- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 April 2015 17:01
- Hits: 1061
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ Sideways
ตลาดหุ้นวานนี้:
ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งในกรอบแคบ 1,550 จุด หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีเริ่มพักฐาน เมื่อราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับฐานลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่หุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร/ ICT กลับขยับขึ้นเด่น ช่วยจำกัด downside risk ของ SET INDEX ในภาพรวม ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,544.86 จุด ลบ 4.67 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 35,302 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ด้วยการซื้อสุทธิตลาดหุ้นเป็นวันที่ 2 อีก 2,015 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 6 อีก 1,313 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีก 6,575 ล้านบาท สัญญาณเงินทุนต่างชาติยังคงเป็นกลางถึงบวก
ปัจจัยสำคัญวันนี้
เงินทุนต่างชาติยังคงเป็นจุดที่น่าสนใจ ด้วยการซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดไทยพร้อมกันเป็นวันที่ 2
Alcoa รายงานงบ 1Q58 ออกมาดีกว่าคาด ซึ่งเป็นการรายงานหลัง DJIA ปิดทำการ
การประชุมเฟดเดือนมี.ค. เริ่มเสียงแตกต่อช่วงเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายว่าจะเป็นกลางปีนี้หรือหลังจากนั้น
มุมมองต่อตลาด
เราคงมุมมองการลงทุนเป็น "กลาง" วันที่ 14 แม้แนวโน้ม SET INDEX มีโอกาสซึมตัวลงสู่แนว 1,535-1,540 จุดในช่วง 1-2 วันนี้ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ของไทยในสัปดาห์หน้า และหุ้นขนาดกลางที่ฟื้นตัวเด่นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อาจเป็นเป้าหมายของการขายทำกำไรของกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ที่ออกขาย IPO ในปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ช่วยกดดันบรรยากาศการลงทุน ภายใต้มูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง 3.5 หมื่นล้านบาท +/-
อย่างไรก็ตาม Downside risk ของ SET INDEX ในระลอกนี้เป็นไปอย่างจำกัด เรายังคงประเมินแนว 1,520-1,530 จุด จะยังทำงานได้อย่างแข็งแกร่ง บวกกับเม็ดเงินทุนต่างชาติที่เข้าสะสมหุ้นไทย และ Long สุทธิใน SET50 Index Futures อย่างต่อเนื่อง สะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่างชาติต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 1Q58 อยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ที่จะพลิกจากขาดทุนสุทธิใน 4Q57 เป็นกำไรสุทธิใน 1Q58 และหากกลุ่มธนาคารพาณิชย์รายงานกำไรสุทธิในเกณฑ์ที่ดี ย่อมดึงดูดเม็ดเงินทุนต่างชาติได้ต่อเนื่อง
ดังนั้น การย่อตัวของ SET INDEX ในช่วง 1-2 วันนี้ เป็นเพียงการปรับฐานย่อยเพื่อขึ้นต่อ เพื่อทดสอบด่านสำคัญ 1,555-1,560 จุด ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์
ตลาด Nikkei-Kospi (7.20 น.) เปิดบวกเล็กน้อย สอดคล้องกับ DJIA Futures ที่บวก 48 จุด หลัง Alcoa รายงานงบ 1Q58 ออกมาดีกว่าคาด หลังตลาด DJIA ปิดทำการ
กลยุทธ์การลงทุน
ดังนั้น เราแนะนำ "นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมาย โดยเฉพาะหุ้นที่ผลการดำเนินงานใน 1Q58 เติบโตเด่น หรือ หุ้นที่ยังมีประเด็นเชิงบวกต่อการประชุมผู้ถือหุ้น" เป็นทางเลือกของการเก็งกำไรในระลอกใหม่
Portfolio
Top Pick in 2Q15: ITD / TASCO / TPIPL/ WHA
HOLD: ITD / TPIPL/ BJCHI/ KTB/ TTA/ ADVANC/ MONO / TASCO/ WHA
Accumulative Buy: AAV / ITD
Stock Pick of the Day
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ "ทยอยสะสม" ได้แก่
1. ITD : ราคาปิด 7.90 บาท ราคาเหมาะสม 12.00 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อ ITD หลังผู้บริหารให้ความเห็นต่อทิศทางการเติบโตของบริษัทในการประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ และมีความคืบหน้าของหลายโครงการสำคัญ ได้แก่
I. ได้พื้นที่โครงการทวายเพิ่มอีก 10 ตร.กม. เป็น 45 ตร.กม. จากการเจรจารอบสุดท้ายกับพม่า และคาดว่าจะลงนามในสัญญาโครงการทวายได้ในช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค.
II. โครงการเหมืองแร่โปรแตซ อยู่ในขั้นตอนประชาพิจารณร์รอบสุดท้าย โดยคาดว่าจะได้ประทานบัตรภายในปี 2558
III. คาดว่าจะได้งานโครงการภาครัฐฯ ประมาณ 1.5 แสนล้านบาทในปีนี้ จากการประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ รถไฟฟ้า 3 สาย, รถไฟฟ้าทางคู่ 6 เส้นทาง, รถไฟฟ้าไทย - จีน และอื่นๆ
b) ดังนั้น เราคาดว่าหลังผ่านพ้นช่วงวันหยุดยาว ราคาหุ้น ITD จะขยับขึ้นได้โดดเด่นกว่ากลุ่ม เนื่องจากมี Catalyst รออยู่ในระยะสั้น คือ การเซ็นสัญญาโครงการทวาย ในเดือน เม.ย. - พ.ค. และการเจรจาโครงการรถไฟฟ้าไทย - จีน ในเดือน พ.ค.
c) มี Upside ถึง 51.9% จากราคาเหมาะสมที่ 12.00 บาท โดยวิธี Sum of the part ได้แก่ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 8.50 บาท, นิคมอุตสาหกรรมทวาย 1.50 บาท และเหมืองโปรแตซ 2.00 บาท
2. AAV : ราคาปิด 4.92 บาท ราคาเหมาะสม 6.50 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มสายการบินจะ Outperform ตลาดในวันนี้ หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX และ BRENT ปรับตัวลงแรงถึง -6% เนื่องจาก EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นถึง 10.95 ล้านบาร์เรล
b) คาดผลประกอบการ 1Q58 จะเติบโตทั้ง yoy และ qoq เนื่องจากเป็น High Season ของธุรกิจ สะท้อนผ่านจำนวนนักท่องเที่ยวเดือน ม.ค. และ ก.พ. ที่เติบโตถึง +16.3% yoy และ +29.6% yoy ตามลำดับ รวมทั้งเป็นไตรมาสแรกที่เห็นอานิสงค์เต็มไตรมาสของต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
c) ผลักดันกำไรสุทธิปี 2558 เติบโตสูงถึง +1,149.2% yoy เป็น 2,024 ล้านบาท จากต้นทุนราคาน้ำมันอากาศยานที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากเฉลี่ย US$124.00/barrel เหลือ US$85.00/barrel ในปี 2558
a) Valuation ยังไม่สูงมากนัก ซื้อขายระดับ PBV 2558 ที่ 1.3 เท่า ต่ำกว่า NOK ที่ 1.7 เท่า และ BA ที่ 1.6 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ตลาดหุ้นเอเชียกลับมาเป็นขายสุทธิ US$81 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$176 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดพร้อมกันเป็นวันที่ 2
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 2,015 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 2,688 ล้านบาท และกดให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเหลือ 7,317 ล้านบาท
คงการ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 6 ลดลงเหลือ 1,313 สัญญา รวม 6 วันทำการ Long สุทธิ 35,121 สัญญา และทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Long สุทธิ 12,486 สัญญา เมื่อ S50M15 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างขึ้นเป็นวันที่ 2 เท่ากับ 7.77 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 5.12 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 6,575 ล้านบาท รวม 4 วันทำการ ซื้อสุทธิ 20,463 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลงเป็นวันที่ 3 ค่อนข้างมาก ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 มากถึง 2.10bps ปิดที่ 2.678%
Short-Selling วานนี้
มูลค่า Short-selling ลดลงเป็นวันที่ 4 เหลือ 256 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 301 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 กลับมาเน้นกลุ่มธนาคาร อีกครั้ง
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 1,480 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,689 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 4,774 ล้านบาท กลับมาเน้นกลุ่มธนาคารเป็นหลัก อาจเป็นการเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานใน 1Q58 ที่จะเริ่มประกาศในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ สรุปภาพรวมของ NVDR ได้ดังนี้
1. กลุ่มธนาคาร ถูกกลับมาซื้อสุทธิสูงสุดอีกครั้ง 1,110 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 253 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มปิโตรเคมี ซื้อสุทธิ 171 ล้านบาท กลุ่มอสังหาฯ ซื้อสุทธิ 97 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 144 ล้านบาท
2. ส่วนกลุ่ม ICT กลับถูกขายสุทธิสูงสุด แต่ก็เพียง 173 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 459 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง ขายสุทธิ 64 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตลาดเริ่มกังวลต่อพันธบัตรที่เฟดถืออยู่ผ่านโครงการ QE ที่จะครบกำหนดในปีหน้า: พันธบัตรที่เฟดลงทุนผ่านโครงการ QE และจะครบกำหนดในปี 2559 มูลค่ารวม US$2.16 แสนล้าน เป็นปัจจัยเสี่ยงที่น่าสนใจติดตามว่า เฟดจะตัดสินใจ Roll-over พันธบัตรนี้ต่อไป หรือ จะปล่อยให้ครบกำหนด หากปล่อยให้ครบกำหนด เฟดจะเพิ่มตราสารหนี้ให้มากเพียงพอต่อนักลงทุน เพื่อกดผลตอบแทนพันธบัตรให้อยู่ในระดับต่ำต่อไป ปริมาณเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เฟดเพิ่มขึ้นผ่านโครงการ QE 1-2-3 รวมทั้งสิ้น US$4.2 ล้านล้าน
รายงานการประชุมเฟดเดือนมี.ค.มีความเห็นที่เป็น 2 กลุ่มต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย:
หลายท่านประเมินว่า ตัวเลขเศรษฐกิจและแนวโน้มของเศรษฐกิจจะยังสนับสนุนให้เฟดเริ่มการปรับอัตราดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือนมิ.ย.
ส่วนที่เหลือ ประเมินว่า ราคาน้ำมันที่ลดลง และการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ จะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นไปในช่วงปลายปี และมี 2 ท่านที่ประเมินว่าเฟดจะไม่สามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้จนกว่าจะเป็นปีหน้า
Alcoa รายงานงบ 1Q58 ออกมาดีกว่าคาด: รายงาน EPS ใน 1Q58 เท่ากับ US$0.28 บนรายได้ US$5.82 พันล้าน ขณะที่ Bloomberg consensus คาด EPS ที่ US$0.26 บนรายได้ US$5.94 พันล้าน พร้อมส่งสัญญาณเป็นบวกในแนวโน้มผลการดำเนินงานรายไตรมาส
ยุโรป
คำสั่งซื้อโรงงานของเยอรมันลดลงเป็นเดือนที่ 2: คำสั่งซื้อลดลง 0.9% mom เดือนก.พ. จากเดือนม.ค.ที่ลดลง 2.6% mom สวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาดว่าจะฟื้นตัว 1.5% mom โดยคำสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น 2.9% mom และคำสั่งซื้อสินค้าลงทุนภายในประเทศ บวก 1.9% mom แต่คำสั่งซื้อภาคการส่งออกหดตัว 1.6% mom
รัฐบาลกรีซเดินหน้าขายพันธบัตรระยะสั้นวันที่ 8 เม.ย.: วงเงิน 875 ล้านยูโร อายุ 6 เดือน เพื่อ Roll-over พันธบัตรอายุ 6 เดือนที่จะครบกำหนดในวันที่ 14 เม.ย. และเป็นเงินทุนสำรองสภาพคล่องทางการเงินช่วงสั้น ขณะที่กรีซมีหนี้ของ IMF ที่ครบกำหนด 450 ล้านยูโร
รัสเซียอาจจ่ายกำไรจากค่าเช่าท่อของกรีซ: โดยกรีซเป็นผู้ให้บริการท่อส่งก๊าซระหว่างรัสเซียและยุโรป ในส่วนของส่วนต่อขยายจากทางตุรกี ซึ่งจะทำให้ยุโรปได้ใช้ก๊าซในราคาถูกจากรัสเซีย ทั้งนี้รัสเซียอาจจ่ายเงินจากประมาณการกำไรของโครงการนี้ให้แก่กรีซก่อน และเมื่อโครงการเริ่มดำเนินการ กรีซจะทยอยจ่ายเงินคืนแก่รัสเซีย
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลาง BoJ คงนโยบายการเงิน: ธนาคารกลาง BoJ คงเป้าหมายการเพิ่มปริมาณเงินไว้ที่ Yen80 ล้านล้าน/ปี สอดคล้องกับ Bloomberg consensus คาดการณ์ พร้อมคงเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2.0% เช่นเดิม แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อ ณ ปัจจุบันจะลดลงใกล้ระดับ 0.0% ก็ตาม อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการณ์ว่า BoJ อาจต้องเพิ่มมาตรการกระตุ้นในการประชุมเดือนต.ค. ณ ปัจจุบัน BoJ น่าจะรอผลของการทยอยขึ้นค่าแรงและเงินเดือนของภาคเอกชนว่าจะมีผลต่อเงินเฟ้อและภาพรวมเศรษฐกิจอย่างไร
Moody's ปรับแนวโน้มอินเดียขึ้น: จากเดิม "เสถียรภาพ" เป็น "บวก" แต่คงอันดับความน่าเชื่อถือของอินเดียไว้ที่ Baa3 เช่นเดิม
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530