- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 06 May 2015 17:35
- Hits: 1095
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET lndex : แนวรับสำคัญ 1520 แนวต้าน 1530 และ 1550
SET lndex : 1519.36 ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1520 จุด ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายในช่วงครึ่งเช้าเกิน 2 หมื่นล้านบาท สะท้อนถึงแรงขายที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องในกลุ่มธนาคาร หลังจากพยายามสร้างฐานที่แนวรับสำคัญ แต่ยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มของ SET Index ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ยังคงมีทิศทางในเชิงบวกต่อเนื่อง จึงทำให้การปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับที่ 1520 จุด มีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ และมีแนวต้านที่ 1530 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นมาได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1550-1555 จุด
KBANK = 200 / 204, TRUE = 11.20 / 11.50, KTB = 19.50 / 19.80, SCB = 158 / 160, BBL = 180 / 182
S50H15 : 1000.30 ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงในระยะสั้นลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1000 จากแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงต่อเนื่อง แต่เมื่อพิจารณาการฟื้นตัวที่แนวรับสำคัญ 1000 จึงทำให้แนวโน้มของ S50M15 ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1014-1015 และมีแนวต้านสำคัญที่ 1030 จึงแนะนาให้เน้นการเก็งกำไรด้วยสถานะ Long ต่อเนื่อง แต่ STOp LOSS ถ้าหลุด 985 ลงไป
GFM15 : 18950 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 18900-19000 หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรมาทดสอบ 18500 ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มของราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ US$1230 และ US$1250 จึงยังคงแนะนำให้เน้นสถานะ Long โดยมีแนวรับที่ 18800-18850 และมีแนวต้านที่ 19300
USDM15 : 33.25 เราแนะนำให้รอ Open Short ที่แนวต้าน 33.30-33.40 และมีแนวรรับที่ 33.20 และ 33.10 เป็นจุดขายทำกำไร
TECHNlCAL FOLLOW UP : แนวรับ แนวต้าน
SET lndex แนวรับสำคัญ 1520 มีโอกาสฟื้นตัวทดสอบ 1530 และ 1550 1518 / 1515 1525/ 1530
S50M15 Open Long ที่แนวรับ 1000 แนวต้าน 1015แต่ STOp LOSS ถ้าหลุด 985 1000 / 998 1005/1008
GFM15 Open Long ลุ้นทดสอบแนวต้านที่ 19300 แนวรับ18800-18850 18900 / 18850 19000/19050
USDM15 Open Short ที่แนวต้าน 33.30-33.40แนวรับ 33.20 และ 33.10 33.20 / 33.15 33.30/ 33.35
PTTEP แนวโน้มขึ้นทดสอบ 122 และ 125 119 / 118 120/ 122
CSS แนวโน้มขึ้นทดสอบ 8.00-8.15 7.55 / 7.50 7.80/8.00
PTT (PTT TB; THB 362.00) - ซื้อ
แนวต้าน : 370 และ 375 / เป้าหมาย 390
แนวรับ : 362 และ 360
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 362 หลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงขึ้นไปได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ PTT โดยมีแนวรับที่ 362 และ 362 และมีแนวต้านที่ 370 และ 375 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 20.60 ลงไป
Thai Factory Development (TFD TB; THB 4.70) - ซื้อ
แนวต้าน : 5.00 และ 5.15
แนวรับ : 4.70 และ 4.64
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ TFD โดยมีแนวรับที่ 4.70 และ 4.64 และมีแนวต้านที่ 5.00 และ 5.15 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.60 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ยังผันผวน
บรรยากาศการลงทุนของตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงตลาดหุ้นไทยหยุดยาว 5 วัน ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เข้ามากระทบตลาด โดยการขึ้นลงของดัชนีตลาดหุ้นในสหรัฐยังคงขึ้นอยู่กับการประกาศผลการดำเนินงานและตัวเลขเศรษฐกิจ โดยดัชนีลาดหุ้นดาวโจนส์ ยังไม่ไปไหนคือยังคงแกว่งในกรอบ 18,000 จุด ส่วนตลาดหุ้นในเอเชียก็ยังแกว่งทั้งแดนบวกและลบหลังตัวเลขผลผลิตโรงงานในจีนลดลง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ตลาดให้ความสำคัญในอาทิตย์นี้ คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐ ที่จะประกาศในวันที่ 8 พ.ค. ซึ่งคาดกันว่าทั้ง 2 ตัวเลขจะออกมาดี คือ อัตราการว่างงานคาดลดลงมาอยู่ที่ 5.4% จาก 5.5% ในเดือนที่ผ่านมา ส่วนอัตราการว่างงานนอกภาคเกษตรจะอยู่ที่ 224,000 คนจาก 126,000 ในเดือนที่ผ่านมา การที่ตัวเลขการจ้างงานที่ดีขึ้น คาดจะส่งผลต่อตลาดหุ้น แต่คงไม่มาก เนื่องจากตลาดยังคาดว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ เร็วที่สุดคงจะเป็นในเดือน ก.ย. หรือช้ากว่านั้น
ปัจจัยในประเทศ ยังต้องรอดู ตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศ คือตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือน เม.ย. ที่จะประกาศในวันที่ 7 พ.ค. นอกนั้นจะเป็นการประกาศงบ Q1/15 ของบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งผลการดำเนินงานที่ทยอยประกาศออกมา ยังคงเป็นไปในลักษณะชะลอตัวลง แต่ไม่มาก
ราคาน้ำมันโดยเฉพาะ เบรนท์ สามารถขึ้นสร้างสามารถขึ้นสร้างสถิติสูงสุดของปีได้ที่ 68 ดอลลาร์ต่อบารเรล์จากแรงหนุนของ การอ่อนตัวของค่าเงินดอลลาร์ ปัญหาความตึงเครียดในลิเบียและปริมาณการผลิตในสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันยังคงแกว่งตัวตามตัวเลขสต๊อกน้ำมันในสหรัฐ ซึ่งจะประกาศในคืนนี้ แม้ราคาน้ำมันจะขึ้นมาได้ที่ 68 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ แต่ตลาดคาดว่าราคาน้ำมันจะยังคงแกว่งตัวในกรอบ 70+/- ดอลลาร์ต่อบารเรล์
การปรับตัวลงของดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ ยังเป็นผลมาจากตัวเลขเศรษฐกิจ อย่างตัวเลขการขาดดุลการค้าประจำเดือน มี.ค. ที่ 51.4 พันล้านดอลลาร์ (มากกว่าที่รัฐบาลคาดที่ 45.2 พันล้านดอลลาร์) สูงสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง สะท้อนถึงความกังวลเรื่องตัวเลข GDP ใน Q1/15 ที่คาดว่าจะยังอ่อนแอ ส่วนปัจจัยภายในที่ยังกดดันตลาด คือ ตัวเลข CPI ที่ยังหดตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน (ตลาดคาดจะหดตัว 0.8% แต่ออกมาหดตัวถึง 1.04%) สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเรื่องภาวะเงินฝืด (ดูรูปด้านซ้าย) สำหรับดัชนีกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นและลงในเดือน เม.ย. พบว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลงมากที่สุด (ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการเข้าซื้อ) ส่วนกลุ่มที่มีแรงซื้อคืนเข้ามาและดัชนีปรับตัวขึ้นมากที่สุด คือ ปิโตรเคมีและพลังงาน
ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดทำการวันแรกของสัปดาห์ คาดจะยังแกว่งตัวทั้งแดนบวกและลบ เนื่องจากยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ อย่างไรก็ตามน่าจะมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามา (ซื้อเก็งกำไร PTTEP และ IRPC) หลังราคาน้ำมันขยับขึ้น ส่วนแรงขายกลุ่มธนาคารพาณิชย์ คงจะเริ่มชะลอตัวลง หลังราคาหุ้นปรับตัวลงไปลึก (ซื้อเก็งกำไร KTB และ KBANK) โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1532-1537 จุด ส่วนแนวรับที่ 1520-1515 จุด
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,519.35 จุด ลดลง 7.39 จุด (-0.48%) มูลค่าการซื้อขาย 21,315.11 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังตัวเลขขาดดุลการค้าเดือนมี.ค.ของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น และแรงขายในตลาดหุ้นอื่นๆ อย่างตลาดหุ้นจีน รวมถึงตลาดหุ้นยุโรป ที่มีความกังวลปัญหาหนี้กรีซ บ้านเราช่วงเช้าตลาดถูกกดดันจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร ขณะที่มีแรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันโลกปรับขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามตลาดยังกังวลต่อเศรษฐกิจในประเทศ
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดภาคบ่าย คาดว่ายังแกว่งตัวลงต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1508 จุด ภาพใหญ่ยังถูกกดดันจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่สดใส ซึ่งจะทำให้เกิดการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนลง โดยหุ้นกลุ่ม ธนาคาร ยังเป็นกลุ่มที่น่าจะถูกเทขายต่อเนื่องในช่วงสั้นๆนี้ เพราะเป็นกลุ่มที่เกียวเนื่องกับภาวะเศรษฐกิจโดยตรง และเป็นกลุ่มที่ปรับตัวดีกว่าตลาดมาโดยตลอด ทำให้น่าจะถูกขายทำกำไรออกมาได้อีก เรายังแนะนำให้รอสะสมหุ้นที่ระดับ 1480-1500 จุด
Fundamental Picks & Technic (PM) ...
PTT (PTT TB; THB 362) - ซื้อ
Thai Factory Development (TFD TB; THB 4.70) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]