- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 April 2015 15:27
- Hits: 1291
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Oil Price
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX แกว่งกรอบแคบ 1,545 จุด +/- โดยหุ้นหลักส่วนใหญ่ยังคงทรงตัวได้แข็งแกร่ง เช่น PTT / KBANK / SCC เป็นต้น แต่ด้วยว่าเป็นช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย ทำให้ภาพรวมยังคงเป็นไปอย่างเปราะบาง ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวกเล็กน้อย 2.72 จุด มาอยู่ที่ 1,547.83 จุด มูลค่าการซื้อขายเหลือเพียง 30,299 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติแม้ว่าจะขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เพียง 251 ล้านบาท และขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 4,051 ล้านบาท แต่คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 8 อีก 2,120 สัญญา สะท้อนมุมมองต่อหุ้นหลักในตลาดหุ้นไทยมี Downside risk ที่จำกัดในช่วงหลังวันหยุดยาว
ปัจจัยสำคัญวันนี้
เศรษฐกิจจีนเติบโตชะลอตัว ตลาดคาดจีนจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม
การเจรจากรีซและเจ้าหนี้ยังไม่คืบหน้า ล่าสุด S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลง พร้อมคงแนวโน้มเป็น "ลบ" ต่อเนื่อง
IEA ประมาณการความต้องการใช้น้ำมันปีนี้เพิ่มขึ้น
ผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ไปอย่างเรียบร้อย ไม่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรง แต่การท่องเที่ยวสะพัด
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 16 ประเมินกรอบแกว่ง SET INDEX ระหว่าง 1,540 - 1,555 จุด และมูลค่าการซื้อขายเบาบางต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะนักลงทุนในประเทศส่วนใหญ่ยังคงติดช่วงวันหยุดคาบเกี่ยวของตลาดหุ้นไทย
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศเป็นกลางถึงบวก โดยเฉพาะจีนที่มีความเป็นไปได้สูงที่ ธนาคารกลางจีน จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม อย่างการลด RRR ลง หลังภาพรวมเศรษฐกิจจีนใน 1Q58 เติบโตชะลอตัว ภาคอสังหาฯ ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นในเอเชียวานนี้ที่ปรับตัวลงหลังจีนประกาศตัวเลข GDP ใน 1Q58 เติบโตชะลอตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552
ด้านกรีซ ทั้งนายกฯ กรีซ และ เจ้าหนี้อียู ต่างเดินหน้าเจรจากันในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้เส้นตายระหว่างกรีซ และ เจ้าหนี้อียู กำหนดไว้ที่ 24 เม.ย. เราคาดว่าการเจรจาจะเร่งตัว พร้อมกับ จำกัดกรอบการเจรจาลง เพื่อหาข้อสรุปให้ทันกับเส้นตายดังกล่าว
ปัจจัยที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาโดดเด่นและทะลุแนว 1,555-1,560 จุดได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานในกลุ่มธนาคาร ซึ่งจะเริ่มทยอยประกาศในวันที่ 20 เม.ย.นี้เป็นต้นไป กระแสเงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มชะลอการลงทุนในช่วง 1-2 วันนี้ เพื่อรอผลดังกล่าวในสัปดาห์หน้า แต่แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติก็เป็นไปอย่างจำกัดในช่วงนี้เช่นกัน
ดังนั้นการย่อตัวของ SET INDEX ในช่วง 1-2 วันนี้ กลายเป็นจังหวะของการเข้าทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย โดยเฉพาะหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานใน 1Q58 เติบโตเด่นกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตฯ
ตลาด Nikkei - Kospi (7.30 น.) เปิดบวกเล็กน้อย สอดคล้องกับ DJIA คืนก่อนหน้าปิดบวกเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย โดยเฉพาะหุ้นที่ผลการดำเนินงานใน 1Q58 เติบโตเด่น หรือ หุ้นที่ยังมีประเด็นเชิงบวกต่อการประชุมผู้ถือหุ้น" เป็นทางเลือกของการเก็งกำไรในระลอกใหม่
Portfolio
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: BCP/ ITD
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. BCP : ราคาปิด 33.50 บาท ราคาเหมาะสม 37.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะ Outperform ตลาดในวันนี้ หลังราคาน้ำมันดิบในช่วง 3 วันที่ผ่านซึ่งตลาดหุ้นไทยปิดทำการในเทศกาลสงกรานต์ ปรับตัวขึ้นขึ้นถึง US$4.75/barrel หรือ +9.2% เป็น US$56.39/barrel
b) Overhang ถูกปลดล็อก เนื่องจากได้ความชัดเจนแล้วว่า PTT จะลดสัดส่วนการถือหุ้นใน BCP โดยขายหุ้น 15% ให้กองทุนวายุภักษ์ และ 12% ให้กองทุนประกันสังคม
c) คาดกำไรสุทธิ 1Q58 เติบโตทั้ง yoy และ qoq เป็น 1,700 ล้านบาท +9% yoy และพลิกกลับจากขาดทุนใน 4Q57 จากค่าการกลั่นเฉลี่ยที่สูงถึง US$8.52/barrel ใน 1Q58 จาก 1Q57 ที่ US$6.26/barrel และ 4Q57 ที่ US$6.27/barrel รวมทั้งไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงเล็กน้อย qoq
d) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2558 ที่คาดว่ากำไรสุทธิจะขยายตัว +572.6% yoy เป็น 4,786 ล้านบาท และจุดเด่นของ BCP คือการกระจายตัวของโครงสร้างธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจโซลาร์ฟาร์มที่มีกระแสเงินสดแน่นอน จึงมีความผันผวนของกำไรที่ต่ำกว่าโรงกลั่นอื่นๆในกลุ่ม
e) ซื้อขายระดับ PER 2558 ที่ 9.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ราว 12.0 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 4.1% ต่อปี
2. ITD : ราคาปิด 8.00 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่าจะประกาศขึ้นเครื่องหมาย XW ใบแสดงสำคัญสิทธิ สัดส่วน 5 ต่อ 1 ราคาแปลงสภาพ 14.00 บาท อายุ 4 ปี ภายในเดือน เม.ย. หลังการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 เม.ย. ได้ลงมติอนุมัติการออก Warrant แล้ว
b) และคาดว่าจะมีความคืบหน้าในการเซ็นสัญญาโครงการทวายในช่วงปลายเดือน เม.ย. ถึง พ.ค. รวมทั้งใบประทานบัตรเหมืองแร่โปรแตซ ใน 2Q58 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนประชาพิจารณ์ขั้นสุดท้าย
c) การประมูลงานขนาดใหญ่เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดยคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มได้ใน 2Q58 ต่อด้วยสายสีแดงอ่อน และสายสีแดงเข้มใน 2H58
d) มี Upside ถึง 50% จากราคาเหมาะสมที่ 12.00 บาท โดยวิธี Sum of the part ได้แก่ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 8.50 บาท, นิคมอุตสาหกรรมทวาย 1.50 บาท และเหมืองโปรแตซ 2.00 บาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียขายสุทธิ US$468 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคง Long สุทธิใน SET50 Index Futures
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 251 ล้านบาท เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า ซื้อสุทธิ 2,975 ล้านบาท และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 7,280 ล้านบาท
แต่คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 8 อีก 2,120 สัญญา รวม 8 วันทำการ Long สุทธิทั้งสิ้น 40,914 สัญญา และ YTD เป็น Long สุทธิขยับขึ้นเป็น 18,279 สัญญา เป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่อหุ้นหลักใน SET50 Index ช่วงสั้น แม้ว่า S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือเพียง 1.38 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 3.95 จุด
ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาขายสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก 4,051 ล้านบาท รวม 2 วันทำการขายสุทธิ 9,750 ล้านบาท เพื่อปิดความเสี่ยงค่าเงินบาทในช่วงเทศกาลหยุดยาวของไทย ส่งผลให้ราคาพันธบัตรไทยลดลงเป็นวันที่ 5 ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 อีก 0.16bps ปิดที่ 2.683%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling เท่ากับ 360 ล้านบาท ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าที่ 356 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 คงเน้นกลุ่มธนาคาร และกลับมาสะสม ICT อีกครั้ง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 789 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 687 ล้านบาท รวม 6 วันทำการซื้อสุทธิ 6,250 ล้านบาท คงเน้นกลุ่มธนาคารเป็นหลัก แต่กลับมาสะสมกลุ่ม ICT หลังจากที่ลดน้ำหนักการลงทุนไปในช่วงก่อนหน้า สรุปภาพรวมของ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิสูงสุดเป็นวันที่ 3 อีก 444 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 585 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่ม ICT ซื้อสุทธิ 218 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 177 ล้านบาท และกลุ่มโรงพยาบาล ซื้อสุทธิ 96 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 43 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่มอสังหาฯ ถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 79 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดเป็นส่วนใหญ่
ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.9% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 1.1% mom แต่ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.5% mom หากไม่รวมยอดขายยานยนต์ ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% mom จากเดือนก.พ.ที่ 0.0% mom แต่ยังคงต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะฟื้นตัว 0.6% mom
ระดับสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ เดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 0.3% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 0.2% mom แต่ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.0% mom
ดัชนี Empire State ภาคการผลิต เดือนเม.ย. หดตัว 1.19 จุด สวนทางกับ Bloomberg consensus ที่คาด 7.0 จุด และเดือนก่อนหน้า 6.90 จุด โดยคำสั่งซื้อใหม่หดตัวอย่างมีนัยยะสำคัญ ถึง -6.00 จุด เป็นการลดลงเดือนที่ 2 จากการส่งออกที่อ่อนแอ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่า
ผลผลิตอุตฯ เดือนมี.ค. หดตัว 0.6% mom มากกว่า Bloomberg consensus คาด -0.3% mom และสวนทางกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.1% mom โดยภาคการผลิตเหมืองแร่ลดลง 0.7% mom จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง 1.6% mom
ดัชนีตลาดบ้านในเดือนเม.ย. เท่ากับ 56.0 จุด สูงกว่า Bloomberg consensus เล็กน้อย ที่คาด 55.0 จุด และดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 52.0 จุด
IEA ประเมินโอเปคผลิตน้ำมันมากสุดในรอบ 4 ปี: เนื่องจากซาอุดิอาระเบีย, อิรัก และ ลิเบียเร่งการผลิตน้ำมัน หลังแนวโน้มความต้องการน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง การผลิตในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 8.9 แสนบาร์เรล/วัน เป็น 31.02 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2554 แต่ IEA ปรับประมาณการการผลิตน้ำมันจากสหรัฐฯ และแคนาดาลงในช่วง 2H58 ภาพรวมในปี 2558 IEA คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน เป็น 93.6 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดือนมี.ค.ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9.0 หมื่นบาร์เรล
รายงาน Beige book ส่งสัญญาณเศรษฐกิจขยายปานกลาง: จาก 5 ใน 12 เขตเศรษฐกิจ ทั้งนี้การสำรวจครั้งนี้ ให้น้ำหนักกับตลาดการจ้างงานที่มีเสถียรภาพ หรือ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่เขตเศรษฐกิจส่วนใหญ่ ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่อุ่นขึ้น ยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นในเขตเศรษฐกิจส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับตลาดอสังหาฯ
ยุโรป
ผลผลิตภาคอุตฯ เยอรมันฟื้นตัว: เดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 0.2% mom จากเดือนม.ค.ที่ลดลง 0.4% mom และดีกว่า Bloomberg consensus คาดที่ +0.1% mom ส่วนผลผลิตในสินค้าเพื่อการลงทุน เพิ่มขึ้น 1.2% mom
การเจรจาระหว่างกรีซและ รมว.คลังอียู เริ่มอีกครั้งวันที่ 16 เม.ย.: การหารือรอบนี้สร้างความหนักใจให้แก่อียูค่อนข้างมากว่า ท้ายที่สุดแล้ว นายกฯ กรีซจะไม่สามารถสรุปแผนการปฎิรูปได้ตามเส้นตายในวันที 24 เม.ย. การเจรจายังไม่สามารถหาแนวคิดร่วมกันได้ รัฐบาลกรีซยังคงปฎิเสธการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และ การปฎิรูปโครงสร้างตลาดแรงงาน, กองทุนบำเหน็จบำนาญ และงบประมาณ
S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือกรีซลงอีก: เป็น CCC+ จาก B- พร้อมคงแนวโน้มเป็น "ลบ" เนื่องจาก S&P ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของกรีซ อยู่ในระดับที่ไม่น่ามีเสถียรภาพ หากกรีซไม่มีการปฎิรูปเศรษฐกิจที่มากพอ
สวีเดนเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจปีนี้: คาดว่าจะเติบโต 2.6% yoy และเป็น 2.7% yoy ในปีหน้า จากประมาณการเดือนม.ค.ที่คาดไว้ 2.4% yoy และ 2.7% yoy ปี 2558-2559 สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในสวีเดนฟื้นตัวและเศรษฐกิจโลก แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสวีเดนจะเป็นไปอย่างช้าๆ
(ยังมีต่อ)
CMNT> (ต่อ1) หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง
ตลาดคาดว่า BoE จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาด: ทั้ง AXA Investment Manager / Blackrock Inc ต่างประเมินว่า รัฐบาลจะกดดันให้ BoE ขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลผ่อนคลายนโยบายการคลังแบบเข้มงวด
จีน
ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาส่งสัญญาณชะลอตัว
เศรษฐกิจจีนใน 1Q58 เติบโต 7.0% yoy เท่ากับ Bloomberg consensus คาด แต่ชะลอตัวจาก 4Q57 ที่ขยายตัว 7.3% yoy และเป็นระดับการเติบโตต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552 ทั้งนี้ภาคบริการคิดเป็นสัดส่วน 51.6% ของ GDP และขยายตัวสูงกว่าภาคการผลิต 8.7%
ผลผลิตภาคอุตฯ เดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 5.6% yoy ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2551 และต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดไว้ที่ 7.0% yoy
ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. เติบโต 10.2% yoy ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 10.9% yoy
การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ยกเว้นการลงทุนในต่างจังหวัด ขยายตัว 13.5% yoy ใน 1Q58 ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดที่ 13.9% yoy
เอเชียแปซิฟิก
เศรษฐกิจสิงคโปร์เติบโตดีกว่าคาด: ขยายตัว 2.1% yoy ใน 1Q58 เท่ากับไตรมาสก่อนหน้า แต่เป็นการเติบโตดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดเติบโต 1.7% yoy และเป็นการเติบโต 1.1% qoq ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเติบโตเพียง 0.2% qoq
อัตราเงินเฟ้ออินเดียชะลอตัวลง:
อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 5.17% yoy ในเดือน มี.ค. ลดลงจากเดือน ก.พ. ที่เพิ่มขึ้น 5.37% yoy และต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดเร่งตัวขึ้นเป็น 5.41% yoy ทั้งนี้ราคาอาหารเพิ่มขึ้น 6.14% yoy ด้านราคาพลังงานเพิ่มขึ้น 5.07%
ดัชนีราคาค้าส่งหดตัวแรงสุด 2.33% yoy ในเดือน มี.ค. ต่อจากเดือน ก.พ.ที่หดตัว 2.06% yoy อีกทั้งเป็นการหดตัวแรงสุดนับตั้งแต่ปี 2548 และเป็นการหดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดหดตัว 2.10% yoy สร้างแรงเก็งกำไรต่อการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปีนี้
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham
Assistant Analyst
662-6586300 x 1530
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong