- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 April 2015 15:35
- Hits: 1275
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังมีสิทธิปรับพักตัว ดังนั้นรอซื้อช่วงลบดีกว่า...
กลยุทธ์ : หลังจาก SET เริ่มแกว่งตัวผันผวนบ้างในสัปดาห์ก่อน และตลาดหุ้นเอเชียช่วงนี้ก็เริ่มมีจังหวะปรับตัวลง ทำให้คาดว่า SET ยังมีสิทธิอ่อนตัวลงก่อนได้ เราจึงยังแนะนำให้รอซื้อช่วงลบดีกว่า แต่คาดว่าเป็นการพักตัวลงเพื่อขึ้นต่อ ดังนั้นส่วนของพอร์ตลงทุนจึงจะเน้นถือหุ้นต่อเนื่องเช่นเดิม
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MK, NDR, M(buy back)
แนวโน้ม : ในช่วงวันหยุดยาว 3 วันต้นสัปดาห์ของ SET ตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งยังค่อนข้างแกว่งตัวผันผวน ถึงแม้ว่าดัชนีดาวโจนส์และตลาดหุ้นยุโรปจะขยับบวกต่อได้ดี แต่เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งปรับตัวลงค่อนข้างแรงพอควร ขณะที่ SET ก็เริ่มมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนให้เห็นตลอดสัปดาห์ก่อนวันหยุด ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีโอกาสที่จะปรับพักตัวลงก่อนได้เช่นเดิม อย่างไรก็ตามเราคาดว่ากรอบการปรับตัวลงช่วงนี้จะยังค่อนข้างจำกัด เพราะเมื่อวานนี้(15 เม.ย.) ECB มีมติคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปจนกว่าเงินเฟ้อของยูโรโซนจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชนต่างๆ ของสหรัฐ และการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ เนื่องจาก IEA(สนง.พลังงานสากล) คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกปี 58 จะขยายตัวมากกว่าที่คาดได้ นอกจากนี้ EIA ของสหรัฐยังระบุว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ช่วยให้นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่สูงเกินไปด้วย ทำให้คาดว่าช่วง SET ปรับลงจะยังมีแรงซื้อพยุงตลาดไว้ได้
แนวรับ 1545-1540 , 1535-1530 จุด
แนวต้าน 1550-1552 , 1555-1558 จุด
Fund Flow กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาควานนี้ US$461ล้าน หลังจากไหลเข้ารวมกว่า US$550 ล้านในช่วง 2 วันติดต่อกันก่อนหน้าที่ไทยหยุดเทศกาลสงกรานต์หลังประธาน ECB ยืนยันจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE ต่อไป สำหรับแรงขายวานนี้ไหลออกจากไต้หวันกว่า US$708ล้าน ตามด้วยฟิลิปปินส์ US$33ล้าน ไหลเข้าเพียงเกาหลีใต้ US$326ล้าน แนวโน้มตลาดวันนี้น่าจะไหลออกต่อเนื่องจากความกังวลต่อเศรษฐกิจจีน ซึ่ง GDP โตต่ำสุดในรอบ 6 ปี
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ราคาน้ำมันดิบใน 2H15 ถูกกดดันเพิ่ม แม้ว่าเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นกว่า US$3 หลังปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐลดลง แต่การตกลงเบื้องต้นในการจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อปูทางสู่ข้อตกลงฉบับสมบูรณ์สิ้น มิ.ย.นี้ ราคาน้ำมันในช่วง 2H15 มีแรงกดดันเพิ่มเพราะคาดว่าอิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมันเพิ่มเป็น 2.5 ล้านบาร์เรล/วันจากปัจจุบันที่ 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน
(0) เริ่มเทศกาลผลประกอบการ 1Q15 ด้วยกลุ่มแบงก์ TISCO จะเป็นแบงก์แรกที่ประกาศงบฯพรุ่งนี้ เราคาดกำไรกลุ่มแบงก์เช่าซื้อ (TISCO, TCAP, KKP) +5.4% Q-Q, +9.8% Y-Y จากสำรองหนี้สูญและขาดทุนรถยึดลดลง แต่สินเชื่อและรายได้อื่นชะลอ โดยคาดสินเชื่อ -2% YTD และหดตัวตลอดทั้งปี ก่อนฟื้นชัดเจนในปี 2016 จากการขึ้นภาษีสรรพสามิตซึ่งเป็นบวกต่อตลาดรถมือสอง และโครงการรถคันแรกล็อตปี 2012 ทยอยครบอายุการผ่อนชำระ ความน่าสนในของกลุ่มนี้มีเพียงเงินปันผล (Yield เฉลี่ย 4.5% ต่อปี) และราคาหุ้นที่ถูก (Forward PE 9 เท่า) เราเลือก TISCO (เป้าหมาย 56 บาท) เป็น Top Pick (คาดกำไร -17% Q-Q, +9.5% Y-Y)
(+) กลุ่มไฟแนนซ์กำไรเด่นใน 1Q15 อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นบวกต่อ MTLS และ GL โดยตรงเพราะต้นทุนทางการเงินถูกลง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยรับคงที่ เราชอบหุ้น 2 ตัวนี้มากสุดในกลุ่มเพราะกำไรปี 2015 โตก้าวกระโดดซึ่งจะเริ่มเห็นตั้งแต่ 1Q15 โดย MTLS เปิดสาขาใหม่ถึง 170 แห่งใน 2 เดือนแรก ขณะที่ทั้งปี 2014 เปิด 80 สาขา ราคาหุ้นแกว่งแคบในกรอบ 18-20 บาทมากว่า 2 เดือน เรายังคงราคาเป้าหมาย 25 บาท ยังแนะนำซื้อ ส่วน GL เริ่มเก็บเกี่ยวประโยชน์จากการไปลงทุนในกัมพูชาตั้งแต่ไตรมาสก่อนและต่อเนื่องในปีนี้ ทำให้กำไรในปีนี้ Turnaround ครั้งใหญ่ ราคาหุ้นยังต่ำกว่าเป้าหมายของเราที่ 15 บาท ยังแนะนำซื้อ
(+) ROBINS เราคาดยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ใน 1Q15 ฟื้นตัวเป็นติดลบน้อยลงจากไตรมาสก่อน แต่ยังติดลบเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน เพราะกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นแต่ได้แรงหนุนจากรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นทำให้คาดกำไรสุทธิ +7.4% Y-Y แต่ -2.7% Q-Q จาก high season ในไตรมาสก่อน แม้กำลังซื้อยังไม่ฟื้นดีนัก แต่คาดกำไรสุทธิปี 2015 เติบโตได้ 18.6% Y-Y จากฐานต่ำ การเปิดสาขาใหม่ และรายได้ค่าเช่าเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เรายังคงราคาเป้าหมาย 56 บาท และยังแนะนำซื้อ
(+) IPO ล่าสุด “GPSC” บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ เป็น Flagship ธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภคของกลุ่ม ปตท. ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 1,315 MW และจะเพิ่มขึ้น 40% เป็น 1,851MW ในปี 2019 เราคาดปี 2015 กำไรสุทธิเติบโต 25% Y-Y เป็น 1,974 ล้านบาท จากการรับรู้กำไรจากโครงการ IRPCCP – I และโตต่อเนื่อง 11% Y-Y ในปี 2016 จากการเริ่มรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้านวนคร (NNEG) และเติบโต 21.5% ในปี 2017 จากการเริ่มรับรู้กำไรจากโครงการ IRPCCP –II, NL1PC และ BIC2 เราประเมินมูลค่าหุ้นได้เท่ากับ 33 บาท (DCF) และคาด Dividend yield 3.5-4.5% ต่อปี
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังราคาน้ำมันปรับตัวพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดของปี รวมถึงแรงหนุนจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้เช่นกันหลังประธาน ECB ยืนยันว่าจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE ต่อไปจนกว่าเงินเฟ้อของยูโรโซนจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบค่อนไปในแดนบวกโดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นจากตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น
ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วและแรงมาแกว่งตัวในกรอบ 32.35-32.45 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ปิดที่ 56.39 เหรียญ/บาร์เรล พุ่งขึ้น 3.10 ดอลลาร์/บาร์เรล ทำจุดสูงสุดของปีหลังมีรายงานว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลงมากกว่าคาด
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,201.30 ดอลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 8.70 เหรียญ/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงจากตัวเลขเศรษฐกิจภาคการผลิตออกมาอ่อนแอกว่าคาด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
16 เม.ย. - สหรัฐ: Beige Book, Housing starts & Building permits (มี.ค.)
17-23 เม.ย. - ไทย: กลุ่มธนาคารทยอยประกาศผลประกอบการ 1Q15
17 เม.ย. - ไทย: ร่างรัฐธรรมนูญจะถูกส่งให้คสช. ครม. และสปช. พิจารณา โดยคสช.และครม.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 16 พ.ค.
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
20 เม.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (มี.ค.)
21 เม.ย. - ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (เม.ย.)
22 เม.ย. - สหรํฐ: ยอดขายบ้านเก่า (มี.ค.)
23 เม.ย. - จีน: HSBC China Manufacturing PMI (เม.ย.)
- เกาหลีใต้: 1Q15 GDP
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (มี.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (เม.ย.)
24 เม.ย. - สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (มี.ค.)
27 เม.ย. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (มี.ค.), ดุลการค้า (มี.ค.)
28 เม.ย. - สหรัฐ: S&P/CaseShiller Index (ก.พ.), ความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เม.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research