- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 29 April 2015 17:58
- Hits: 922
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ใกล้จะเริ่มทรงตัวและลุ้นรีบาวด์ขึ้นได้...ซื้อลบแล้วถือ
กลยุทธ์ : คาดว่า SET จะเริ่มแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นในช่วงท้ายสัปดาห์นี้ หลังจากดัชนีปรับตัวลงมาค่อนข้างแรงตั้งแต่กลางสัปดาห์ก่อน และคาดว่าอาจมีลุ้นแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนหลังช่วงวันหยุดยาวได้ ดังนั้น FSS ยังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบ ในลักษณะค่อยๆ ทยอยซื้อต่อไป แล้วเน้นถือเพื่อรอรอบรีบาวด์ขึ้นจริงจังก่อน ค่อยมาพิจารณาหาจังหวะขายทำกำไรกันต่อไป
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MCS, TRC, DELTA(short)
แนวโน้ม : SET ปรับตัวลงรุนแรงต่อเนื่องอีกเมื่อวานนี้ หลังตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นอินโดฯ ที่ยังไหลลงแรงต่อเนื่อง ขณะที่เช้านี้ยังได้รับแรงกดดันจากการปิดลบกว่า 1% ของตลาดหุ้นยุโรป จากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย.ของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งกดดันให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดตัวด้านลบอีก ทำให้ SET ยังมีสิทธิแกว่งตัวด้านลบต่อเนื่องอีกในเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มมีจังหวะฟื้นตัวได้บ้างในช่วงท้ายชั่วโมง หลังจากลบลงกว่า 100 จุดในช่วงแรก และสามารถกลับมาปิดเป็นบวกได้ด้วยเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเมอร์ค รวมถึงรายงานที่บ่งชี้ว่าราคาบ้านในสหรัฐดีดตัวขึ้นในเดือน ก.พ. ส่วนตลาดหุ้นอินโดฯ ก็เริ่มมีจังหวะรีบาวด์ให้เห็นได้บ้างในช่วงท้ายตลาดวานนี้ด้วย ทำให้ FSS คาดว่ากรอบการปรับตัวลงของ SET วันนี้น่าจะเริ่มแคบลง และมีจังหวะแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่จะมีโอกาสลุ้นรีบาวด์ขึ้นหลังพ้นช่วงวันหยุดยาวได้
แนวรับ 1530-1525 , 1522-1520 จุด
แนวต้าน 1535-1540 , 1545-1555 จุด
Fund Flow วานนี้ไหลออกเกือบทุกตลาด ยกเว้นไต้หวัน โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย US$140 ล้าน เกาหลีใต้ US$79.1 ล้าน ไทย US$81.4 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$14 ล้าน แต่ซื้อไต้หวัน US$392.5 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย Flow น่าจะไหลออกต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ส่งออกอ่อนแอกว่าคาดและอาจติดลบต่อในเดือนถัดๆไป ส่งออกของไทยเดือน มี.ค. แม้ดีขึ้นจากเดือนก่อนแต่หดตัว 4.4% Y-Y แย่กว่าตลาดคาด ทำให้ส่งออกใน 1Q15 ลดลง 4.7% เนื่องจากสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ปิโตรเคมี และทองคำมีมูลค่าลดลงตามราคาน้ำมันและทองคำในตลาดโลก ขณะที่การส่งออกไปจีน ญี่ปุ่น และยุโรป ยังหดตัว แนวโน้มส่งออกน่าจะติดลบต่อเนื่องในเดือนถัดๆไปเพราะฐานราคาน้ำมันที่สูงในครึ่งแรกปีก่อน กระทรวงพาณิชย์ลดเป้าส่งออกปีนี้เป็น +1.2% Y-Y จาก +4% Y-Y และอาจส่งผลต่อการปรับลด GDP ของธปท.ที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.8%
(0) จับตาการประชุมกนง.วันนี้ เราคาดกนง.จะคงดอกเบี้ยนโยบายในวันนี้ แต่ควรลุ้นกับครั้งหน้า (10 มิ.ย.) เพราะจะเห็นตัวเลข GDP 1Q15 แล้ว (GDP รายงาน 18 พ.ค.) แต่เริ่มมีนักวิเคราะห์จำนวนมากขึ้นที่คาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ย แม้ว่าการลดดอกเบี้ยจะเป็นบวกกับกำไรของบจ.และตลาดหุ้น แต่ sentiment ระยะสั้นเป็นลบ เพราะสะท้อนความอ่อนแอของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกำไรของกลุ่มแบงก์ใน 2Q15 ที่จะถูกกระทบจากการลดดอกเบี้ยของกนง.ครั้งก่อนอยู่แล้ว กลุ่มแบงก์จึงน่าจะยังฉุดตลาดต่อไปไม่ว่ากนง.จะลดหรือคงดอกเบี้ย
(+) GLOBAL เราคาดกำไรสุทธิ 1Q15 ฟื้นตัว 17.8% Q-Q และลดลง 10% Y-Y เป็นการเติบโตจากฐานต่ำในปีก่อนและเป็นกำไรสูงสุดในรอบ 4 ไตรมาส แนวโน้มกำไรน่าจะดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี แม้ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของกำลังซื้อ แต่ด้วยฐานที่ต่ำและการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง น่าจะหนุนกำไรสุทธิปีนี้ให้โตได้ตามคาดที่ 33% Y-Y เรายังคงราคาเป้าหมาย 11.30 บาท ยังคงคำแนะนำซื้อ
(+) SIRI เราคาดกำไรปกติ 1Q15 ลดลง 69% Q-Q เพราะรายได้โอนใน 4Q14 สูงเป็นพิเศษ แต่จะดีขึ้นมากจากการขาดทุนใน 1Q14 แนวโน้มกำไรจะฟื้นต่อเนื่องใน 2Q15 และสูงสุดใน 3Q15 เช่นเดียวกับการขายที่น่าจะเริ่มดีขึ้นหลังการยกเลิกจองคอนโดหมดไป เราคาด EPS Growth ปีนี้ 10% จาก Backlog ที่สูงรองรับคาดการณ์รายได้โอนของเราแล้วที่ 81% ยังคงราคาเป้าหมาย 2.15 บาท และคงคำแนะนำซื้อ
(0) BAY หลังควบกับ BTMU แล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เราเชื่อการควบรวมจะส่งผลบวกในระยะกลางแต่กำไรจะลดลงในช่วงแรกเพราะค่าใช้จ่ายสูงขึ้น เรายังคงราคาเป้าหมาย 42 บาท แต่ราคาหุ้นปรับลงมาจน undervalued จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็นถือ จากขาย
(-) MCOT แนวโน้มกำไรยังอ่อนแอ เราคาดกำไรสุทธิใน 1Q15 ทำได้เพียง 26 ล้านบาท -52% Q-Q, -87% Y-Y ลดต่ำลงทุกไตรมาสนับตั้งแต่ช่องทีวีดิจิตอลเริ่มดำเนินการใน 2Q14 ทำให้ส่วนแบ่งผู้ชมของช่อง MCOT ซึ่งมี content ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ลดลง ขณะที่ต้นทุนค่าสัปมทานและการบริการสูงขึ้น เรายังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของผลประกอบการของบริษัท ยังคงแนะนำขาย ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นยังคงจำกัดเนื่องจากนักลงทุนยังจับตาดูผลการประชุม FED
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบหลังปรับตัวขึ้นในวันก่อนหน้า โดยประเด็นสำคัญยังเป็นเรื่องของผลการประชุม FED ที่ตลาดจับตา
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวค่อนมาในแดนลบเป็นส่วนใหญ่หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาเป็นห่วง
ค่าเงินบาทเริ่มทรงตัวได้หลังจากแกว่งตัวผันผวน ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 32.55-32.70 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 57.06 เหรียญ/บาร์เรล ขยับขึ้น 0.07 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังอิหร่านยึดเรือสินค้าของสหรัฐฯในอ่าวเปอร์เซีย อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาดูสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ EIA จะรายงานในวันพรุ่งนี้
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,213.90 ดอลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 10.70 เหรียญ/ออนซ์ หลังดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าหลังตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดในรอบ 4 เดือน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
29-30 เม.ย. - สหรัฐ:FOMCประชุม
29 เม.ย. - ไทย:กนง.ประชุม
- สหรัฐ: 1Q15 GDP (คาดครั้งแรก), Pending home sales (มี.ค.)
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เม.ย.)
30 เม.ย. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มี.ค.
- ญี่ปุ่น: BOJประชุม
- ไต้หวัน: 1Q15 GDP
-ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
- สหรัฐ: Personal Income, Personal Spending (มี.ค.)
1 พ.ค. - ตลาดหุ้นหลายแห่งปิดทำการเนื่องในวันแรงงาน มีไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ฮ่องกง จีน ไต้หวัน สิงคโปร์
- ไทย:อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
- จีน: Manufacturing PMI (เม.ย.)
4 พ.ค. - ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการ
-จีน:HSBC China Manufacturing PMI (เม.ย.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Manufacturing PMI (เม.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research