากขาดทุนใน 4Q57
c) MBKET ประเมินว่าราคาหุ้น Undervalue มากเกินไป เนื่องจากหากคิดเฉพาะมูลค่าเงินลงทุน 24.1% ใน TASCO อิงราคาปิดวานนี้ที่ 14.00 บาท ก็คิดเป็นมูลค่า NAV สูงถึง 10.7 บาทต่อหุ้น TIPCO แล้ว
d) แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" หลังรายงานงบ 1Q58 ออกมาดี และธุรกิจน้ำผลไม้พลิกกลับเป็นกำไร qoq เป็น Sentiment บวกต่อราคาหุ้น แม้ว่า TIPCO จะไม่ได้อยู่ใน Coverage แต่หากอิงเป้าหมาย TASCO ของเราที่ 15.50 บาท จะเทียบเท่ามูลค่า 11.89 บาทต่อหุ้น TIPCO มี Upside 48%
*** เนื่องจาก TIPCO ไม่ได้อยู่ใน Coverage ของเรา นักลงทุนจึงต้องใช้วิจารณญาณในการลงทุนมากกว่าปกติ
Fund Flow Analysis
und Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียกลับมาขายสุทธิ US$256 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$228 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 754 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับเป็น 8,986 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมา Short สุทธิอีกครั้ง 4,777 สัญญา เมื่อ S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 4 เพียง 0.63 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 0.71 จุด และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้กลัมามีสถานะเป็น Short สุทธิอีกครั้ง 2,936 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเป็นวันที่ 7 อีก 2,715 ล้านบาท รวม 7 วันทำการ ขายสุทธิ 24,754 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยทรงตัวดีต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 0.22bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.06bps ปิดที่ 2.864%
เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อค่าเงินบาททรงตัวดีขึ้น นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาทยอยลดน้ำหนักการลงทุนในไทย ทั้งตลาดหุ้น และตลาดตราสารหนี้พร้อมกันอีกครั้ง สะท้อนความไม่เชื่อมั่นต่อภาพรวมเศรษฐกิจของไทย
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เพิ่มขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เท่ากับ 1,223 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,105 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิอีกครั้ง โดยกลุ่มธนาคารถูกลดน้ำหนักต่อเนื่อง
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิ 494 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 815 ล้านบาท ด้วยการลดน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธนาคารเด่นต่อเนื่อง สรุปภาพรวมของ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 465 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 272 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพลังงาน ขายสุทธิ 127 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 105 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ขายสุทธิ 119 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 203 ล้านบาท และกลุ่มขนส่ง ขายสุทธิ 108 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มอสังหาฯ กลับถูกซื้อสุทธิสูงสุด 173 ล้านบาท ตามาด้วยกลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 108 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 720 ล้านบาท และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซื้อสุทธิ 100 ล้าน
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
ยอดขอสวัสดิการว่างงานใหม่ สิ้นสุดสัปดาห์ก่อน 2.64 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 2.76 แสนตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.65 แสนตำแหน่ง
ยุโรป
พัฒนาการของกรีซ
กรีซเตรียมแปรรูปการท่าเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ และสนามบินในภูมิภาค เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของการรับเงินช่วยเหลือจาก Troika ทั้งนี้จะมีการตัดสินใจในประเด็นดังกล่าวเร็วๆ นี้
จีน
ธนาคารกลางจีนขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์จีนให้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก: หลังมีการประชุมร่วมกับธนาคารพาณิชย์จีนวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา เพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยถือว่าเป็นความเสี่ยงที่สูงสุดในการปฎิรูปโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยของจีน
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางรัสเซียเข้าซื้อเงินรูเบิ้ลครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.: รายงานยอดซื้อเงินรูเบิ้ลสุทธิคิดเป็นมูลค่า US$100-200 ล้าน/วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. โดยธนาคารกลางจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้มีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปอย่างจำกัด หลังเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลงเป็น US$3.855 แสนล้าน ณ สิ้นปี 2557 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คงอัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยนโยบาย Overnight Deposit เป็น 4.00% และอัตราเงินฝากพิเศษที่ 2.50% สอดคล้องกับ Bloomberg consensus พร้อมยืนยัน นโยบายการเงิน ณ ปัจจุบัน เหมาะสมกับสภาพรวมเศรษฐกิจ และสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อในอนาคตได้
ดัชนีค้าส่งอินเดียหดตัวต่อเนื่อง: เดือน พ.ค. หดตัว 2.65% yoy จากเดือน เม.ย.หดตัว 2.33% yoy และเป็นการหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาหดตัว 2.30% yoy นำโดยราคาพลังงานที่หดตัวแรง 13.03% yoy ขณะที่ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 5.73% yoy
ไทย
คลังหวัง GDP ปีนี้ขยายตัว 3.5%: รมว.คลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 3.5% ถือว่าขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ขยายตัวได้เพียง 0.7% แต่เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้น้อยกว่า มาเลเซีย เกาหลีใต้ และจีน เป็นผลจากการส่งออกของไทยไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และยืนยันว่าเศรษฐกิจไทย ขณะนี้อยู่ในช่วงชะลอตัว ไม่ใช่เงินฝืด ปัญหาเศรษฐกิจไทยขณะนี้เกิดจากส่งออกไม่เป็นไปตามเป้าหมายเงินก็ไม่เข้ามา
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530