- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 May 2015 18:22
- Hits: 1086
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index : แนวต้าน 1500 ผ่านได้ยังต้องรอทะลุ 1515 ขึ้นไป
SET Index : 1494.29 ฟื้นตัวเพิ่มขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ 1495-1500 จุด ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 1485-1495 จุดแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ แต่เราคาดว่า หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคาร และพลังงานมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไม่มาก จึงทำให้การปรับตัวลดลงมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 1495-1500 จุด ถ้าสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1510-1515 จุดขึ้นไป ในขณะที่ความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงอยู่ที่บริเวณ 1470 จุด
Energy : ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 20000 ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 20500 ในขณะที่แนวรับสำคัญอยู่ที่ 19400-19500 เน้นการถือหุ้นหลักต่อเนื่อง PTT PTTEP PTTGC TOP BANPU
Bank : เคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือจุดต่ำสุดเดิมที่ 530 ทำให้มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ 550 และมีแนวต้านสำคัญที่ 570 เน้นเข้าซื้อ BAY KBANK SCB BBL และ KTB
CPALL = 44.50 / 45.50, TRUE = 11.20 / 11.40, ADVANC = 237 / 240, PTTGC = 63.00 / 65.00, KBANK = 208 / 214
S50M15 : 990.70 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ 995 หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 985 ซึ่งเราได้แนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ใน S50M15 บริเวณ 985-988 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นมาปิดเหนือระดับ 1000 แต่ยังไม่สามารถกลับขึ้นไปได้ ดังนั้น ถ้า S50M15 สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1000 ได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1015
GFM15 : 19170 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 19200 ก่อนที่จะอ่อนตัวลงจากการแข็งค่าของเงินบาท แต่ราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ US$1200 และ US$1230 เราจึงยังคงแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ใน GFM15 ที่แนวรับ 19000-19050 และมีแนวต้านที่ 19300
USDM15 : 33.75 เราแนะนำเน้นการ Open Short ใน USDM15 ต่อเนื่องที่แนวต้าน 33.75-33.80 และมีแนวรับที่ 33.50 เป็นจุดขายทำกำไรสถานะ Short
TECHNICAL FOLLOW UP : แนวรับ แนวต้าน
SET Index ฟื้นตัวที่จุดต่ำสุดเดิมที่ 1485-1495 แนวต้านสำคัญ 1500 และ 1515 1494 / 1490 1500 / 1510
S50M15 Open Long ที่แนวรับ 985-988 แนวต้าน 1000 990 / 988 994 / 998
GFM15 รอกลับเข้าไป Open Long ที่แนวรับ 19000-19050 แนวต้าน 19300 19150 / 19100 19250 / 19300
USDM15 Open Short ที่แนวต้าน 33.75-33.80 แนวโน้มลงทดสอบ 33.60 และ 33.50 33.70 / 33.60 33.75 / 33.80
PTT แนวโน้มขึ้นทดสอบ 355 และ 360 350 / 348 354 / 355
IFEC ซื้อที่แนวรับ 9.70-9.75 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 10.70 และ 11.20 9.85 / 9.75 10.20 / 10.70
RS (RS TB; THB 13.70) - ซื้อ
แนวต้าน : 15.00 และ 15.50
แนวรับ : 13.70 และ 13.50
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เข้าใกล้แนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ในขณะที่เครื่องมือทางเทคนิคเกิดสัญญาณขัดแย้งในเชิงบวก จึงทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวที่บริเวณแนวรับสำคัญ
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง RSI ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 30
แนะนำซื้อ RS โดยมีแนวรับที่ 13.70 และ 13.50 และมีแนวต้านที่ 15.00 และ 15.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 13.00 ลงไป
Sherwood Chemicals (SWC TB; THB 8.30) - ซื้อ
แนวต้าน : 8.80 และ 9.00
แนวรับ : 8.30 และ 8.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรต่อเนื่องเข้าใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ในขณะที่โครงสร้างในระยะสั้นสามารถฟื้นตัวเหนือจุดต่ำสุดเดิม ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวที่บริเวณแนวรับสำคัญ
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยไปทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวลดลงทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 40
แนะนำซื้อ SWC โดยมีแนวรับที่ 8.30 และ 8.20 และมีแนวต้านที่ 8.80 และ 9.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 7.70 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...กำไรของตลาดเริ่มทรงตัวไม่แย่ลง
กำไรของตลาดหุ้นไทยปี 2015 ผ่านดัชนี MSCI IBES Thailand ( 202 บริษัท) เริ่มที่จะทรงตัวได้ หลังปรับตัวลงรอบล่าสุดในปลายเดือน เม.ย. แล้วทรงๆตัวถึงปัจจุบัน การปรับตัวตัวลงของกำไรของตลาดล่าสุด มาจากการปรับลดกำไรใน Q1/15 ซึ่งดูแล้ว กำไรของตลาดน่าจะเข้าสู่ช่วงต่ำสุดของปี เนื่องจากมองว่าทิศทางเศรษฐกิจหลังจากนี้ น่าจะเริ่มทรงตัวหรือดีขึ้นมากกว่าที่จะแย่ลงอีก จากเหตุผล 1. ราคาสินค้าโภคภัณฑ์บางรายการดีขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะ น้ำมันและปิโตรเคมี 2. เศรษฐกิจคู่ค้าหลักเริ่มฟื้นตัวทั้ง สหรัฐ ยุโรป ส่วนจีนเริ่มยืน 3.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะเริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง นอกนั้นจะเป็นแรงหนุนของการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
สิ่งที่พอยันยืนว่ากำไรของตลาดทรงตัวและไม่แย่กว่าเก่า คือ อัตราการทำกำไรของตลาด (EPS Growth) ปี 2015 ยืนอยู่ที่ 22% มาประมาณ 3 เดือนแล้ว สะท้อนกำไรไม่แย่ลง โดยกำไรที่คาดว่าจะดีขึ้นคงมาจากกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี อสังหาริมทรัพย์ใหญ่และนาโน ไฟแนนซ์ ในเชิงเปรียบเทียบ ปรากฏว่าอัตราการทำกำไร 12 เดือนล่วงหน้าของตลาดหุ้นไทย ดีกว่าฟิลลิปปินส์และอินโดนีเชีย เนื่องจากฐานปีที่แล้วของเราต่ำ แม้หลายส่วนเริ่มยืนหรือดีขึ้น ก็ใช้ว่าดัชนี SET จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนยังกังวนกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจรวมทั้งประเด็นการเมือง ที่อาจจะกลับมาร้อนขึ้นอีก
ดัชนี SET ที่ปรับตัวลงมาที่ 1485 จุด เรามองว่าโอกาสที่จะดิ่งลงแรงๆ อีกมีโอกาสน้อย หลังดัชนีปรับตัวลงติดต่อกันทั้งจากผลของค่าเงินบาทและการเมือง ส่วนประเด็นปัญหาเรื่องประมง น่าจะเกิดความชัดเจนในไม่ช้า ตัวเลขส่งออกและเงินเฟ้อ โดยทั้ง 2 ตัวเลขอาจจะใช้เวลาอีก 1-2 เดือนถึงจะเห็นความชัดเจนในแง่หยุดการลง ซึ่งจะสอดคล้องกับสถิติในอดีตที่ดัชนี SET จะฟื้นตัวก่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประมาณ 1-2 ไตรมาส สำหรับกรอบการฟื้นตัวของดัชนี SET ในรอบนี้ยังค่อนข้างจำกัด เนื่องจากกำไรของตลาดยังไม่มากพอที่จะดันให้ดัชนีทะลุ 1600 จุด แนวโน้มที่มองว่าดัชนีจะเริ่มค่อยๆปรับตัวขึ้น มาจากสัดส่วนของดัชนีตลาดหุ้นไทย (MSCI Thailand) เทียบภูมิภาคไม่รวมญี่ปุ่น (MSCI Asia Ex Japan) ปรับตัวลงมาใกล้จุดต่ำสุดในต้นปี 2014 ดูจากรูปด้านขวา
ช่วงที่ดัชนียังปรับตัวลงมาต่ำกว่า 1500 จุด เรามองว่าเป็นโอกาสดีที่จะเข้าทยอยสะสมหุ้น เพราะมองว่าหลังจากนี้ภาวะเศรษฐกิจแม้จะยังไม่ดีขึ้น แต่คงไม่แย่กว่าเก่า นั่นก็หมายถึงกำไรของตลาดได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เพียงแต่รอปัจจัยหนุนใหม่ๆ ปัจจัยหนุนที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้น คือ การปรับลดดอกเบี้ย และความชัดเจนเรื่องประมง กลุ่มที่คาดว่าจะหนุนตลาดรอบใหม่ คือ ธนาคาร พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง และค้าปลีก ทิศทางดัชนี SET ในปลายสัปดาห์ จะขึ้นอยู่กับการรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันของสหรัฐในคืนนี้ โดย API บอกจะลดลง 2 ล้านบารเรล์ ขณะที่ผลสำรวจบอกจะเพิ่มขึ้น 4 แสนบารเรล์
ดัชนี SET ยังมีแรงกดจากแรงขายของต่างชาติซึ่งเป็นผลจากค่าเงินบาทอ่อนตัวรวมทั้งกลยุทธ์ของกองทุนที่พยายามจะกดให้ดัชนีมาถึงเป้าหมายเพื่อที่จะออกทริกเกอร์ ฟันส์ โดยแนวโน้มหลังจากนี้ดัชนีน่าจะเริ่มรีบาวน์กลับได้ หลังมีข่าวจะมีการออกทริเกอร์ ฟันส์ในอาทิตย์หน้า ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น วันนี้เรามองว่าดัชนีจะรีบาวน์กลับ โดยมีแนวต้านที่ 1495-1500 ส่วนแนวรับที่ 1480-1475 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,494.29 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด (+0.58%) มูลค่าการซื้อขาย 16,821.36 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้รีบาวน์ หลังปรับลงแรงเมื่อวานนี้ โดยมีแรงหนุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับขึ้น ส่งผลให้ SET ปรับขึ้น แต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1500 จุดในช่วงเช้า ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับขึ้น ขณะที่นักลงทุนยังกังวลการแก้ปัญหาหนี้กรีซ
MINT รายงานผลประกอบการ 1Q15 มีกำไรสุทธิ 2,157 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 52% yoy และ 33% qoq) มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ 31% Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 35.75 บาท (Buy/Hold/Sell : 13/4/3)
SAPPE รายงานผลประกอบการ 1Q15 มีกำไรสุทธิ 80 ล้านบาท (ลดลง 44% yoy แต่เพิ่มขึ้น 162% qoq) มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ 18% Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 35.90 บาท (Buy/Hold/Sell : 4/1/2)
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดภาคบ่าย น่าจะรีบาวน์ต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านแรกที่1500 จุด ถ้าทะลุก็จะมีเป้าต่อไปที่1515 จุด ระยะสั้นเรามองว่าตลาดยังอยู่ในลักษณะเทคนิเคลรีบาวน์ตามใดที่ SET ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ1515 จุด ส่วนแนวรับที่ 1480 จุด ยังดูแข็งแรง สำหรับการเล่นรอบเก็งกำไรยังเน้นกลุ่ม high beta เช่นกลุ่มพลังงาน รับเหมา ไฟแนนท์ และกลุ่ม บันเทิง
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
Turnover List preview (Cash Balance) : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาศติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : TVT
RS (RS TB; THB 13.70) - ซื้อ
Sherwood Chemicals (SWC TB; THB 8.30) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]