- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 11 May 2015 18:34
- Hits: 1049
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"ลุ้นขึ้นต่อ...แต่อาจแกว่งมากขึ้น"
Top Picks-Fund May 2015 : Fundamental : AP, KBANK, MINT, TTCL, WHA Dark Horse: RCL, SAMTEL
Top Picks -Fund Today: CK
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, AP, MK, SPALI, MODERN, TISCO, TMT, BTSGIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : MC 43%, BCH 31%, PSL 25%, EGCO 15%, KTIS 15%
Technical View ภาพระยะสั้นเป็นบวกเล็กๆ มีลุ้นเด้งต่อภายใต้ภาวะขายมากเกินไป
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อค่าบวก 1520-1530 ต่ำกว่า 1500
SET50 ซื้อค่าบวก 1010-1020 ต่ำกว่า 990
Top Picks-Tech Today : KTB, KBANK, SVI, SCC, THRE, MAJOR, LIT
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวันศุกร์ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิด +12.20 จุด ที่ 1510.51 โดยการรีบาวด์ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ช่วยหนุน รวมทั้งมีซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ผลประกอบการ 1Q58 ออกมาดีและแนวโน้มยังแข็งแกร่ง นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2.4 พันล้านบาท ส่วนอีก 3 กลุ่มที่เหลือขายสุทธิ
ตัวเลขการจ้างงานอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.ของสหรัฐที่ออกมาดีอย่างที่คาด อัตราการว่างงานลดลงเป็น 5.4% ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุน และลดความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ & เศรษฐกิจโลกลง ปัจจัยที่จับตา คือ ผลประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเกี่ยวกับแผนปฎิรูปของกรีซในวันนี้ (11 พ.ค.) และการชำระหนี้ IMF ที่ครบกำหนด 750 ล้านยูโรของกรีซในวันที่ 12 พ.ค.ว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ อย่างไรก็ดี ตลาดประเมินว่าเจ้าหนี้และกรีซจะสามารถเจรจากันได้ในที่สุด ส่วนในประเทศ ปัจจัยที่มีน้ำหนักมากในสัปดาห์นี้เป็นรายงานผลดำเนินงาน 1Q58 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะออกมาเป็นจำนวนมาก โดยรวมคาดว่ากำไรสุทธิ 1Q58 ของตลาดจะทรงตัว-ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบ YoY ซึ่งอ่อนแอกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เดิม และมีโอกาสที่นักวิเคราะห์จะมีการปรับลดประมาณการ & ราคาเป้าหมายของหุ้นลงอีกระลอกหนึ่ง หลังจากที่ได้รับลดของกลุ่มธ.พ.ไปแล้วก่อนหน้านี้ หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น CK
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นบวกเล็กๆ โดยมีสิทธิรีบาวด์ต่อภายใต้ภาวะขายมากเกินไปในกราฟรายนาที กรอบแนวต้านอยู่ที่ 1520-1530 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวกแบบหวัง Gap สั้น การอ่อนตัวต่ำกว่า 1500 จุดแนะนำให้ลดพอร์ตตาม/Stop Loss สำหรับการ SCAN หาหุ้นที่มีโอกาสปรับขึ้นที่เข้ามาใหม่ คือ SVI, TAKUNI หุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ SCC, KTB, KBANK, SCB
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
กรีซ : ติดตามผลประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน 11 พ.ค.นี้ โดยประเด็นหารือหลักเป็นเรื่องการปฎิรูปของกรีซเพื่อขอรับความช่วยเหลือทางการเงินรอบใหม่ที่มาตรการเดิมจะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.นี้ ประกอบกับในวันที่ 12 พ.ค.กรีซมีกำหนดชำระหนี้ IMF จำนวน 750 ล้านยูโรด้วย
ยูโรโซน : จะมีรายงาน GDP Growth ประจำไตรมาส 1/58 ออกมาในสัปดาห์นี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะเติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 3 ไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 0.1-0.3%QoQ (ดังที่ปรากฎใน Chart ด้านล่าง)
ยูโรโซน : การเติบโตของ GDP Growth รายไตรมาส (QoQ)
สหรัฐ : ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นตามคาด โดยเพิ่ม 223,000 ตำแหน่งจากเพิ่ม 85,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 224,000 ตำแหน่งและคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ 5.4%
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : พุ่งขึ้น 1.4-1.5% รับข่าวตัวเลขจ้างงานแข็งแกร่งและตลาดหุ้นยุโรปที่สดใส หลังพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ โดยพรรคอนุรักษ์นิยมได้ที่นั่ง 331 ในสภา ทำให้พรรคสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และส่งผลให้นายคาเมรอนสร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 จากพรรคอนุรักษ์นิยมที่ดำรงตำแหน่งติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากนางมาร์กาเร็ต แธทเชอร์
สัญญาน้ำมันดิบ : แกว่งในกรอบแคบ...จำนวนแท่นขุดเจาะลดแต่ปริมาณการผลิตน้ำมันไม่ได้ลด โดยสัญญา WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ ปิดที่ 59.39 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ BRENT ลดลง 15 เซนต์ ปิดที่ 65.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้แม้ว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันจะลดลง (ล่าสุดเบเกอร์ ฮิวจ์ที่ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐลดลง 11 แห่ง สู่ระดับ 894 แห่งในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ค.58) แต่ปริมาณน้ำมันที่ผลิตออกมาไม่ได้ลดลงมาก ขณะเดียวกันทางกลุ่มโอเปกรายงานการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นด้วย
+ สัญญาทองคำตลาด COMEX : ปรับขึ้น สัญญาส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 1,188.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศและหุ้นเด่น
จับตาการปรับประมาณการ & คำแนะนำลงทุนของนักวิเคราะห์ บจ.รายงานกำไรสุทธิ 1Q58 สิ้นสุดสัปดาห์นี้ สิ่งที่จับตา คือ การปรับประมาณการและคำแนะนำการลงทุนในหุ้นต่างๆ ของนักวิเคราะห์หลังจบรายงานผลประกอบการ & Analyst Meeting ของบริษัทจดทะเบียน ทั้งนี้เราประเมินว่ามีโอกาสที่ EPS Growth ของตลาดหุ้นไทยจะถูกปรับลงจากคาดการณ์เมื่อ 3 เดือนก่อน เพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด โดยกำไรสุทธิ 1Q58 ของตลาดอาจอยู่ระดับทรงตัว-ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบ YoY
BLA ลดเป้าหมายการเติบโตปีนี้ลงเป็น 5% (เดิม 12%) เนื่องจากรายได้เบี้ยประกันรับรวมเติบโตได้เพียง 1% ใน 1Q58 และคาดว่าการฟื้นตัวจะค่อยเป็นค่อยไป เพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า กำลังซื้อของประชาชนยังซบเซา นอกจากนั้นการแข่งขันในธุรกิจประกันภัยก็สูงขึ้นด้วย
/+ จะเริ่มก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ระยะทาง 18.40 กม.ในเดือนมิ.ย.58 ส่วนสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ระยะทาง 23 กม.ก่อสร้างแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างรอรับรถเดือนก.ย.นี้ สายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ระยะทาง 12.82 กม.การก่อสร้างคืบหน้าราว 55% แล้ว สายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ระยะทาง 15.3 กม.การก่อสร้างคืบหน้ากว่า 20%
ความเห็น Retail Research : โดยภาพรวมคาดว่าการก่อสร้างจะกระเตื้องขึ้นใน 2H58 หลังจากที่เกิดความล่าช้ามาในช่วงที่มีปัญหาและการปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยโครงการลงทุนภาครัฐจะเดินหน้ามากขึ้น รวมทั้งในช่วงกลาง-ปลาย 3Q58 จะมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณก่อนปิดปีงบประมาณ 58 ในสิ้นเดือนก.ย.58 สำหรับการลงทุนภาคเอกชน คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังต่ำ กำลังซื้อยังไม่แข็งแกร่งมาก จึงไม่ต้องเร่งขยายกำลังการผลิตนัก แต่บริษัทต่างๆก็เตรียมความพร้อมไว้ เพื่อจะสามารถลงทุนได้เร็วเมื่อเศรษฐกิจไทยและโลกฟื้นตัวดีขึ้น เรายังมีมุมมองที่เป็นบวกในระยะกลาง-ยาวกับกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, วัสดุก่อสร้าง และนิคมอุตสาหกรรม หุ้นเด่น คือ CK, SYNTEC, SEAFCO, SCC, WHA
+ SPCG รายงานกำไรสุทธิ 1Q58 เติบโตก้าวกระโดด 107%YoY เป็น 557.7 ล้านบาท (EPS : 0.604 บาท/หุ้น) เนื่องจากฐานที่ต่ำใน 1Q57 ที่ยังรับรู้รายได้ไม่ครบทุกโครงการ โดยรับรู้อยู่ที่ 27 โครงการ (บริษัทรับรู้รายได้จากทั้ง 36 โครงการตั้งแต่กลางปี 57) อย่างก็ตามเมื่อเทียบ QoQ จะอ่อนลง 8% ซึ่งเป็นไปตามปัจจัยเรื่องฤดูกาล ความเสี่ยงทางการเงินบริษัทลดลง จากการทยอยคืนเงินกู้ต่อเนื่อง การเติบโตของกำไรสุทธิปีนี้ยังคงสูงจากการรับรู้รายได้ทั้ง 36 โครงการเต็มปี ส่วนการขยายตัวในปี 59-60 จะมาจากงานโซลาร์บนหลังคา & โซลาร์หน่วยงานราชการ และงานใหม่อื่นๆ ที่จะเข้ามาเพิ่ม นักวิเคราะห์ใน Consensus คาดการณ์กำไรสุทธิปี 58 ขยายตัว 40% และเติบโตได้อีก 7% ในปี 59 ด้าน Valuation นั้น ซื้อขายที่ P/E ปีนี้ 10.4 เท่า ต่ำกว่าหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกอื่นอย่างมาก คาดการณ์ Dividend Yield ปี 58 ไว้เท่ากับ 4.8% แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท เทียบเท่ากับ P/E ปีนี้ที่ 13.2 เท่า
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]