- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 29 April 2015 17:56
- Hits: 917
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET sideway รอฟัง กนง.ตัดสินใจ
SET View
แนวโน้มวันนี้มอง Sideway down กรอบ 1,520 – 1,540 จุด
แนวโน้ม SET วันนี้มีโอกาส Sideway ทางขาลง โดยประเด็นสำคัญที่นักลงทุน จับจ้องจะเป็นการประชุม กนง. โดยในช่วงเช้าเราคาดว่า SET มีโอกาสชะลอตัวก่อนรับผลการประชุมในตอนบ่าย ซึ่งฝ่ายกลยุทธ์ประเมินแนวทางของ SET เป็น 2 กรณี คือ 1) หาก กนง. ยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้เท่าเดิมที่ 1.75% เราคาดว่า SET มีโอกาสแกว่งผันผวนทางขาลง มองว่าหลังจบสัปดาห์นี้จะมีเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่น้อยลงมาก ตลาดจะขาดปัจจัยขับเคลื่อนใหม่และหันมากังวลกับตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศและผลประกอบการ 1Q58 ที่เรามีมุมมองว่าภาพรวมจะอ่อนแอ ให้ชะลอการลงทุน ในกรณีที่ 2) หาก กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ถือเป็น Positive surprise ต่อตลาดหลังขาดปัจจัยขับเคลื่อนมานาน (มองเป็นบวกเชิงจิตวิทยามากกว่า) มีโอกาสเห็น SET รีบาวด์แรงในระยะ 1-2 วัน แนะนำให้นักลงทุนระยะสั้นสามารถกลับเข้าตลาดซื้อเก็งกำไรได้ในหุ้นกลุ่มนำตลาด
ปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไป คือ การประชุม FOMC และการประกาศ GDP 1Q58 ของสหรัฐ คาดว่าจะรู้ผลคืนนี้
ทางเทคนิค SET วานนี้หลุดลงมาปิดต่ำว่าแนวรับที่ 1540 จุด พร้อมกับปัจจัยทางด้านกระแสเงินที่ต่างชาติและสถาบันขายสุทธิพร้อมกัน 2.6 และ 2.8 พันล้านบาท ตามลำดับ ส่วนมูลค่าการซื้อขายต่อวันที่สูงขึ้นเป็น 4.8 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการเสริมน้ำหนักการเข้าสู่รูปแบบขาลงทางเทคนิค ต้องระวังว่าหากไม่มีการรีบาวด์ในวันนี้ SET จะเข้ารูปแบบ Three black crows (แท่งแดงต่อกันสามแท่ง) มีโอกาสลงยาวไปทดสอบแนวรับต่อไปที่ 1500 จุด
กลยุทธ์การลงทุน โดยรวมแนะนำชะลอการลงทุน หรือรอจังหวะอ่อนตัว Selective buy เป็นรายตัวในหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวและผลประกอบการ 1Q58 มีทิศทางเติบโต
Top Daily Pick : WORK (มูลค่าเหมาะสม 47 บาท) เป็นผู้นำในช่องทีวีดิจิทัลที่ครองเรทติ้งอันดับ 3 มาตั้งแต่ปลายปี 57 ช่วยดึงดูดเม็ดเงินโฆษณา ผลประกอบการ 1Q58 พลิกกลับมามีกำไร / AP (มูลค่าเหมาะสม 7.80 บาท) คาดกำไรสุทธิ 1Q58 จะเติบโตเท่าตัวจากปีก่อนและดีกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม
Technical Pick : PTTEP SCC TRC BANPU NOK (โปรดอ่านบทวิเคราะห์ Technical เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน)
Theme Play: กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ (AH) ยอดส่งออกรถยนต์เดือนมี.ค. 2558 สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ / กลุ่มหุ้น (ICHI SST THCOM WORK BANPU KAMART) ที่คาดผลประกอบการฟื้นตัวเด่นใน 1Q58 และยังมี Upside จากมูลค่าที่เหมาะสม / หุ้นเด่นน่าลงทุนเดือน เม.ย. (PTTGC BANPU BCP WORK) / กลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์ (RS WORK MONO) ปัจจัยบวกจากที่ กสทช. ให้เลื่อนจ่ายเงินค่าประมูลช่องดิจิทัลอีก 1 ปี / กลุ่มโรงแรม (MINT ERW) การท่องเที่ยวในไตรมาสแรกฟื้นตัวสูง 23% YoY
Strategy Talk
ดุลการค้าเดือน มี.ค. : อ่อนแอกว่าคาด...กดดัน SET
บ่ายวานนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศตัวเลขดุลการค้าเดือน มี.ค. ของไทยออกมาเกินดุล 1.5 พันล้านดอลลาร์จากสูงกว่าที่โพลล์รอยเตอร์คาดจะเกิดดุลเพียง 0.54 พันล้านดอลลาร์ โดยมีการอ่อนตัวลงทั้งยอดส่งออกและนำเข้า
• ยอดส่งออกติดลบ 4.45% มากกว่าที่ Consensus คาดที่ -4% และถือเป็นการติดลบต่อติดกับเป็นเดือนที่สาม โดยยอดส่งออกยางติดลบแรงถึง 27% YoY จากราคายางที่ตกต่ำ โดยรายการที่เติบโตมีเพียงสินค้ายานยนต์ (+5.8% YoY) และวัสดุก่อสร้าง (+14.7%)
• ยอดนำเข้าหดตัวกว่า 5.9% YoY แม้ผลหลักๆเกิดจากยอดนำเข้าน้ำมันที่ถูกลง (-33% YoY) แต่ก็มีสัญญาณยอดนำเข้าสินค้าทุนที่หดตัวลง (-9.1% YoY) สะท้อนการชะลอการลงทุนของภาคเอกชน ซึ่งเรามองว่าจะทำให้กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไป
• ยอดส่งออกแยกตามประเทศ มีทิศทางเป็นไปตามคาดโดยยอดส่งออกหดตัวใน ญี่ปุ่น จีน ยุโรป มีเพียงรายการส่งออกไป สหรัฐ และ อินโดไชน่าที่เติบโต ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็ปรับลดคาดการณ์เป้าส่งออกทั้งปี 58 เติบโตเหลือ 1.2% จากเดิม 4% ด้วย (ยังถือว่าสูงกว่าเป้าของ House view ของเราที่ -0.5%)
มองจะกดดันตลาดต่อเนื่องในระยะนี้ แม้ตลาดจะรับรู้ว่ายอดส่งออกมีโอกาสหดตัวแล้ว แต่ถือว่าดุลการค้าอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด แล้วยังเพิ่มแรงกดดันต่อมุมมองการประกาศผลประกอบการของบริษัทใน real sector ของ SET ในระยะนี้ และกดดันยอด GDP 1Q58 ที่จะประกาศในกลางเดือน พ.ค. อีกด้วย โดยทางด้านยอดส่งออกรถยนต์ที่เติบโต มองว่าจะหนุนจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ในระยะนี้
อย่างไรก็ตามหลังเห็นตัวเลขดุลการค้าแล้วทางฝ่ายวิจัยภัทรยังคงมุมมองว่า กนง. จะยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยจากการประชุมในวันนี้ เนื่องจากมองว่าตัวเลขดังกล่าวไม่ใช่ปัจจัยใหม่ เชื่อว่า กนง. รับรู้ผลการฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจไทยอยู่แล้ว ขณะที่เหตุผลที่เรามองว่ามีโอกาสคงดอกเบี้ย คือ 1) มีโอกาส wait-and-see ผลงานการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลหลังพึ่งเบิกจ่ายงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่มีโอกาสลงมากระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากนี้ จนกว่าจะเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจ 2Q58 - 3Q58 ไม่ฟื้นตัวจริงจึงค่อยนำการปรับลดดอกเบี้ยมาเป็นเครื่องมืออีกครั้ง และ 2) แนวโน้มที่สหรัฐมีทิศทางรอจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ กนง. ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการตัดสินใจ 3)มุมมองของ ธปธ ที่เลือกการใช้วิธีดูแลค่าเงินบาทด้วยวิธีแทรกแซงเป็นระยะมากกว่าการปรับลดดอกเบี้ย เพราะมองว่าอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสไม่ช่วงพยุงค่าเงินบาทเนื่องจาก ในระบบตระกร้าเงิน ค่าเงินบาทจะแข็งค่าตามการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่ไทยเกินดุลเป็นจำนวนมากในระยะนี้
กรณีที่วันนี้ไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายจริงมองเป็นลบ จะทำให้ตลาดยิ่งขาดปัจจัยหนุน
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.18
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.16
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.83
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.58
หุ้นใน Smart Port ที่จะจ่ายปันผลได้แก่
29/04/2015 SRICHA 1.55 Baht per share
30/04/2015 IVL 0.19 Baht per share
30/04/2015 IRPC 0.20 Baht per share
30/04/2015 IRPC 5:1 Stock dividend
06/05/2015 AGE 0.0019 Baht per share
06/05/2015 AGE 15:1 Stock dividend
07/05/2015 ICHI 0.50 Baht per share
07/05/2015 KAMART 0.06 Baht per share
08/05/2015 CK 0.35 Baht per share