- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 27 April 2015 17:32
- Hits: 1273
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"เลือกซื้อตามค่าบวก"
Top Picks-Fund Apr 2015 : Fundamental : BTS, INTUCH, KBANK, RATCH, TRUEIF Dark Horse: GL, SYNTEC
Top Picks -Fund Today: SYNTEC
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, AP, MK, SPALI, MODERN, TISCO, TMT, BTSGIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : GLOBAL 32%, ROBINS 18%, SYNTEC 10%
Technical View ภาพระยะสั้นพลิกเป็นบวกแต่ยังไม่มาก
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อตามค่าบวก 1560-1570 ค่าลบ
SET50 ซื้อตามค่าบวก 1030-1040 ค่าลบ
Top Picks-Tech Today : SCC, WHA, AP, IRPC, BRR, TIPCO, MINT, PTTGC
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวันศุกร์ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้น 10.62 จุดปิดที่ 1555.46 โดยมีการซื้อดักผลประชุมเฟดและกนง.สัปดาห์หน้า แรงซื้อนำโดยนักลงทุนต่างชาติที่เป็นซื้อสุทธิ 1.2 พันล้านบาท ส่วนอีก 3 กลุ่มกระจายกันขายสุทธิ
สัปดาห์นี้ตลาดรอดูผลประชุมเฟดและผลประชุมกนง. รวมถึงติดตามรายงานผลประกอบการไตรมาสส 1/58 ของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม Real Sector ที่จะทยอยออกมาถึงกลางเดือนพ.ค.58 โดยหากออกมาดี (เฟดส่งสัญญาณไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็ว & กำไรบจ.ออกมาดีกว่าคาด ฯลฯ) ตลาดก็มีสิทธิปรับขึ้นต่อไปทดสอบระดับ 1570, 1580 จุด แต่ถ้ามีปัจจัยที่ทำให้ต้องวิตกกังวลมากขึ้นก็มีกรอบล่าง 1520, 1500 จุด อย่างไรก็ดี เรามองว่าแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการในช่วงสั้นจะช่วยพยุงไม่ให้ตลาดร่วงแรง สำหรับกรีซนั้นเป็นไปตามคาด คือ ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้ในการประชุมรัฐมนตรีคลังเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยต้องไปดูกันอีกรอบในการประชุมวันที่ 11 พ.ค.58 ทั้งนี้กรีซมีหนี้ครบกำหนดชำระให้กับ IMF งวดต่อไปในวันที่ 12 พ.ค.58 สำหรับหุ้นพื้นฐานที่แนะนำซื้อวันนี้เป็น SYNTEC โดยคาดว่ากำไร 1Q58 เติบโตแกร่ง YoY และแนวโน้มธุรกิจยังไปได้ดีต่อเนื่อง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเปลี่ยนเป็นบวก แต่ยังไม่มาก โดยมีสิทธิแกว่งลงได้อีกรอบถ้ามีปัจจัยลบทางด้านพื้นฐานเข้ามาเพิ่มเติม การซื้อใหม่จึงควรตามด้วยค่าบวกของดัชนีและราคาหุ้น ให้แนวต้านระยะสั้นไว้ที่ 1560-1570, 1580 จุด ค่าลบควรชะลอ ลดพอร์ตตาม หรือ Stop Loss ในกรณีที่มีหุ้นมากและเงินสดเหลืออยู่น้อย สำหรับการ Scan หาหุ้นสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New high พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ IRPC, SYNTEC, ESSO ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ CBG, CENTEL, SIRI, CWT, S11, GLOBAL, BLA, EPCO และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ SCN, TIPCO
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
/- กรีซ : การประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนไม่บรรลุข้อตกลงใดๆ ซึ่งเป็นไปตามคาด โดยกรีซยังขัดแย้งกับเจ้าหนี้เกี่ยวกับมาตรการปฎิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีการประชุมอีกรอบในวันที่ 11 พ.ค.58 ก่อนที่กรีซจะต้องชำระหนี้อีกงวดให้กับ IMF ในวันที่ 12 พ.ค.
สหรัฐ : ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่รวมหมวดขนส่งลดลงต่อเป็นเดือนที 6 ทั้งนี้ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนโดยรวม เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป +4% ในเดือนมี.ค. แต่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่รวมหมวดการขนส่ง -0.2% ซึ่งเป็นการร่วงลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
ตลาดหุ้นสหรัฐขยับขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนี DJIA +21.45 จุด ดัชนี NASDAQ +36.02 จุด ดัชนี S&P500 +4.76 จุด ปัจจัยที่ช่วยพยุงคือ การซื้อเก็งกำไรในบริษัทที่ผลประกอบการออกมาดี เช่น อะเมซอน, กูเกิล, ไมโครซอฟท์ เป็นต้น
สัญญาน้ำมันดิบแกว่งแคบ โดย WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. -59 เซนต์ ปิดที่ 57.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT +43 เซนต์ ปิดที่ 65.28 ดอลลาร์/บาร์เรล บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ เปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐที่มีการใช้งานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 เม.ย. ลดลง 22 แท่น อยู่ที่ 932 แท่น
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบมิ.ย.ร่วงลง 19.3 ดอลลาร์ หรือ -1.62% ปิดที่ 1,175.00 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยเป็นผลจากแรงขายทำกำไรก่อนการประชุมเฟดสัปดาห์นี้
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
อาเซียนจะเริ่มเปิดเจรจา FTA กับสหภาพยุโรปอีกครั้งในสิ้นปี 58 โดยการเจรจาเคยเริ่มมาตั้งแต่ปี 50 แต่ชะงักไปหลังยุโรปคัดค้าการเข้ามาเป็นสมาชิกอาเซียนของเมียนมาร์ แล้วหันไปเจรจาในแบบทวิภาคี (เจรจาประเทศต่อประเทศ) แทน แต่เมื่อรวม AEC แล้วก็เป็นโอกาสดีที่จะกลับมาเจรจากันอีกรอบ สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างอาเซียนกับยุโรปอยู่ที่ราว 2.48 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 57 โดยยุโรปเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับ 2 ของ อาเซียน และอาเซียนเป็นคู่ค้าใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป และยุโรปเป็น FDI ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนในปี 57 โดยมีมูลค่าเงินลงทุน 2.91 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (+30.5%YoY และคิดเป็น 21.3% ของมูลค่า FDI ทั้งหมดในปี 57)
การเมือง: การอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญปี 58 ได้สิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) หลังจากนี้อีก 30 วัน คือ 27 เม.ย.-24 พ.ค.58 จะเป็นช่วงที่สปช.เสนอคำขอแก้ไขเพิ่มเติม และกมธ.ยกร่างฯพิจารณาคำขอแก้ไขในช่วง 25 พ.ค.-23 ก.ค.58 แล้วจะส่งเสนอสปช.ขอความเห็นชอบทั้งฉบับในวันที่ 6 ส.ค.58 ถ้าสปช.มีมติเห็นชอบก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ 4 ก.ย.58 แต่ถ้าไม่เห็นชอบก็ต้องยุบทั้งกมธ.ยกร่างและสปช.ทั้งคณะ แล้วเริ่มต้นใหม่ ส่วนถ้าจะต้องมีการทำประชามติ ก็คาดว่าจะใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3-4 เดือน
กลุ่มที่พักอาศัย...Selective Buy หุ้นเด่นเป็น AP คาดว่าการประชุมกนง.สัปดาห์นี้จะมีผลต่อหุ้นกลุ่มนี้ไม่มาก เพราะกระแสคาดการณ์ส่วนใหญ่ประเมินว่ากนง.จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย R/P 1 วัน โดยยังคงไว้ที่ 1.75% และหากมี Surprise ด้วยการลดดอกเบี้ยก็คาดว่าจะเป็นผลดีทางปัจจัยจิตวิทยาช่วงสั้นเท่านั้น เนื่องจากมองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยยังช่วยกระตุ้นกำลังซื้อที่พักอาศัยได้ไม่มาก โดยต้องรอให้ภาระหนี้สินภาคครัวเรือนผ่อนคลายลงก่อน โดยเฉพาะจากโครงการรถคันแรก ซึ่งเราคาดว่าหนี้เช่าซื้อรถยนต์จากโครงการรถคันแรกจะลดลงมากในปี 59 และทยอยหมดในปี 60-61 โดยพิจารณาจากอายุสัญญาเช่าซื้อ 48, 60-72 งวดตามเคมเปญส่งเสริมการขายของค่ายรถยนต์ต่างๆ)
ในเชิงกลยุทธ์ ทาง DBS ให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มที่พักอาศัยเป็น Neutral และหุ้น Top Pick เป็น AP โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 1Q58 จะเติบโตเท่าตัว และแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาสที่เหลือของปีนี้ ด้าน Presales คาดว่าจะเติบโตสูงใน 2Q58 เพราะจะเปิดขายโครงการคอนโดใหม่ 6 แห่ง ในทำเลใกล้รถไฟฟ้า สำหรับทั้งปี 58 และปี 59 คาดว่าบริษัทจะทำกำไรเป็นสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง โดยประมาณการกำไรสุทธิขยายตัว 11-12% ต่อปี แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 8.8 บาท คาดการณ์ Dividend Yield ปี 58 เท่ากับ 4%
+ THCOM เข้ามาคำนวณใน SET50 และ SET100 แทน HEMRAJ โดยมีผลตั้งแต่ 28 เม.ย.58 เป็นต้นไป ... แม้ว่าการเข้ามาคำนวณจะไม่มีผลต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท แต่ก็ช่วยกระตุ้นให้หุ้นได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศได้มากขึ้น ซึ่งจะมีผลดีในเรื่องของการระดมทุนในอนาคตของบริษัท สำหรับปัจจัยพื้นฐาน THCOM เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 58 จะเติบโตได้แข็งแกร่งต่อเนื่อง จากรายได้ธุรกิจดาวเทียมที่เติบโต โดยเฉพาะจากไทยคม 7 ที่รับรู้รายได้เพิ่มขึ้น และรายได้จากไทยคม 6 ที่ขยับขึ้นต่อจากลูกค้าในแถบแอฟริกา รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศลาวที่สูงขึ้น และรายได้จาก iPSTAR ที่ดีขึ้นจากลูกค้าในอินเดีย บริษัทคาดว่าลูกค้าไทยคม 7 จะเต็ม 100% ได้ภายใน 3Q-4Q ของปี 58 นี้ ใน Consensus ประมาณการว่ากำไรสุทธิ 1Q58 จะขยายตัวประมาณ 30%YoY และทั้งปี 58 กำไรสุทธิเติบโต 24%YoY ราคาเป้าหมายระยะยาว 1 ปีเท่ากับ 49 บาท (Average) ในเชิงกลยุทธ์แนะนำซื้อ
+ รับเหมาก่อสร้างเล็กที่มีความโดดเด่นทั้งการเติบโตของกำไรและ P/E ต่ำ คือ SYNTEC โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 1Q58 จะขยายตัวโดดเด่นราว 50-60%YoY มูลค่างานในมือสูงราว 1 หมื่นล้านบาท (โดยหลักเป็นงานคอนโด ซึ่งเป็นงานถนัดของบริษัท) โดยใน 1Q58 ประมูลงานใหม่ได้ 2.3 พันล้านบาท เป็นไปตามแผนเมื่อเทียบกับเป้าหมายปีนี้ 8 พันล้านบาท ขณะนี้กำลังประมูลงานใหม่อีก 15 พันล้านบาท บริษัทได้ประโยชน์จากราคาเหล็กที่ลดลง ซึ่งจะช่วยหนุนให้อัตรากำไรดีขึ้น 0.5-0.6% การมีหุ้น BMCL ต้นทุนต่ำ (เฉลี่ยหุ้นละ 1.26 บาท) ทำให้มีกำไรที่ยังไม่รับรู้สูง คาดการณ์ Core Profit ปี 58 เติบโต 39%YoY แนะนำซื้อ DBS ให้ราคาพื้นฐาน 4.15 บาท อิงกับ P/E ปีนี้ที่ 11 เท่า สำหรับ Consensus ก็มีมุมมองที่เป็นบวกกับ SYNTEC เช่นกัน โดยคาดการณ์กำไรบรรทัดสุดท้ายปีนี้เติบโตถึง 47% และราคาเป้าหมายเฉลี่ย 3.9 บาท (Average)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]