- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 17 June 2014 15:34
- Hits: 3124
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังมีลุ้นอ่อนตัวให้ได้ทยอยซื้อช่วงลบอยู่ ส่วนมีอยู่แล้วเน้นถือ
กลยุทธ์ : SET รีบาวด์กลับขึ้นมาได้ดีเกินคาด โดยสามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ดังนั้นมีโอกาสที่ SET จะยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวบวกต่อเนื่องได้ แต่คาดว่าจะมีลักษณะแกว่งตัวผันผวนเป็นระยะ ดังนั้นรอจังหวะซื้อเมื่อตลาดอ่อนตัว โดยหลังจากซื้อแล้วให้เน้นเป็นถือลงทุน หรือเทรดดิ้งกรอบกว้างได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : EE, SPVI, GFPT(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวค่อนข้างผันผวน ก่อนที่จะปิดเป็นบวกเล็กน้อย โดยยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ หลังผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรักอยู่ ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่าสหรัฐได้ส่งทหารกว่า 275 นายเข้าประจำการ เพื่อสนับสนุนด้านความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่สหรัฐในสถานทูตอเมริกาที่กรุงแบกแดดแล้ว แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในเอเชียมากนัก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่ยังคงเปิดเคลื่อนไหวในด้านบวกอยู่ในเช้าวันนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ก็สามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาได้ค่อนข้างดี ทำให้ยังมีลุ้นโอกาสแกว่งบวกต่อเนื่องได้ แต่ก็ต้องตามระวังแรงขายทำกำไรกดดันให้แกว่งผันผวนไว้ด้วย เพราะนักลงทุนต่างประเทศในบ้านเราเริ่มกลับมามียอดขายสุทธิต่อเนื่องอีกครั้ง ทำให้ FSS คาดว่า SET จะยังมีจังหวะแกว่งตัวทั้งด้านบวกและลบให้เห็นได้ ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอซื้อช่วงตลาดอ่อนตัวดีกว่า
แนวรับ 1470-1466 , 1463-1460 จุด แนวต้าน 1475*** , 1480-1490 จุด
Fund Flow กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเมื่อวานนี้ โดยส่วนใหญ่ไหลเข้าตลาดไต้หวัน US$174 ล้าน ขณะที่ไหลออกทุกประเทศในกลุ่ม TIP และมากที่สุดที่ประเทศไทย US$36 ล้าน เนื่องจากกังวลสถานการณ์ในอิรัก แนวโน้มกระแสเงินทุนในภูมิภาคอาจยังคงเบาบางจากความรุนแรงในอิรักที่ยังคงอยู่
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) กนร.ถกแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าววันนี้ ปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวในไทยทั้งหมด 3.2 ล้านคน เป็นแรงงานที่ถูกฎหมาย 2.2 ล้านคน และผิดกฎหมาย 1 ล้านคน ในจำนวนที่ผิดกฎหมายเป็นแรงงานจากพม่า 80% กัมพูชา 15% และลาว 5% ข่าวกวาดล้างแรงงานต่างด้าวไม่เป็นความจริงแต่ก็ผลักดันให้มีแรงงานออกนอกประเทศเป็นจำนวนไม่น้อย ธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบหากขาดแคลนแรงงาน ได้แก่กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง การทำสวนยาง ประมง และร้านอาหาร แต่ส.อ.ท.คาดว่าผลกระทบจะจำกัดอยู่เพียงระยะสั้น 1 เดือน ระวังแรงขายหุ้นในกลุ่มรับเหมาที่ปรับขึ้นมาอย่างโดดเด่น
(0) PF เพิ่มทุนเพื่อเสนอซื้อ TPROP และ GRAND โดย PF จะเพิ่มทุน 4,776.6 ล้านหุ้น (พาร์ 1 บาท) เพื่อจ่ายเป็นค่าตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นของ TPROP (ในอัตราส่วน 1 TPROP ต่อ 0.5 PF) และของ GRAND (ในอัตราส่วน 1 หุ้น GRAND ต่อ 1.149123 หุ้น PF) ทั้งนี้ TPROP ถือหุ้น GRAND อยู่ 40.62% และมีแผนเพิกถอน TPROP ออกจากตลาดฯ ในกรณีที่ผู้ถือหุ้น TPROP ตอบรับการ tender ของ PF แต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยของ GRAND ส่วนที่ไม่ได้ถือโดย TPROP ไม่รับคำเสนอซื้อ มูลค่าตามบัญชี (Book value) ของ PF จะเป็น 1.59 บาท/หุ้น หาก PF ซื้อขายที่ PBV 1 เท่า มูลค่าที่ควรจะเป็นจะเท่ากับ 1.59 บาท แต่ในอดีต PF ซื้อขายที่ PBV เฉลี่ย 0.6-0.8 เท่า มูลค่าที่ควรจะเป็นคือ 0.95-1.27 บาท ทั้งนี้ PF จะจัดประชุมเช้านี้ เราจะเสนอความคืบหน้าต่อไป
(-) สินเชื่อของธนาคารขนาดเล็ก (TISCO, TCAP, KKP) ลด 0.46% M-M ในเดือน พ.ค. สะท้อนธุรกรรมของรายย่อยที่ยังไม่กลับสู่ปกติ ส่วนแนวโน้มเดือน มิ.ย. ยังไม่ฟื้นตัว ส่วน TCAP สินเชื่อเดือน พ.ค. ลดลง 0.19% M-M ลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน แม้สินเชื่อใหม่จะขยายตัวแต่ไม่สามารถชดเชยการชะลอตัวของสินเชื่อรายย่อย (เช่าซื้อ) สำหรับสินเชื่องวด 5M14 ของ TCAP ลดลง 0.91% YTD เราคาดว่าสินเชื่อใน 2Q14 จะทรงตัว Q-Q แต่กำไรน่าจะเพิ่มขึ้น 8% Q-Q เป็น 1.43 พันล้านบาท จากต้นทุนทางการเงินและการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญลดลง สำหรับธนาคารทั้ง 3 แห่งนี้ เราแนะนำซื้อ TCAP (ราคาเป้าหมาย 42 บาท) จาก Valuations ที่ถูกสุด (PE 7.8 เท่า, PBV 0.9 เท่า) ส่วน TISCO (ราคาเป้าหมาย 47 บาท), KKP (ราคาเป้าหมาย 48 บาท) แนะนำถือ
(0) AP ยอด Presales ของ 2 เดือนแรกใน 2Q14 ทำได้ 5.3 พันล้านบาท ดีขึ้นมากจาก 1Q14 ที่ขายได้เพียง 2.2 พันล้านบาท ทำให้ Presales 5M14 คิดเป็น 36% ของเป้าในปีนี้ แนวโน้มในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นเพราะจะมีโครงการเปิดใหม่อีก 8 โครงการ มูลค่ารวม 7.9 พันล้านบาท เรายังคาดกำไรปกติปีนี้ลดลง 0.7% Y-Y เป็น 2 พันล้านบาท แต่ปรับ Target PE ขึ้นสู่ระดับค่าเฉลี่ยที่ 9 เท่าจากเดิม 8 เท่า ทำให้ราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 6.30 บาทจาก 5.60 บาท ยังคงแนะนำเพียงถือ เพราะ upside ที่ยังต่ำกว่า 10%
(0) รายชื่อหุ้นเข้า-เอาออก SET50 และ SET100 มีผล 2 ก.ค. - 31 ธ.ค. 2014
SET50 หุ้นที่เข้าคำนวณ : KKP, M
SET หุ้นออก : CK, THAI
SET100 หุ้นเข้า: BJCHI, EARTH, M, MC, MEGA, NOK, NYT, PSL, THREL
SET100 หุ้นออก: ASP, CHG, JMART, MBK, N-PARK, SC, SF, SSI, TFD
(0) คาดกนง.คงดอกเบี้ยและ Fed 31 บาท) คานี้ไปแล้ว
ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาขยับตัวขึ้นได้อีกเล็กน้อยโดยได้รับแรงหนุนจากข่าวเรื่องการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งช่วยลดแรงกดดันจากสถานการณ์ความรุนแรงในอิรัก
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบต่อเนื่อง โดยปัจจัยกดดันตลาดยังเป็นเรื่องของสถานการณ์ความรุนแรงในอิรักซึ่งส่งผลต่อราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้านี้ในกรอบแคบๆโดยบรรยากาศการลงทุนในภาพรวมยังคงถูกกดดันจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิหร่าน
ค่าเงินบาทยังขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.40 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. ขยับลงเล็กน้อย 0.01 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 106.90 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้างหลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรง แต่อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิรัก
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,275.30 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสถานการณ์ความไม่สงบในอิรักส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17 มิ.ย. - ไทย: ยอดขายรถเดือน พ.ค.
- สหรัฐ: Housing start, Building permits (พ.ค.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (มิ.ย.)
17-18 มิ.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ย)
18-20 มิ.ย. - ไทย: ธนาคารรายงานสินเชื่อเดือน พ.ค.
18 มิ.ย. - ไทย: กนง.ประชุม (เราคาดคงดอกเบี้ยที่ 2%)
19 มิ.ย. - ไทย: TSR เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 3.50 บ.)
- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลางประชุม
23 มิ.ย. - ไทย: PCA เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 2.80 บ.)
- จีน: HSBC China Manufacturing PMI (มิ.ย.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (พ.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (มิ.ย.)
24 มิ.ย.
- ไทย: ดุลการค้า (พ.ค.), M-PAT เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 10 บ.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (พ.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852