- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 17 April 2015 17:11
- Hits: 1629
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“เก็งกำไรน้ำมันบวกต่อ แต่กรีซถ่วง”
Foreign Stock Market
DJIA : 18,105.77 -6.84
NASDAQ : 5,007.79 -3.23
S&P500 : 2,104.99 -1.64
FTSE : 7,060.45 -36.33
NIKEI : 19,885.77 16.01
HSKI : 27,739.71 120.89
FTSTI : 3531.61 -8.34
FBKLCI : 1847.94 7.81
Exchange Rate
(PER US$) 10-Apr 16-Apr
Yen 119.09 118.98
Baht (On-Shore) 32.42 32.36
Euro 1.07 1.08
US Bond Yield 2.55 2.57
MR 3.67 3.63
SD 1.36 1.35
Oil Market
BRENT 63.32 63.98
NYMEX-Crude Light 56.39 56.71
Gold & Silver Market
Gold-Comex 1201.30 1198.00
Silver-Comex 16.28 16.28
Baltic Dy Index
Baltic Dry Index 586.00 593.00
SET50 Futures Trading Vol (Contacts)
16-Apr Long Short Net
Institution 21,716 27,064 -5,348
Foreign 22,668 11,674 10,994
Customer 37,038 42,684 -5,646
Trading Activities (Btm)
16-Apr Buy Sell Net
Institution 5,896 4,894 1,002
Prop Trade 5,317 4,305 1,012
Foreign 21,225 17,298 3,927
Customer 19,913 25,854 -5,942
Apr-15 (MTD)
Institution 39,154 28,471 10,683
Prop Trade 34,121 27,649 6,472
Foreign 78,997 73,671 5,326
Customer 156,889 179,371 -22,482
Jan-Current (YTD)
Institution 323,124 308,613 14,511
Prop Trade 305,039 300,763 4,276
Foreign 708,182 712,413 -4,230
Customer 2,289,334 2,303,891 -14,557
Top Net Buy (Btm)
1 CLSA 1,391
2 UOBKHST 1,284
3 JPM 822
Top Net Sell (Btm)
1 TISCO -1,563
2 MBKET -1,031
3 KS -923
Top Active
Closed %Chg
1 PTT 355.00 6.29
2 PTTEP 122.00 7.02
3 KBANK <XD> 234.00 -
Top Picks–Fund
April 2015 :
Fundamental : BTS, INTUCH,
KBANK, RATCH, TRUEIF Dark
Horse: GL, SYNTEC
Top Picks -
Fund Today:
TH
Top Picks-High
Div Yield :
ADVANC, INTUCH, BTS, DCC,
DELTA, DTAC, MK, SPALI, AP,
MODERN, TCAP, TISCO, TMT,
BTSGIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : ROBINS 11.7%, KB
Technical View ภาพหลักยังเป็นลบ เล่นสั้นตามการรีบาวด์ เน้นตาม “ค่าบวก” เท่านั้น
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อค่าบวก 1580-1590 หลุด 1540
SET50 ซื้อค่าบวก 1050-1060 หลุด 1020
Top Picks-Tech
Today:
PPP,ITD,BCP,IRPC,CENTEL,IVL,PHOL,KAMART
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : หลังหยุดยาวสงกรานต์ ตลาดวันพฤหัสปรับตัวขึ้นสดใสเหนือความคาดหมาย ผลักดันด้วยหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีการเข้ามาเก็งกำไรกันมากหลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกดีดตัวสูงขึ้นในช่วงที่ไทยหยุดเทศกาลสงกรานต์ ปิดตลาดดัชนีฯ +22.17 จุด ที่ระดับ 1,570จุด ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดของวัน ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 50 พันล้านบาท ส่วนกลุ่มที่ซื้อสุทธิคือ กองทุน พอร์ตโบรกเกอร์ และต่างชาติซึ่งซื้อสุทธิสูงสุด 3.9 พันล้านบาท ด้านกลุ่มที่ขายสุทธิคือ รายย่อย ขายสุทธิถึง 5.9 พันล้านบาทสำหรับวันนี้ ปัจจัยต่างประเทศดูไม่สดใสนัก ประเด็นเรื่องกรีซขอเลื่อนชำระหนี้กับ IMF ที่จะครบ 1 พ.ค.58 และยังไม่ได้รับการอนุมัติตามรบกวน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเรื่องขอรับสวัสดิการครั้งแรกและการเริ่มต้นสร้างบ้านใหม่เป็นลบ รวมทั้ง GDP จีน 1Q58 เป็นเพียง 7% ต่ำสุดในรอบ 6 ปี แต่สิ่งที่ดีคือผลประกอบการ 1Q58 ของสหรัฐออกมาดี ด้านปัจจัยในประเทศคือ คาดการณ์ GDP 1Q58 โต 3% อยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้ และวันนี้มีการแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือนไม่น่าจะมีผล เราคาดว่าดัชนีฯวันนี้จะมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังปรับเพิ่มได้ต่อ แม้อัตราการขึ้นจะลดน้อยลง ต้องติดตามราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน ส่วนแนวโน้มการประชุม กนง.ที่จะมีขึ้นปลายเดือนนี้ยังมีลุ้นว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก รวมทั้งการแถลงร่างรัฐธรรมนูญต่อสภาที่จะมีขึ้น 20-26 เม.ย.58 ว่าจะสามารถนำไปสู่การเลือกตั้งในปีหน้าได้หรือไม่ ระยะสั้นเราจึงคาดว่าดัชนีฯมีโอกาสจะไปต่อได้แนวต้านถัดไปเป็น 1580-1590 แต่ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่จะมีสลับออกมา ส่วนดัชนีฯจะยืนยันการเป็นขาขึ้นรอบใหม่ได้จริงๆต้องยืนเหนือ1600-1620 ให้ได้เสียก่อน
สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพหลักตลาดยังเป็นลบ โดยอาจมีรีบาวด์สั้นก่อนลงต่ำต่อ การซื้อเก็งกำไรใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก SET และราคาหุ้น แนวต้านระยะสั้น 1580-1590 การอ่อนตัวต่ำกว่าแนวฟิวเตอร์ 1540 ดูไม่ดี ควรลดพอร์ตตาม
หุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New high ที่อยู่ใน List ได้แก่ BEAUTY,DCC,TCC,SAWAD,HANA,VIBHA ส่วนหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็นESSO,CSS,PLANB และหุ้นที่แนะนำไปแล้ว & อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit เป็น IVL,CENTEL,BCP,KAMART,PACE
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ น้ำมัน: ไปต่อแต่อัตราเพิ่มลดลง สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ปิดที่ 56.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ ปิดที่ 63.98 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้แรงหนุนจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ยังไม่สงบ รวมถึงเหตุการณ์สู้รบในเยเมน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ระบุว่า ปริมาณน้ำมันจากสหรัฐจะเริ่มลดลงช่วงครึ่งหลังปีนี้ทั้งนี้ ในรายงานประจำเดือน โอเปกคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำมันจากสหรัฐจะเพิ่มขึ้นราว 13.65 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงไตรมาสที่ 2 และจะลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ผลกระทบ: มีโอกาสที่ราคาหุ้นหมวดพลังงานและปิโตรเคมี จะยังมีแรงซื้อเข้ามาต่อจากวานนี้ เก็งกำไรเรื่องราคาน้ำมันที่กลับมาปรับตัวสูงขึ้นได้ดี แต่ยังต้องระมัดระวังในเรื่องราคาน้ำมันที่มีความผันผวน และอาจมีแรงขายทำกำไรในอนาคต เนื่องจากภาวะอุปทานล้นเกิน อุปสงค์ที่น้อยจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะจีนที่ปีนี้การเติบโตเศรษฐกิจต่ำอย่างไรก็ตามหากเทียบกับราคาพื้นฐาน หลักทรัพย์กลุ่มที่แนะนำ ซื้อ คือ PTT(380 บาท) BCP (42 บาท) และ TOP (60 บาท) ถือคือ PTTCG (62 บาท) และFully Valued คือ PTTEP (109 บาท)
- จีน: GDP 1Q58 โตเพียง 7% จีนเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 7.0% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นการขยายในระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี
-กรีซ: ร้องขอ IMF เลื่อนเวลาชำระหนี้งวดใหม่ เจ้าหน้าที่ของกรีซเข้าเจรจากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อขอเลื่อนเวลาในการชำระหนี้ออกไปแต่คำร้องขอดังกล่าวได้ถูกปฏิเสธ ทั้งนี้ กรีซมีกำหนดต้องจ่ายหนี้จำนวน 1.95แสนล้านยูโรให้กับ IMF ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ แต่ในขณะเดียวกัน กรีซก็ต้องหาเงินสดเพื่อนำมาจ่ายค่าจ้างให้แก่บรรดาข้าราชการและลูกจ้างภาครัฐในเดือนเดียวกัน
+ยุโรป: ยอดจดทะเบียนรถยนต์ มี.ค.+11% สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ยุโรปเปิดเผยว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 11% จากระดับปีที่แล้วแตะ 1.65 ล้านคัน ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงสุดในรอบ 15 เดือน ภายหลังจากที่เศรษฐกิจฟื้นตัวและเป็นปัจจัยกระตุ้นความต้องการรถยนต์
ผลกระทบ: คาดว่าหลักทรัพย์ที่จะได้ประโยชน์คือ KCE เพราะเป็นผู้ผลิต PCB ที่ใช้กับยานยนต์โดยมีตลาดส่งออกหลักอยู่ในยุโรป (คิดเป็น 70% ของรายได้รวม)เราคงคำแนะนำซื้อ (อ่อนตัว) โดยให้ราคาพื้นฐาน 55 บาท จุดเด่นคือ คำสั่งซื้อที่แข็งแกร่งและมีการขยายกำลังการผลิตต่อในปี 58
-สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจไม่สดใส จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 11 เม.ย. เพิ่มขึ้น 12,000 ราย แตะ 294,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 290,000 ราย ขณะที่ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงถูกกดดัน แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจำนองอยู่ในระดับต่ำ
+สหรัฐ: ตัวเลขผลประกอบการออกมาดี เช่น โกลแมนแซคส์ และซิตี้กรุ๊ป
• สหรัฐ: ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนเม.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค.จาก Conference Board
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+/• GDP ไทย 1Q58: คาดว่าโต 3% เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจว่า สศช.คาดว่า GDP ของไทยในช่วงไตรมาส 1/58 จะโตได้ 3% เป็นผลจากรายได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีรายงานข้อมูลนักท่องเที่ยวช่วงวันที่ 1 ม.ค.-15 เม.ย.58 เพิ่มขึ้น 26% บวกกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่สามารถส่งออกได้มากขึ้น จึงช่วยชดเชยการส่งออกที่ยังชะลอตัว
• การเมือง: วันนี้รัฐบาลแถลงผลงานรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าจากปัญหาเศรษฐกิจไทยที่ยังชะลอ และปัจจัยการเมืองที่ยังไม่แน่นอนโดยเฉพาะร่างรัฐธรรมนูญที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งในปีหน้า ทำให้ภาพรัฐบาลแม้จะยังได้รับการยอมรับอยู่ แต่ก็ไม่ถึงกับสดใสเหมือนในช่วงเริ่มต้นที่ประชาชนเอือมระอาต่อผลกระทบการชุมนุมทางการเมืองที่ค่อนข้างยืดเยื้อ ต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่
+ราคาที่อยู่อาศัย: โดยรวมปรับเพิ่มใน 1Q58 y-o-y รายงานจากศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ พบว่าปรับเพิ่มขึ้นในทุกประเภทของที่อยู่อาศัย ในกรุงเทพฯ นนทบุรีและสมุทรปราการ ได้แก่ ดัชนีราคาห้องชุดรวมทุกระดับราคา ปรับเพิ่มขึ้น 4.7%ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว ปรับเพิ่มขึ้น 3.5% และดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9%
ผลกระทบ: เราเห็นว่าราคาที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ปัจจัยสำคัญคือ ราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้น พิจารณาได้จากดัชนีราคาห้องชุดที่ปรับเพิ่มในอัตราที่สูงกว่าแนวราบ ความต้องการจริงควบคู่กับการเก็งกำไร อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลักทรัพย์ในหมวดที่อยู่อาศัย ยังน่าสนใจซื้อลงทุน ในประเด็นการฟื้นตัวของยอดขายในปีนี้ หลังเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัว และไม่มีปัจจัยลบด้านการเมืองเท่ากับปีที่แล้ว หาก กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก จะส่งผลดีกับอุตสาหกรรมนี้และเป็นกลุ่มจ่ายปันผลได้สูง Top Pick แนะนำ ซื้อ คือ AP, PS และ QHรองลงมาคือ LPN, SIRI และ SC Dark horse คือ PACE
•CPF: บริษัทย้ำใบเหลืองจาก EU-Tier3 ไม่กระทบยอดขาย ข้อลงโทษคือ ห้ามนำเข้าสินค้าประมงที่มาจากการทำประมงผิดกฏหมายและการค้ามนุษย์ แต่ทางบริษัทมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด เพราะสินค้ากุ้งมาจากการเลี้ยงในฟาร์ม และบริษัทไม่มีเรือประมง คำแนะนำทางพื้นฐาน CPF คือ ถือ ราคาพื้นฐาน 27.00 บาท คาดว่า 1Q58 มีขาดทุนจากการดำเนินงาน
+MINT: ธุรกิจสดใส MINT ลุ้นธุรกิจโรงแรมปี 2558 สดใส คาดอัตราเข้าพักปีนี้ฟื้นตัวสู่ระดับกว่า 70% ตั้งเป้ารายได้เฉลี่ยต่อห้องเติบโตกว่า 15% ด้านธุรกิจอาหารยังฟื้นตัวต่อเนื่อง หวังปีนี้เติบโตตัวเลข 2 หลัก พร้อมเดินหน้าขยายสาขาใหม่ตามการเปิดตัวของศูนย์การค้า เราแนะนำ ซื้อ ขึ้น XD ปันผลเป็นหุ้นวันนี้ ราคาพื้นฐานหลัง XD 37.50 บาท
+LH: รุกตลาดอเมริกา ลงทุนอเมริกา ทุ่มงบ 2.4 พันล้านบาท ซื้อโครงการอพาร์ตเมนต์ให้เช่าในซานฟรานซิสโก คาดสร้างรายได้ 100 ล้านบาทต่อปี และให้ผลตอบแทนจากการลงทุน 12% ย้ำเป้ารายได้ปีนี้พุ่ง 3 หมื่นล้านบาท แย้มงบQ2-Q4 โตไม่หยุด เราแนะนำ ถือ ราคาพื้นฐาน 10 บาท ใกล้เคียงกับราคาหุ้นปัจจุบัน เพราะคาดการณ์กำไรปีนี้เพียงทรงตัวเทียบกับปีก่อน แต่แนะนำถือ เพื่อรับปันผล
+NWR: มีโอกาสบันทึกกำไรพิเศษ NWR ซ่อนมูลค่าเพียบจับตาผลงานปี2558 เทิร์นอะราวด์ จ่อบุ๊กกำไรพิเศษคดีคลองด่านกว่า 300 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อกเต็มหน้าตัก 1.5 หมื่นล้านบาท ดันรายได้พุ่งทะลุ 8,000 ล้านบาทพร้อมตั้งเป้าคว้างานใหม่ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ขณะที่ธุรกิจอสังหาไปได้ดี เล็งเปิด 3 โครงการใหม่ปีนี้ เราแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน 2.49 บาท
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : Tel 7835 [email protected]