- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 May 2015 17:20
- Hits: 2437
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
บทวิจัยตลาดทุนกรุงศรี (Morning Brief Package)
ภาวะตลาดหุ้นวานนี้:
SET ผันผวนโดยยืนทั้งแดนบวกและลบ เปิดตลาดรีบาวด์เล็กน้อย +2.82 จุด และขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1531.75 จุด (+5 จุด) และปรับตัวลงช่วงบ่ายทำจุดต่ำสุดที่ 1514.79 จุด (-11.95 จุด) และปิดตลาดที่ 1519.88 จุด (-6.86 จุด, -0.45%) ซึ่งเป็นทิศทางขาลงเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค (ยกเว้นอินโดนีเซีย) ตลาดหุ้นหลักยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น (ยกเว้น กรีซ โปรตุเกส และเบลเยี่ยม) จากตัวเลข PMI ภาคบริการยูโรโซนและกรีซได้ชำระหนี้วงเงินครงกำหนดแรก US$222 ล้าน ส่วนดัชนี SETHD ขึ้นสวนทางตลาด โดยกลุ่มที่ Outperform ตลาดมีเพียง พลังงาน ปิโตรเคมี โรงพยาบาล ท่องเที่ยว อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ เป็นต้น ลดลงมากสุดยังเป็นกลุ่มธนาคาร อสังหาฯ การเงิน สื่อสาร และพาณิชย์ มูลค่าการซื้อขายลดลง 12.2% จากวันก่อนเหลือ 40,882 ล้านบาท เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.30/32 บาท/US$ ทรงตัวเท่าตอนเปิดตลาดช่วงเช้า ระหว่างวันเงินบาทไปทำโลว์ที่ระดับ 33.16 บาท/US$ และอ่อนสุดที่ 33.35 บาท/US$ ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องอีก 67 ล้านบาท, กองทุนสลับขายสุทธิ 1.43 พันล้านบาท
แนวโน้มวันนี้: Support แนะนำเลือกซื้อหุ้นบริเวณกรอบแนวรับสำคัญ 1520-1510 จุด แนวรับ/แนวต้าน SET ที่ 1510-1533 จุด
เรายังคงประเมินปัจจัยเงินบาทอ่อนค่า (ทำสถิติรอบ 5 เดือนต่อเนื่องที่ 33.34 บาท/US$) และราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรงและต่อเนื่อง (เมื่อวานราคาเบรนท์ US$69 และเช้านี้ US$67.24) ยังเป็นประเด็นบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน (PTTEP) ปิโตรเคมี (IVL) และ ส่งออก รวมถึงท่องเที่ยว (ERW) และโรงพยาบาล (BH, BDMS) เช่น PTTEP, IVL ขณะที่ดัชนีกลุ่มธนาคารทำ New low ในรอบ 11 เดือนวานนี้ที่ 529.57 จุด หรือ -11.4% ในช่วง 10 วันทำการ เราประเมินหุ้นหลักมีความน่าสนใจมากขึ้นเช่น KBANK, SCB และ BBL
ปัจจัยที่มีผลกระทบ
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนเม.ย.ลดลงเล็กน้อยที่ 54.1 จาก 54.2 ในเดือนมี.ค. แต่ปรับตัวขึ้นจากข้อมูลเบื้องต้นที่ 53.7 ยังบอกถึงภาวะการขยายตัวของภาคบริการ ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของเยอรมนีในเดือนเม.ย.ลดลงที่ 54.0 ต่ำสุดในรอบ 3 เดือนจาก 55.4 ในเดือนมี.ค.
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัว GDP ปี 58 ของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) เป็น 1.8% จากเดิม 0.1% และปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ยูโรโซนเป็น 1.5% จากเดิม 0.2% เศรษฐกิจของทั้ง 2 ภูมิภาคได้รับประโยชน์จากแนวโน้ม และในปี 59 คาดว่า GDP ของกลุ่มประเทศ EU จะขยายตัว 2.1% และ GDP ของยูโรโซนจะเติบโต 1.9% ผลจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) นำมาใช้ส่งผลในด้านบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดการเงิน ทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง และคาดการณ์ว่า ภาวะด้านสินเชื่อจะฟื้นตัวขึ้น
ประชุม ECB วานนี้มีการหารือว่าจะมีการปรับลดมูลค่าหลักทรัพย์ที่ธนาคารกรีซใช้ในการค้ำประกันเงินกู้ฉุกเฉินเพิ่มเติมหรือไม่ และ ECB จะพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับวงเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ Emergency Liquidity Assistance (ELA) เพิ่มเติมให้แก่ธนาคารของกรีซ (ECB ได้เพิ่มเพดาน ELA ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็น Euro 7.69 หมื่นล้าน หรือ US$8.7 หมื่นล้าน) ภายใต้การดำเนินการดังกล่าว ธนาคารต่างๆ ของกรีซจะต้องจัดหาหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการด้านสภาพคล่องของธนาคาร