- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 08 April 2015 16:25
- Hits: 890
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ผันผวนเชิงบวก
ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มจะขยับขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ นำโดยกลุ่มพลังงานเนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีราคา laggard เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นอยู่ และเริ่มได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น
หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบกลับมาทรงตัวได้ดีตั่งแต่ต้นเดือน เม.ย. 58 ประกอบกับขณะนี้นักลงทุนควาดหวังว่างบ Q1 ของกลุ่มพลังงานจะออกมาดี จึงเป็น sentiment เชิงบวกในระยะสั้นนี้
แนวรับ/แนวต้าน : 1510/1550
กลยุทธ์ : Valuation ของ SET Index ปัจจุบันแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เน้นเล่นสั้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี ปันผลสูง
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
นักลงทุนระยะสั้น : ITD(9), IRPC(6.50)
นักลงทุนระยะยาว : KTB(29), IFEC(18)
จับข่าวมาเก็งกำไร
CK : ต้นทุนทางการเงินของ BECL และ BMCL ในการควบรวมกิจการดูจะอยู่ในระดับต่ำ และน่าจะได้รับการสนับสนุนที่ดี ขณะที่การปรับโครงสร้างกลุ่มจะทำให้ CK เป็นอิสระต่อภาระในการสนับสนุนบริษัทย่อย ซึ่งจะทำให้ CK สามารถมุ่งและเติบโตในส่วนของธุรกิจก่อสร้างหลักได้ และด้วยนโยบายใหม่ในการประหยัดค่าใช้จ่ายและส่วนแบ่งที่มาจากบริษัทย่อย เราคาดว่าผลประกอบการหลักของ CK จะเติบโต 31% ในปีนี้ คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐานที่ 35.00 บาท (รายละเอียดอยู่ในบทวิเคราะห์วันนี้)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
+ นางจุฑาพร เริงรณอาษา รักษาการผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าขณะนี้ได้เตรียมสานต่อแผนการตลาดในช่วงไตรมาส 2 และ 3 รวมถึงรักษาเป้าหมายรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ต่างประเทศ 1.4 ล้านล้านบาท และรายได้ในประเทศ 800,000 ล้านบาท ส่วนด้านการติดตามปฏิกิริยาของตลาดต่างประเทศที่มีต่อการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกของไทยและใช้มาตรา 44 ดูแลความสงบนั้น เชื่อว่าบริษัทนำเที่ยวต้องหาความชัดเจนก่อนตัดสินใจว่าจะให้ประกันภัยครอบคลุมหรือไม่ หลังจากที่ผ่านมากฎอัยการศึกทำให้กรมธรรม์ไม่ครอบคลุม
ปัจจัยต่างประเทศ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,875.42 จุด ลดลง 5.43 จุด หรือ -0.03%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์อาจจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทส่งออก ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับขึ้น 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยยอดการผลิตน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันพุธนี้
