- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 13 June 2014 14:25
- Hits: 2919
บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ถอยไปตั้งหลัก
Highlight
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดลง ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ กังวลความรุนแรงในอิรักราคาน้ำมันดิบพุ่ง
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ : USA เงินเฟ้อ พ.ค.0.1%m-m (Vs 0.5%) ดัชนีราคาผู้ผลิต พ.ค. คาด 0.1%(vs 0.6%) ดัชนีวัดความเชื่อมั่นของ ม. มิชิแกน มิย คาด 83 (Vs 81.9) EU:ดุลการค้า เม.ย. คาดเกินดุล 15.5 bn. ยูโร (Vs 15.2 bn. ยูโร) China: Industrial Production พ.ค. คาด 8.6%y-y (Vs 8.7%) ยอดค้าปลีก พ.ค. คาด 12.2%y-y (Vs 11.9%)
-วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติขายอีก -152 ลบ. (ขายสะสม 3 วัน รวม -1.14 พันลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศขายต่อ -147 ลบ. (ขายสะสม 7 วันรวม -4.29 พันลบ.)
+การเมือง ลุ้นยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ คมนาคมเสนอแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน 8 ปี วงเงิน 3 ล้านล้าน
คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับลง ตามตลาดต่างประเทศ แนวรับ 1450/1445 จุด แนวต้าน 1462/1470 จุด ปัจจัยภายนอกกลับมากดดัน หลังปัญหาความรุนแรงในอิรักกดดันตลาดหุ้น และหนุนราคาน้ำมันดิบปรับพุ่งขึ้นปิดที่ 113 ดอลลาร์/บาร์เรลวานนี้
กลยุทธ์: เก็งกำไรหุ้นโรงกลั่น PTTEP พลังงานทดแทน AIE BANPU และทยอยสะสม ADVANC SVOA DELTA CCET BBL KBANK (Window dressing) และ TICON PTTEP BBL SCC TUF (หุ้นถูกในแง่ PBV น้อยกว่า mean+0.5SD) ขายกลุ่มสายการบินTHAI NOK AAV
หุ้นในกระแส:
หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 5.0%) ได้แก่ PF IFEC TRUBB GOLD RML UV PAE SF MDX หุ้นที่ลงกว่า 3.5% ได้แก่ SIM UTP TTA HANA TAE
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ SCB+343 PTTEP+223 TUF+208 KBANK+160 ด้านขาย ADVANC-295 INTUCH-246 PTT -185
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ TRUE 236 ADVANC 64
Market Outlook
คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับลง ตามตลาดต่างประเทศ แนวรับ 1450/1445 จุด แนวต้าน 1462/1470 จุด ปัจจัยภายนอกกลับมากดดันจากความรุนแรงในอิรัก แนะนำ เก็งกำไร หุ้นที่เชื่อมโยงกับราคาน้ำมันดิบ (PTTEP) และพลังงานทดแทน และทยอยสะสมหุ้น window dressing หุ้นราคาถูกในแง่ PBV
คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับลง แนวรับ 1450/1445 จุด แนวต้าน 1462/1470 จุด แรงกดดันมาจาก ปัจจัยภายนอกประเทศ (ต่อจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงกว่าคาด) หลังความรุนแรงในอิรัก ส่งผลต่ออุปทานน้ำมัน ลดและหนุนราคาน้ำมันดิบปิดพุ่งวานนี้ (เบรนท์และไนเม๊กซ์ ปิดสูงสุดรอบ 6 และ 9 เดือน) เป็นปัจจัยบวกวันนี้ต่อหุ้นกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบ PTTEP และพลังงานทดแทน แต่เป็นผลลบต่อกลุ่มสายการบิน THAI ทั้งนี้ เรามองว่า การอ่อนตัวของดัชนีฯ เป็นเพียงการพักฐานเพื่อกลับเป็นขาขึ้นรอบใหม่ เนื่องจากปัจจัยภายในประเทศหลายประเด็นยังเป็นแรงหนุนอยู่ ทั้งเรื่องการยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ การเดินหน้าโครงการน้ำ และโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ส่วน Events Play แนะทยอยสะสมหุ้น Window Dressing และ หุ้นราคาถูกเทียบ PBV ส่วนกลุ่มสายการบินแนะขายเล่นรอบ
กลยุทธ์: เก็งกำไรหุ้น PTTEP พลังงานทดแทน AIE BANPU และทยอยสะสม ADVANC SVOA DELTA CCET BBL KBANK (Window dressing) และ TICON PTTEP BBL SCC TUF (หุ้นถูกในแง่ PBV น้อยกว่า mean+0.5SD) ถือ หุ้นบอลโลก CENTEL MINT CPALL (ลุ้นยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ)
ขาย กลุ่มสายการบิน THAI NOK AAV
+ ปัจจัยในประเทศ – คสช. วานนี้หารือโครงการน้ำ โดยให้เป็นแนวทางการดำเนินการ ส่วนที่เร่งด่วนดำเนินการไปแล้ว ให้เดินหน้า แต่หากโครงการใดที่ยังไม่พร้อมให้นำไปพิจารณาในแผนงบประมาณปี 2558ต่อไป ทั้งนี้ ยังไม่ทราบรายละเอียดโครงการ ส่วนประเด็นบวกมาจากรายงานข่าวที่ว่าจะมีการยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศในเย็นวันนี้ หากเป็นจริงคาดเป็นข่าวบวกกับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน และขายอาหาร แต่หุ้นสายการบินยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น เราจึงยังเลือก MINT และ CENTEL เป็น top pick อีกประเด็น คือ การเสนอแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน กรอบเวลา 8 ปี ทำให้หุ้นกลุ่มรับเหมากลับมาเก็งกำไร อย่างไรก็ดี ยังเป็นเพียงขั้นตอนการเสนอแผน
- ปัจจัยต่างประเทศ – ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงต่อเนื่องวานนี้ หลังเหตุการณ์รุนแรงในอิรักเพิ่มขึ้น และมีข่าวว่ากลุ่มติดอาวุธเล็งขึ้นยึดกรุงแบกแดด ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับพุ่งขึ้นปิดเหนือระดับ 113 ดอลลาร์/บาร์เรลวานนี้ ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ วานนี้ออกมาแย่กว่าคาด ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานและยอดค้าปลีก โดยก่อนหน้านี้ นักลงทุนเริ่มกลับมาระมัดระวังการซื้อขาย หลังราคาหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้นซื้อขายที่ระดับ PE สูงถึง 16.5 เท่า
ทางเทคนิค ระยะเดือนยังคงเป็นสัญญาณขาขึ้นแต่เริ่มมีสัญญาณการอ่อนตัวระยะสั้น โดยสัญญาณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เกิด Bullish Pattern และมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านของ Fibonanci บริเวณ 1485 จุด และแนวต้านเดิม 1500 จุด (อาจเป็นคลื่นแรกหรือคลื่นที่ 3 ของ Elliot Wave ขาขึ้น) อย่างไรก็ดี ระยะสั้นอาจมีการอ่อนตัวกลับลงมาสร้างฐานใหม่บริเวณ 1440-1430 จุดได้เช่นกัน หลังวานนี้กลับมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันเป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์
ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตานโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการรัฐขนาดใหญ่
ประเด็นการเมือง (Update):
ตร.เชื่อกลุ่มต่อต้าน คสช. จะลดลงเรื่อยๆ หลังเข้าใจและเห็นผลงานกองทัพมากขึ้น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เชื่อว่า กลุ่มคนที่ต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะลดจำนวน ลงเรื่อยๆ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เริ่มมีความเข้าใจการทำงานของ คสช. มากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ก็ยังติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ต่างๆอยู่ตลอดเวลา โดยกลุ่มต่อต้านไม่ได้ขยายวงกว้างออกไป แต่เป็นกลุ่มเดิมๆที่ใช้วิธีการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียที่เป็นกลุ่มเฉพาะของเขา
"ประจิน" คาดจะเร่งศึกษาโครงสร้างพลังงาน ให้เสร็จภายในมิ.ย.นี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ประธานคณะกรรมการ บริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ระบุว่า จะเร่งศึกษาโครงสร้างพลังงานทุกประเภทให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย. ขณะที่ในวันอาทิตย์นี้ จะเชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาเสนอความคิดเห็นเพื่อเป็นข้อมูลสรุปแผนการปรับโครงสร้างพลังงานต่อไป
มทภ.1เสนอ'ประยุทธ์'ยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วปท. มีรายงานข่าวว่า พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะคสช. เพื่อให้ยกเลิกการประกาศเคอร์ฟิวส์ทั่วประเทศ เนื่องจากจะเป็นการคืนความสุขให้กับประชาชนตามนโยบายของคสช. โดยจะมีการประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการในวันนี้ (13 มิ.ย.) หลังเสร็จสิ้นถ่ายทอดรายการคืนความสุขให้กับคนในชาติของพล.อ.ประยุทธ์
คสช. หารือแนวทางการบริหารจัดการน้ำ วานนี้ผลการหารือ คสช. ให้แผนงานโครงการของทุกกระทรวงที่เกี่ยวกับน้ำในปีงบประมาณ 2557 หากตรงกับความต้องการและความจำเป็นเร่งด่วนของประชาชน ให้เร่งดำเนินการ แต่หากโครงการใดที่ยังไม่พร้อมให้นำไปพิจารณาในแผนงบประมาณปี 2558 ต่อไป ทั้งนี้ ด้านงบประมาณต้อง ไม่เป็นภาระกับประเทศในอนาคต มีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการ ที่สำคัญ ประชาชนมีความพึงพอใจ
คมนาคมทำแผน 5 ยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 3 ล้านล. ชง คสช. คมนาคมชง 5 ยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานทางราง-บก-น้ำ-อากาศ เสนอ คสช.ระยะเวลาดำเนินการ 8 ปีวงเงิน 3 ล้านล้าน ส่วนรถไฟความเร็วสูง จะเสนอเฟส 2 ชง 2 เส้นทาง กทม.-พิษณุโลก และกรุงเทพฯ-โคราช-หนองคาย
2. หุ้นที่ยังซื้อขายที่ PBV ต่ำกว่า mean+0.5SD และมีอัพไซด์สูงกว่า 8% แนะทยอยสะสม TICON PTTEP BBL SCC TUF
3. รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ :
ศุกร์ : USA เงินเฟ้อ พ.ค. 0.1%m-m (Vs 0.5%) ดัชนีราคาผู้ผลิต พ.ค. คาด 0.1%(vs 0.6%) ดัชนีวัดความเชื่อมั่นของ ม. มิชิแกน มิ.ย. คาด 83 (Vs 81.9) EU:ดุลการค้า เม.ย. คาดเกินดุล 15.5 bn ยูโร (Vs 15.2 bn. ยูโร) China: Industrial Production พ.ค. คาด 8.6%y-y (Vs 8.7%) ยอดค้าปลีก พ.ค. คาด 12.2% y-y (Vs 11.9%)
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
ธ. กลางจีนเผยยอดปล่อยสินเชื่อใหม่สกุลหยวนเพิ่มเกินคาดในเดือน พ.ค. ภาคธนาคารของจีนได้ปล่อยสินเชื่อใหม่สกุลหยวน คิดเป็นมูลค่า 8.708 แสนล้านหยวน (1.4008 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือน พ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 7.50 แสนล้านหยวน และเพิ่มขึ้นจาก 7.747 แสนล้านหยวน ในเดือนเม.ย. ธนาคารกลางจีนยังระบุว่า ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 เพิ่มขึ้น 13.4% ในเดือน พ.ค. จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่ผลสำรวจคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 13.1%
RICS เผยราคาบ้านในอังกฤษพุ่งสูงเกินคาดในเดือน พ.ค. สถาบันผู้รังวัดที่ได้รับอนุญาตของอังกฤษ (RICS) รายงานว่า ตัวเลขดุลราคาบ้านเพิ่มขึ้นสู่ +57 ในเดือน พ.ค. จาก +55 ในเดือน เม.ย. และเทียบกับ +58 ในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี โดยก่อนหน้านี้โพลล์รอยเตอร์คาดว่า ดุลราคาบ้านอาจอยู่ที่ +52 ในเดือน พ.ค.
สหรัฐ เผยสต๊อคสินค้าภาคธุรกิจเดือน เม.ย. เพิ่มสูงสุดในรอบ 6 เดือน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขสต๊อคสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 เดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน มี.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน เม.ย.
สหรัฐ เผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือน พ.ค. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด 0.3% ในเดือน พ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือน เม.ย. และยอดค้าปลีกไม่รวมรถยนต์เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือน พ.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ยอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือน พ.ค. และยอดค้าปลีกไม่รวมรถยนต์จะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน พ.ค.
สหรัฐ เผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มเกินคาดสัปดาห์ก่อน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ 317,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 มิ.ย. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะอยู่ที่ 310,000 ราย ลดลงจาก 313,000 ราย ในสัปดาห์ก่อนหน้า
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงต่อเนื่องจากปัญหาอิรัก
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลงต่อเป็นวันที่สอง โดยดัชนี DJIA ปิดลดลงอีก 109.69 จุด หรือ -0.65% สู่ระดับ 16,734.19 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดร่วลง 13.78 จุด หรือ -0.71% สู่ระดับ 1,930.11 จุด และ Nasdaq ปิดร่วง 34.30 จุด หรือ -0.79% สู่ระดับ 4,297.63 จุด ดัชนีหุ้นสหรัฐทั้งสามตัวปิดที่ระดับต่ำสุดของวัน โดยดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงมากกว่า 100 จุดสองวันติดต่อกันแล้วตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดีจากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในอิรัก และหลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจออกมาน่าผิดหวังทั้ง ยอดค้าปลีก และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน กองกำลังชาวเคิร์ดได้เข้าควบคุมแหล่งน้ำมันเคอร์คุกหลังทหารของรัฐบาล อิรักละทิ้งที่มั่น ขณะที่ประธานาธิบดีบารัก โอบามาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาไม่ปฏิเสธที่จะดำเนินการในอิรักเพื่อจัดการกับกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง
ราคาหุ้นร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังปธน.โอบามาแสดงความเห็นดังกล่าว โดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและสินค้าฟุ่มเฟือยนำตลาดร่วงลง แต่หุ้นกลุ่มพลังงานบวกสวนตลาด หลังราคาน้ำมันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนจากความวิตกว่า ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในอิรักอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตและส่งออก น้ำมันของอิรัก
ด้านนางเจน ซากิ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาทุกทางเลือก ยกเว้นการส่งทหารสหรัฐเข้าไปยังอิรัก ส่วนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาอ่อนแอกว่าคาด โดยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนพ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
* ตลาดหุ้นยุโรป ปิดคละ ขยับขึ้นเล็กน้อย
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ FTSE ปิดเพิ่มขึ้น 4.24 จุด หรือ 0.06% สู่ 6,843.11 จุด ดัชนี CAC40 ปิดขยับลงเล็กน้อย 0.70 จุด หรือ -0.02% สู่ 4,554.40 จุด และ DAX ปิดลดลง 11.11 จุด หรือ -0.11% สู่ 9,938.70 จุด โดยตลาดหุ้นยุโรปลดช่วงบวกที่ได้จากรายงาน EU zone industrial Production ดีขึ้น จากปัญหาอิรัก
-ราคาน้ำมันดิบ พุ่งแรง วิตกอุปทาน จากปัญหาอิรัก
วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ ก.ค. พุ่งแรง 3.07ดอลลาร์ สู่ 113.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ก.ค. พุ่งขึ้น 2.13 ดอลลาร์ มาปิด ตลาดที่ 106.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 9 เดือนในวันพฤหัสบดี ในขณะที่นักลงทุนกังวลว่าเหตุการณ์รุนแรงในอิรักอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของอิรัก ซึ่งเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันมากเป็นอันดับสองในบรรดาสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กลุ่มนักรบที่เป็นชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ได้เข้ายึดเมืองโมซุล ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับสองของอิรักในช่วงต้นสัปดาห์นี้ และได้รุกคืบหน้าไปทางกรุงแบกแดดที่อยู่ทางทิศใต้ของโมซุล
นอกจากนี้ กลุ่มนักรบนี้ยังปิดล้อมโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของอิรักที่ตั้งอยู่ในเมืองไบจีทางตอนเหนือของประเทศในวันพฤหัสบดีด้วยนายคริสโตเฟอร์ เบลลูว์ เทรดเดอร์ของบริษัทเจฟฟรีส์ แบชกล่าวว่า "มีความกังวลกันว่าปัญหานี้อาจเป็นภัยคุกคามต่อการส่งออกน้ำมันของอิรัก และถ้าหากความขัดแย้งนี้ส่งผลลบต่อการส่งออกน้ำมันของอิรัก ปัญหานี้ก็จะส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อราคาน้ำมัน"ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับขึ้นไม่มากเท่ากับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เพราะว่า สหรัฐสามารถผลิตน้ำมันภายในประเทศได้ในระดับสูง และปรับลดการพึ่งพาน้ำมันนำเข้าจากอิรักในช่วงที่ผ่านมา สหรัฐนำเข้าน้ำมันดิบ 341,000 บาร์เรลต่อวันจากอิรักในปี 2013 หรือต่ำกว่า 4 % ของปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมดของสหรัฐ
+ ราคาทองคำ ปรับสูงขึ้น จากปัญหาอิรัก
วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม ปิดตลาด เพิ่มขึ้น 12.80 ดอลล์ สู่ 1,274 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองสปอตสหรัฐพุ่งขึ้น 12.62 ดอลลาร์ หรือ 1 % สู่ 1,272.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี ในขณะที่ เหตุการณ์รุนแรงในอิรักกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
- ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ร่วงลงเป็นวันที่ 2
วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดลดลงอีก 34 จุด หรือ -3.49% เป็น 1004 จุด หลังจาก ปี 56 พิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดตํ่าสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก (แนะนำ เก็งกำไร PSL TP Consensus 22.84-27.25 บาท TTA TP Consensus 22.83-27.25 บาท)
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501
[email protected]
02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564
[email protected]
02-624-6270