- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 April 2015 16:19
- Hits: 1328
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"เก็งกำไร เน้นซื้อค่าบวก"
Top Picks-Fund April 2015 : Fundamental : BTS, INTUCH, KBANK, RATCH, TRUEIF Dark Horse: GL, SYNTEC
Top Picks -Fund Today: CK
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, MK, SPALI, AP, MODERN, TCAP, TISCO, TMT, BTSGIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : ROBINS 25%, KKP 15%, VGI 10% KBANK 7%
Technical View ภาพรวมยังเป็นบวกไม่ชัดเจน เล่นสั้น เน้นตาม "ค่าบวก" เท่านั้น
Support Resistance Stop loss
SET ซื้อค่าบวก 1560-1570 หลุด 1530
SET50 ซื้อค่าบวก 1030-1040 หลุด 1015
Top Picks-Tech Today: KBANK, DCC,PACE,IRPC,BRR,TIPCO,CPALL,SIMAT
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : HEMRAJ (จากถือเป็น Fully Valued)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อศุกร์ที่ 10 เม.ย.ตลาดแกว่งแคบและมูลค่าซื้อขายไม่สูง ซึ่งเป็นไปตามคาด เนื่องจากเป็นวันซื้อขายสุดท้ายก่อนหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ปิดตลาดดัชนีตลาดหุ้นไทย +2.72 จุด ที่ 1547.83 จุด ปัจจัยที่จับตาหลังสงกรานต์ คือ รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/58 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และการทำ Preview กำไรของ Real Sectors รวมถึงความคืบหน้าในการขอความช่วยเหลือรอบใหม่ของกรีซจากกลุ่มยูโรโซน
สำหรับวันนี้ปัจจัยต่างประเทศมีสัญญาณที่ Mix คือ ฟากสหรัฐฯตัวเลขภาคการผลิตไม่สดใส แต่ข่าวดีคือ ฟากยุโรปทาง ECB จะมีการใช้ QE เกินกว่าเวลาที่กำหนดการไว้เดิม การที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวข้า มีข้อดีคือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะชะลอออกไป สำหรับโภคภัณฑ์น้ำมันและทองคำปรับตัวดีขึ้น (ดาวโจนส์ปรับเพิ่ม 0.3% ในช่วงวันหยุดยาวของไทย) ส่วนปัจจัยในประเทศเรื่อง การเกิดระเบิดที่เกาะสมุยคาดว่าจะมีปัจจัยลบในกรอบที่จำกัด แต่ปัจจัยบวกมีเข้ามาในตลาดฯ เช่น IMF ปรับคาดการณ์การเติบโต GDP ไทยขึ้น สินค้าจะยังไม่ปรับขึ้นราคาถึงกลางปีนี้ สหรัฐยอมส่งฑูตมาไทย และลุ้น กนง.จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกครั้งหรือไม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านการแก้ปัญหาอุตสาหกรรมการบินไทย คาดว่าจะมีผลดีขึ้น แม้มีการเลื่อนไปพบ ICAO กลยุทธ์การลงทุน คือ เล่นเก็งกำไรซื้อเล่นรอบสั้น แนวต้านไม่เกิน 1560-1570 แต่เน้นซื้อตามค่าบวก แต่หากพลิกผันลงต่ำกว่า 1530 จะเป็นสัญญาณไม่ดี ส่วนการซื้อลงทุนระยะกลาง-ยาว เราเน้นซื้ออ่อนตัวมากกว่า โดยเฉพาะที่ดัชนีฯต่ำกว่าระดับ 1500 จุด
สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ โดยอาจมีรีบาวด์สั้นก่อนลงต่ำต่อ การซื้อเก็งกำไรใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก SET และราคาหุ้น แนวต้านระยะสั้น 1560-1570 การอ่อนตัวต่ำกว่าแนวฟิวเตอร์ 1530 ดูไม่ดี ควรลดพอร์ตตาม
หุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New high ที่อยู่ใน List ได้แก่ BEAUTY, IVL, DCC, CENTEL, TCC, BCP, SAWAD,KAMART,HANA ส่วนหุ้นที่เข้ามาใหม่เป็น PACE,VIBHA และหุ้นที่แนะนำไปแล้ว & อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit เป็น SIMAT, PM
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
-/+ สหรัฐ: ตัวเลขการผลิตไม่สดใส ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานเมื่อคืนนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.ลดลง 0.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ปรับลง 1.0% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการลดลงรายไตรมาสครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปี 2552 กิจกรรมภาคการผลิตในเขตนิวยอร์กอ่อนแรงลงในเดือนเม.ย. โดยเฟดสาขานิวยอร์กเปิดผยว่าดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนเม.ย.ลดลงแตะ -1.19 จากระดับ 6.90 ในเดือนมี.ค.อย่างไรก็ตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ไม่ดี กลับทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชะลอลง
+ ยุโรป: ใช้ QE เกินช่วงกำหนด นายดรากีได้เปิดช่องสำหรับ ECB ที่จะซื้อพันธบัตรต่อไปเกินกว่าเดือนก.ย.2559 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำหนดไว้เดิม โดยเขากล่าวว่า จะซื้อพันธบัตรถึงเดือนก.ย.ปีหน้า หรือจนกว่าอัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นเข้าใกล้เป้าหมายที่ระดับ 2% ของ ECB
+ ดาวโจนส์: วานนี้ปรับบวก ช่วงไทยหยุดยาวบวกเล็กน้อย 0.3% ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,112.61 จุด เพิ่มขึ้น 75.91 จุด หรือ +0.42% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,011.02 จุด เพิ่มขึ้น 33.73 จุด หรือ +0.68% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,106.63 จุด เพิ่มขึ้น 10.79 จุด หรือ +0.51% ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทอินเทล คอร์ป ที่เปิดเผยรายได้ไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์ และรายได้สุทธิ 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ และช่วยหนุนราคาหุ้นอินเทลปิดพุ่งขึ้น 4.26%
+ น้ำมัน: ปรับตัวขึ้นดี สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 3.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.32 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่สูงเกินไป
+ ทองคำ: ปรับตัวเพิ่มขึ้น สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 8.7 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 1,201.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อันเป็นผลมาจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ
+ ดัชนีค่าระวางเรือเทกอง: ปรับบวกต่อเนื่อง ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 586.00 จุด เพิ่มขึ้น 8.00 จุด, +1.38% ระยะหลังดัชนีฯทยอยฟื้นตัวดีขึ้นบ้าง
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
-การเมือง: ข่าวระเบิดเซ็นทรัลสมุย ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ซึ่งปกติสมุยไม่ใช่เขตที่มีการก่อการร้าย ต่างจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ แต่มีผลลบกับบรรยากาศการท่องเที่ยวไทยอยู่บ้าง ปัจจุบันก็ยังจับตัวการไม่ได้ ต้องติดตามว่าจะยังมีเหตุการณ์ต่อเนื่องอีกหรือไม่ เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้น หลังจากเกิดเหตุที่สยามพารากอน
+IMF: ปรับตัวเลขเศรษฐกิจไทยขึ้น คาดโต 3.7% จากเดิม 3.5% ประเมินบริโภคขยายตัวจากราคาน้ำมันร่วง ลงทุนเอกชนฟื้นตัว หลังขออนุมัติการลงทุน ชี้หากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า สามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มได้ ขณะสศค.พร้อมหนุนด้านการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ
+พาณิชย์: การันตีสินค้าไม่ขึ้นราคาถึงกลางปีนี้ แนะรัฐเร่งอัดเงินแก้เศรษฐกิจฝืดเคือง สาเหตุที่กรมการค้าภายในเห็นเป็นเช่นนี้ เพราะผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด และร้านค่า มีการแข่งขันรุนแรง ใช้โปรโมชั่นกันมาก เพื่อระบายสินค้าจากสต็อค
-/ อุตสาหกรรมการบิน: แก้ 4 ปัญหา ก่อนถกกับ ICAO เลื่อนการเข้าพบกรมการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่กรุงมอนทรีออล แคนาดา จากเดิม 20 เม.ย.ไปเป็น 11 มิ.ย.58 แต่จะไม่กระทบกับการแก้ปัญหาการบินของไทย เนื่องจาก ICAO จะแจ้งผลการแก้ไขมาตรฐานด้านการบินของไทยในต้นเดือน มิ.ย.58
ผลกระทบ: หุ้นกลุ่มสายการบินของไทย หลังจากได้รับจิตวิทยาทางลบ เพราะกระทบเฉพาะเรือเช่าเหมาลำ ไม่กระทบตารางการบินปกติ แต่ก็ส่งผลลบกับภาพพจน์ของอุตสาหกรรม เรายังแนะนำทยอยเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีในกลุ่ม ได้แก่ AAV
+สหรัฐ: ตั้งทูตฟื้นสัมพันธ์กับไทย หลังคานอำนาจกับมหาประเทศอื่นๆ คือ รัสเซีย จีน และอินเดีย ตั้งแต่ไทยมีรัฐบาลทหาร ไม่มีการแต่งตั้งทูตท่านใหม่เข้ามา จึงถือเป็นสัญญาณที่ดี ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐดีขึ้น ทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ
+/ กนง.: ประชุมอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 29 เม.ย.58 ระยะหลังมีกระแสเรียกร้องให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังจากคราวที่แล้วมีการปรับลดไปแล้วหนึ่งครั้ง เพราะเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างประเทศที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด และเศรษฐกิจไทยซบเซา
ผลกระทบ: เป็นเรื่องที่ควรติดตาม เพราะปกติเวลาอัตราดอกเบี้ยลดลง จะส่งผลดีกับตลาดหุ้น เงินบาทที่อ่อนค่าลงจะส่งผลดีกับ การส่งออก การท่องเที่ยง และความมั่นใจผู้บริโภคที่ดีขึ้น จะส่งผลดีกับกลุ่มพาณิชย์ และอสังหาริมทรัพย์
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : Tel 7835
[email protected]