- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 07 May 2015 16:24
- Hits: 1026
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Selective Buy
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ยังคงเกิด Sector Rotation หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศ อย่างธนาคาร / อสังหาฯ ยังคงโดนขายลดน้ำหนักต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัว ขณะที่กลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี / SCC รวมถึงหุ้นปันผลเด่น อย่าง ADVANC / INTUCH ช่วยประคองภาพตลาดรวม ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบ 6.86 จุด มาอยู่ที่ 1,519.88 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 40,881 ล้านบาท
ด้านเงินทุนต่างชาติ ยังคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 แต่ลดลงเหลือ 67 ล้านบาท กลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures อีกครั้ง 424 สัญญา และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้ 6,591 ล้านบาท เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าราว 10 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ +/- ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ประธานเฟด Yellen ออกมาเตือนราคาหุ้น ณ ปัจจุบันสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิด US$60.93 ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 เดือน
ECB ขายวงเงิน ELA ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ของกรีซอีก 2.0 พันล้านยูโร และรอผลการเจรจากรีซและรมว.คลังอียู วันที่ 11 พ.ค.
การเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษเริ่มขึ้นแล้วในวันนี้
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 28 พร้อมให้โอกาสที่จะเกิด Technical rebound สู่แนว 1,525-1,530 จุด นำโดยกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี ที่ได้อานิสงค์เชิงบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นแรงในช่วงสั้นนี้ บวกกับหุ้นหลักในกลุ่ม ICT ที่มีความโดดเด่นของผลตอบแทนจากเงินปันผล อีกทั้งผลการดำเนินงานไม่ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจในประเทศมากนัก กลายเป็นที่พักเงินของนักลงทุนระยะสั้นถึงกลาง
ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ เรายังคงให้มุมมองเป็นลักษณะ Downside risk จำกัด จากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวแข็งแกร่ง บวกกับผลการดำเนินงานของกลุ่มพลังงาน / ปิโตรเคมี จะพลิกจากขาดทุนเป็นกำไรใน 1Q58 และมีแนวโน้มเติบโต qoq ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ และหุ้นหลักในกลุ่ม ICT แต่ Upside ของ SET INDEX ก็จำกัดเช่นเดียวกัน เพราะสภาพเศรษฐกิจไทยที่ผ่านจุดที่แย่ที่สุดในปี 2557 ไปแล้ว แต่ยังไม่เห็นภาพชัดของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงความล่าช้าของการใช้จ่ายเงินลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ เพราะติดเงื่อนไขของระดับหนี้สาธารณะ ทำให้กลุ่มธนาคาร / ที่อยู่อาศัย / รับเหมาก่อสร้าง ฟื้นตัวได้อย่างจำกัด
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ เราคงแนะนำให้ นักลงทุนใช้กลยุทธ์ "ขึ้นแรงขาย ลงแรงซื้อ" หรือ ตลาดเทรดดิ้ง ต่อเนื่องจากเดือนเม.ย. แรงกดดันจาก Sell in May and Go Away อาจเป็นไปอย่างจำกัด สำหรับตลาดหุ้นไทยในรอบนี้ เว้นเสียแต่ว่า สถาบันภายในประเทศจะต้องการล้างไพ่ เปิดเกมส์ใหม่อีกครั้ง เหมือนที่เกิดขึ้นในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เพราะ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิสูงสุด 1.86 หมื่นล้านบาท ตามมาด้วย Prop Trade ซื้อสุทธิ 3.2 พันล้านบาท
ขณะที่ภาวะการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เดือนเม.ย.ออกมาต่ำกว่าคาด จับตาการรายงานภาวะการจ้างงานเดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์นี้
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย (7.32 น.) เปิดลบไปในทิศทางเดียวกับ DJIA คืนวานนี้ Nikkei -0.97% เปิดทำการเป็นวันแรกหลังจากหยุดยาวในเทศกาล Golden Week ส่วน Kospi -0.80%
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนยังคงใช้กลยุทธ์ ขึ้นแรงขาย - ลงแรงซื้อ" ด่านที่น่าสนใจในรอบนี้ คือ 1,550 จุด +/- ที่ยังไม่น่าผ่านในช่วงสั้น
Portfolio
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA/ THAI/ BCP
Accumulative Buy: ADVANC/ ITD
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. ADVANC: ราคาปิด 242 บาท ราคาเหมาะสม 320 บาท
a) เราประเมิน ADVANC จะรายงานกำไรสุทธิใน 1Q58 เติบโต 7% qoq และ 3% yoy เป็น 9,735 ล้านบาท จากรายได้ที่เติบโต บวกกับการควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่เข้มงวดต่อเนื่อง ทำให้ภาพโดยรวมของ ADVANC ฟื้นตัว สวนทางกับ DTAC ที่ประกาศงบมาก่อนหน้านี้ ซึ่ง ADVANC จะประกาศงบในวันศุกร์ที่ 8 พ.ค.
b) เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของ ADVANC จะเติบโต qoq และ yoy ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี จากฐานผลการดำเนินงานที่ต่ำในปีที่แล้ว บวกกับ ค่าใช้จ่ายด้าน Regulatory ที่จะทยอยลดลงในไตรมาสที่เหลือ จากการย้ายลูกค้าไปยังคลื่นใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 4Q58 ที่จะหมดอายุสัมปทาน จะทำให้ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลดลงต่ำกว่า 10% ของรายได้จากการให้บริการ
c) ADVANC ถือเป็นหุ้นหลักที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง สำหรับงวดปี 2558 เราคาดเงินปันผล 14.11 บาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 5.83% ขณะที่ กนง.ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงวานนี้ ย่อมเป็นบวกต่อหุ้นปันผลเด่น อย่าง ADVANC ในแง่ความน่าสนใจของปันผล
d) และเรายังเชื่อว่า ADVANC มีความพร้อมมากที่สุดในการเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ที่จะเปิดการประมูลในช่วงปลายปีนี้ ทั้งคลื่น 1800MHz และ 900MHz
2. ITD: ราคาปิด 7.45 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวลง 1.05% และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวลง 0.86% จากความล่าช้าของการเปิดประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ ขณะที่หุ้นหลักในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ITD ปรับตัวลงแรงสุด 5.70% ตามมาด้วย STEC -3.21% ส่วน CK +2.00%
b) ปัจจัยบวกที่รออยู่ในช่วงสั้นของ ITD คือ การขึ้นเครื่องหมาย XW วันที่ 11 พ.ค. (วันจันทร์หน้า) สัดส่วน 5 หุ้น ได้ 1 วอแรนต์ คาดว่าจะช่วยจำกัด Downside risk ของราคาหุ้น ITD ในช่วงสั้น
c) ติดตามความคืบหน้าการพิจารณาอนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในเดือนพ.ค. - มิ.ย. ตามที่ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ ทั้งโครงการมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง โครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 โครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างไทย - จีน และ ไทย-ญี่ปุ่น และโครงการรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง จะช่วย Sentiment เชิงบวกให้แก่กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
d) นอกจากนี้ รมช.คมนาคม นายอาคม ได้ออกมายืนยันถึงการลงนามโครงการทวายเฟสแรกในปลายเดือนพ.ค. หรือ ต้นเดือนมิ.ย. ณ ปัจจุบัน รอรัฐบาลญี่ปุ่นพิจารณาโครงการ ซึ่งมีความคืบหน้าไปมากแล้ว
e) ราคา ณ ปัจจุบัน ถือว่าต่ำกว่ามูลค่าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 8.50 บาท สะท้อน Downside risk ที่จำกัดมากยิ่งขึ้นของ ITD ขณะที่ราคาเหมาะสม 12.00 บาท ด้วยวิธี Sum of the part ได้แก่ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 8.50 บาท, นิคมอุตสาหกรรมทวาย 1.50 บาท และเหมืองโปรแตซ 2.00 บาท
Fund Flow Analysis
und Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียซื้อสุทธิอีก US$52 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$187 ล้าน
เงินทุนไหลออกจากตลาดกลุ่ม TIPs ย้ายไปยังเอเชียเหนือ
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติลดการลงทุนในไทยทั้ง 3 ตลาดอีกครั้ง เมื่อค่าเงินบาทแข็งค่าวานนี้
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 อีกเพียง 67 ล้านบาท รวม 5 วันทำการ ขายสุทธิ 9,127 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับขึ้นเล็กน้อย เป็น 8,394 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมา Short สุทธิอีกครั้ง 424 สัญญา เมื่อ S50M15 ปิดสูงกว่า SET50 Index อีกครั้ง 1.71 จุด จากวันก่อนหน้า ปิด Discunt 2.30 จุด น่าจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้า และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้มีสถานะเป็น Long สุทธิลดลงเป็น 24,232 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิ 6,591 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรรัฐบาลไทย ลดลงแรงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นถึง 7.89bps ปิดที่ 2.5856%
เมื่อนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิทั้ง 3 ตลาด แต่ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ กลับแข็งค่าราว 10 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายวานนี้ เป็นประเด็นที่น่าสนใจ
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ขยับขึ้นเป็น 754 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 363 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 18 เน้นหุ้น Defensive อย่าง ICT และกลุ่มพลังงานที่ขึ้นกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 713 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิมากถึง 2,612 ล้านบาท รวม 18 วันทำการซื้อสุทธิเท่ากับ 29,204 ล้านบาท โดยเน้นการสะสมกลุ่มพลังงานที่ผลการดำเนินงานขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และ กลุ่ม ICT ที่ผลการดำเนินงานสัมพันธ์กับเศรษฐกิจภายในประเทศจำกัด ขณะที่คงการขายสุทธิหนาแน่นในกลุ่มธนาคารต่อเนื่อง สรุปภาพรวมของ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่มพลังงานถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 502 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,519 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 414 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 486 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 183 ล้านบาท และกลุ่มค้าปลีก ซื้อสุทธิ 158 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 353 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 461 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 227 ล้านบาท และกลุ่มขนส่ง ขายสุทธิ 71 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 393 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด
การจ้างงานเอกชนเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.69 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 2.05 แสนตำแหน่ง และเดือนก่อนหน้าที่ 1.75 แสนตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ตลาดให้น้ำหนักกับภาพรวมการจ้างงานที่จะรายงานในวันศุกร์ที่ 8 พ.ค.
ประธานเฟดสาขา Atlanta ให้น้ำหนักกับการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.: และมีความเหมาะสม การจ้างงานที่ปรับตัวดีขึ้น และจะเป็นตัวสะท้อนถึงโมเมนตัมการเติบโตของเศรษฐกิจได้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงจะเพิ่มขึ้นจนถึงเป้าหมาย 2.0% ได้
ประธานเฟดเตือนหุ้นพุ่งอาจเกิดความเสี่ยง: ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ราคาหุ้นในตลาดที่พุ่งสูงในขณะนี้จะทำให้เกิดอันตรายได้ แต่ความเสี่ยงในระบบการเงินของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งอาจดีดตัวขึ้นทันทีที่เฟดปรับนโยบายกลับสู่ภาวะปกติ จะทำให้เกิดผลกระทบทั่วระบบการเงินของสหรัฐ
ยุโรป
สถานะการของกรีซ ณ ปัจจุบัน
กรีซ ชำระหนี้ 200 ล้านยูโร ให้แก่ IMF ตามตารางเวลาที่กำหนด แต่กรีซ จะมีหนี้ครบกำหนดอีกคร้ง 750 ล้านยูโร ในวันที่ 12 พ.ค.
กรีซ และ รมว.คลัง อียู จะมีการหารือถึงเงื่อนไขการปฎิรูปเศรษฐกิจ เพื่อนำไปสู่การได้รับเงินช่วยเหลือรอบถัดไปในวันที่ 11 พ.ค.
ECB จะยังรอผลการเจรจาระหว่าง กรีซ และ รมว.คลังอียู ในสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการให้เงินช่วยเหลือแก่ธนาคารพาณิชย์กรีซ ผ่านโครงการ ELA อย่างไรก็ตาม ECB ได้ขยายเพดานเงินช่วยเหลือ ELA แก่ธนาคารพาณิชย์กรีซ 2.0 พันล้านยูโร เป็น 7.89 หมื่นล้านยูโร แต่พันธบัตรรัฐบาลกรีซที่ธนาคารพาณิชย์กรีซถืออยู่จะถูกลดมูลค่าลง (Hair Cut) มากขึ้น เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์กรีซต้องวางหลักประกันมากขึ้น จะยังไม่นำมาใช้
ภาคบริการของอังกฤษเพิ่มขึ้นสุงสุดในรอบ 8 เดือน: ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนเม.ย. เท่ากับ 59.5 จุด สูงสุดในรอบ 8 เดือน และเพิ่มขึ้นจากเดือนมี.ค.ที่ 58.9 จุด และ Bloomberg consensus คาด 58.5 จุด โดยการจ้างงานเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 28
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ไม่มี
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530