- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 29 April 2015 17:57
- Hits: 961
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sligthly Rebound
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ SET INDEX ปรับฐานลงแรง นำโดยกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มปิโตรเคมี อีกทั้งตัวเลขการส่งออกเดือนมี.ค.ของไทยออกมาหดตัวมากกว่าคาด -4.5% yoy ทำให้ความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีมากขึ้น บวกกับตลาดหุ้น PSX / JCI ปรับตัวลงต่อเนื่อง กดดันจิตวิทยาการลงทุน ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX ลบทั้งสิ้น 17.30 จุด มาอยู่ที่ 1,531.53 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,748 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ด้วยการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีก 2,654 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อีก 5,154 สัญญา และโยกเงินเข้าพักในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 5,396 ล้านบาท เพื่อรอดูผลการประชุม กนง. วันนี้
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามการประชุม กนง. วันนี้ Bloomberg consensus และ MBKET เชื่อว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วันที่ 1.75% แต่อาจเป็นเสียงไม่เอกฉันต์ในการประชุมนัดนี้
ติดตามผลการประชุมเฟดในคืนนี้ แน่นอนว่า เฟดจะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมนัดนี้ แต่มุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกจะกลายเป็นข้ออ้างของเฟดในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ยาวนานมากขึ้นหรือไม่ เป็นประเด็นที่ตลาดให้น้ำหนัก
ตลาดเริ่มกลับมากังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ว่าจะเติบโตได้ 3.0% yoy หรือไม่ หลังตัวเลขส่งออก 1Q58 หดตัวแรง
ติดตามการรายงานงบ 1Q58 ของ SCC หลังปิดตลาดรอบเช้าวันนี้ MBKET คาดกำไรสุทธิเติบโต 20% yoy และ 14% qoq
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 25 แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยใน 1H58 จะมีความเปราะบางมากยิ่งขึ้น หลัง 1Q58 การส่งออกของไทยติดลบ 4.69% yoy ทำให้ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำกว่า 3.0% ในปีนี้มีมากขึ้น แต่ตลาดหุ้นไทย YTD ขึ้นมาเพียง 2.3% เทียบกับ PSX และ JCI ที่ขึ้นมาทั้งสิ้น 9.07% และ 0.29% อีกทั้งต่างชาติขายสุทธิ 2.35 แสนล้านบาท หรือ US$7.41 พันล้าน นับตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน ขณะที่ PSX และ JCI ซื้อสุทธิ US$2.87 พันล้าน และ US$3.06 พันล้านตามลำดับ
เราประเมินว่า เงินทุนต่างชาติที่ลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา น่าจะเป็นการปรับพอร์ตชั่วคราว และโยกเงินเข้าพักในตลาดตราสารหนี้ เพื่อรอดูการประชุม กนง.วันนี้ เพราะหากประเมินจากผลตอบแทนพันธบัตรไทยที่ลดลงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ราว 20 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐฯ +/- ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน เพื่อประเมินสถานการณ์ต้นทุนการลงทุนของต่างชาติ รวมถึงผลการดำเนินงาน 1Q58 ของบริษัทจดทะเบียนที่เหลือ ซึ่งวันนี้ SCC จะรายงาน และวันพรุ่งนี้ PTTEP หากออกมาใกล้เคียงหรือดีกว่าคาด อาจเห็นเงินทุนต่างชาติชะลอการขาย หรือ อาจกลับมาซื้อสุทธิคืนบางส่วน
แต่เรากลับกังวลต่อแรงขายจากสถาบันฯ MTD ซื้อสุทธิ 180 ล้านบาท และ YTD ซื้อสุทธิ 3.8 พันล้านบาท ส่วนพอร์ตโบรกเกอร์ MTD ซื้อสุทธิ 6.9 พันล้านบาท และ YTD ซื้อสุทธิ 4.7 พันล้านบาท
ปัจจัยต่างประเทศวันนี้ เราให้น้ำหนักกับมุมมองของเฟดต่อภาพรวมเศรษฐกิจ การจ้างงาน และตลาดบ้านในสหรัฐฯ รวมถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก ณ ปัจจุบัน เพราะจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการประเมินช่วงเวลาที่เฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แน่นอนว่าการประชุมวันที่ 28-29 เม.ย.นี้จะยังไม่ปรับอัตราดอกเบี้ย และตลาดคาดว่าเฟดจะเริ่มขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. จะมีน้ำหนักมากขึ้นหรือไม่ ก็จะขึ้นอยู่กับความเห็นของเฟดในการประชุมนัดนี้เช่นกัน
ตลาด Nikkei (7.11 น.) ปิดทำการ เนื่องในวันโชวะ ส่วน Kospi เปิดบวกเล็กน้อย นักลงทุนต่างรอดูผลการประชุมเฟดคืนนี้
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนอาจซื้อเก็งกำไรหุ้นเป้าหมายบางส่วนเพิ่มเติม" เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,580 จุด +/-
Portfolio
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA/ THAI
Speculative Buy: ITD/ THAI
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ได้แก่
1. THAI : ราคาปิด 13.60 บาท ราคาเหมาะสม อิงเทคนิคที่ 15.00 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้น THAI จะตอบรับเชิงบวกต่อเนื่อง และมีโอกาสที่ Consensus จะปรับเพิ่มมุมมองและประมาณการกำไรขึ้น หลังเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารในวันนี้
b) ประเมินเบื้องต้น คาดว่าผลประกอบการปกติ 1Q58 จะพลิกกลับเป็นบวกราว 1.5 - 2 พันล้านบาท จากแรงหนุนของ High Season ธุรกิจท่องเที่ยว และเป็นไตรมาสแรกที่ได้อานิสงค์บวกจากต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ qoq
c) นอกจากนั้น THAI มีหนี้สินในสกุลเงินยูโรค่อนข้างมาก จึงคาดว่าจะมีกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท และส่งผลให้ผลประกอบการ 1Q58 จะพลิกเป็นกำไรสุทธิสูงกว่า 5 พันล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นสูงกว่า 2.29 บาท
d) Downside Risk จำกัด เนื่องจากซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 18.88 บาทค่อนข้างมาก หรือเทียบเท่าเพียง 0.7 เท่า ซึ่ง BV จะเพิ่มขึ้นอีกหลังรายงานงบ 1Q58 และมี Discount จาก PBV ของหุ้นกลุ่มสายการบิน ได้แก่ AAV ที่ 1.2 เท่า, NOK 1.7 เท่า และ BA ที่ 1.6 เท่า
2. ITD : ราคาปิด 7.30 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้น ITD วันนี้มีโอกาส Rebound หลังปรับตัวลงแรงถึง -6.4% วานนี้ ตามภาวะตลาดที่ผันผวน เพื่อรอดูผลการประชุมเฟดในคืนนี้
b) มีปัจจัยบวกรออยู่ คือการประกาศวันขึ้น XW ใบแสดงสำคัญสิทธิ สัดส่วน 5 ต่อ 1 ราคาแปลงสภาพ 14.00 บาท อายุ 4 ปี
c) รวมทั้งความคืบหน้าในการเซ็นสัญญาโครงการทวายในเดือน พ.ค. และประทานบัตรเหมืองแร่โปรแตซใน 2Q58
d) คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากมีงานประมูลขนาดใหญ่รออยู่ เช่นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ใน 2Q58 ต่อด้วยสายสีแดงอ่อน และสายสีแดงเข้มใน 2H58
e) มี Upside ถึง 64.3% จากราคาเหมาะสมที่ 12.00 บาท โดยวิธี Sum of the part ได้แก่ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 8.50 บาท, นิคมอุตสาหกรรมทวาย 1.50 บาท และเหมืองโปรแตซ 2.00 บาท
Fund Flow Analysis
und Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียซื้อสุทธิอีก US$69 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$704 ล้าน
และ Regional Rotation ระหว่าง North Asia และ TIP ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
Foreign Investors Action วานนี้
เงินทุนต่างชาติขายทำกำไรตลาดหุ้นไทย และพักเงินในตลาดตราสารหนี้ เป็นวันที่ 2
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 2,654 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 4,289 ล้านบาท ส่งผลให้ MTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเหลือ 4.9 พันล้านบาท และ YTD ขายสุทธิขยับเป็น 3,556 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures วานนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 5,154 สัญญา รวม 2 วันทำการ Short สุทธิ 9,056 สัญญา และหากย้อนไปช่วงก่อนหน้าที่ต่างชาติ Long สุทธิตลอด 11 วันทำการก่อนหน้าที่จะกลับมา Long / Short จนถึงวานนี้ เหลือ Long สุทธิ 44,012 สัญญา และ YTD เป็น Long สุทธิ 21,377 สัญญา เราคาดว่านักลงทุนต่างชาติเร่งการปิดสถานะ Long ที่เปิดไว้ก่อนหน้า กดดันให้ S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index มากขึ้นเป็น 3.57 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 0.81 จุด
ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 มากถึง 5,396 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 6,892 ล้านบาท โดยที่ ราคาพันธบัตรไทยทรงตัว ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 อีก 0.33bps ปิดที่ 2.563%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เท่ากับ 683 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 631 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 15 คงเน้นสะสม ICT และ พลังงาน และลดน้ำหนักกลุ่มธนาคารหนาแน่นต่อเนื่อง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิ 432 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 784 ล้านบาท รวม 15 วันทำการซื้อสุทธิเท่ากับ 25,270 ล้านบาท โดย NVDR เน้นสะสมกลุ่ม ICT/ พลังงาน หนาแน่น ขณะที่กลุ่มธนาคาร ยังคงถูกลดน้ำหนักการลงทุน เพราะขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุนช่วงสั้น เช่นเดียวกับวันก่อนหน้า สรุปภาพ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่ม ICT ถูกซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 687 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 670 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มพังงาน ซื้อสุทธิอีก 425 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 436 ล้านบาท กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ซื้อสุทธิ 232 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 292 ล้านบาท และกลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 64 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มธนาคารถูกขายสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 884 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 644 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ขายสุทธิ 81 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่
ดัชนีบ้าน S&P CS เดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 0.9% mom สูงกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 0.7% mom แต่เท่ากับเดือนก่อนหน้า
ดัชนีความเชี่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. เท่ากับ 95.2 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 103.0 จุด และเดือนก่อนหน้า 101.4 จุด เป็นผลจากตลาดการจ้างงานทั้งการจ้างงานปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคตที่ลดลง รวมถึงความเชื่อมั่นในอนาคตมีการปรับตัวลงมาถึง 8.5 จุด มาอยู่ที่ 87.5 จุด ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.
ดัชนี Richmond Fed ภาคการผลิต เดือนเม.ย. เท่ากับ -3.0 จุด ออกมาแย่กว่า Bloomberg consensus คาด -2.0 จุด แต่ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -8.0 จุด
ยุโรป
สถานะการของกรีซ ณ ปัจจุบัน
นายกฯ กรีซ คาดหวังที่จะหารือและได้ข้อสรุปกับทางอียูภายในวันที่ 9 พ.ค. ก่อนที่หนี้ของ IMF จะครบกำหนดชำระในวันที่ 12 พ.ค. มูลค่า 750 ล้านยูโร แต่หากรัฐบาลเผชิญกับแรงกดดันจากทางเจ้าหนี้ นายกฯ พร้อมที่จะขอประชามติจากทางประชาชนต่อข้อเสนอของเจ้าหนี้อียู
เศรษฐกิจอังกฤษเติบโตต่ำกว่าคาด: 1Q58 เศรษฐกิจเติบโต 0.3% qoq เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 4Q55 และต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 0.5% qoq โดยธุรกิจบริการซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดของโครงสร้างเศรษฐกิจ เติบโตเพียง 0.5% qoq ต่ำสุดนับตั้งแต่ 2Q56 ภาคการผลิตหดตัวลง 0.1% qoq การก่อสร้างลดลง 1.6% qoq
จีน
ธนาคารกลางจีนอาจเพิ่มมาตรการกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อ: เพื่อเป็นการกระตุ้นความต้องการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่น ธนาคารกลางจีนอยู่ระหว่างการหารือให้ธนาคารพาณิชย์สามารถที่จะใช้โครงการ Pledged Supplementary Lending เข้าซื้อตราสารหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น ที่ออกมาเพื่อการลงทุนที่ตอบรับกับเป้าหมายของรัฐบาลกลาง ซึ่งปีที่แล้วธนาคารกลางใช้ช่องทางนี้ 1 ล้านล้านหยวน ผ่านธนาคาร China Development Bank เข้าลงทุนในโครงการพัฒนาเมือง
เอเชียแปซิฟิก
ค้าปลีกญี่ปุ่นหดตัวลงแรงในเดือนมี.ค.: ลดลง 9.7% yoy ลดลงแรงกว่าที่ Reuters Poll คาดไว้ -7.3% yoy เนื่องจากเดือนมี.ค.ปี 2557 ยอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้นเด่นก่อนการปรับขึ้นภาษี VAT ในต้นเดือนเม.ย.
ไทย
ส่งออกไทยหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3: หดตัว 4.45% yoy ในเดือน มี.ค. จากเดือน ก.พ.ที่หดตัว 6.14% yoy และเป็นการหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 3.50% yoy สำหรับ 1Q58 ยอดส่งออกหดตัว 4.69% yoy เป็นผลจากเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ และราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ด้านยอดนำเขาหดตัว 5.89% yoy ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล US$1.50 พันล้าน นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ปรับลดคาดการณ์ส่งออกในปีนี้อยู่ที่ 1.2% จากเดิมที่ 4%
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530