- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 07 April 2015 16:00
- Hits: 1308
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังมีสิทธิบวกต่อแต่คาดอาจมีพักตัวบ้าง...น่ารอซื้อลบ!
กลยุทธ์ : ถึงแม้ว่า SET ยังมีลุ้นแกว่งบวกต่อได้ แต่ในระยะสั้นตลาดมีสิทธิปรับพักตัวลงก่อนได้ เนื่องจากสัปดาห์ก่อนดีดตัวขึ้นมาพอควรแล้ว ดังนั้นจังหวะซื้อเรายังแนะนำให้รอช่วงลบดีกว่า และถ้าเทรดดิ้งตามรอบอยู่สามารถดูจังหวะทำกำไรช่วงบวกบ้างเพื่อลดความเสี่ยง นอกจากเป็นส่วนลงทุนจึงจะเน้นถือต่อเนื่อง
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SMT, PLAT, ANAN(short)
แนวโน้ม : สัปดาห์ที่แล้ว SET ขยับบวกต่อเนื่องขึ้นมาได้ดีทั้งสัปดาห์ ก่อนที่จะมีจังหวะแกว่งผันผวนบ้างในช่วงท้าย หลังนักลงทุนต่างประเทศเริ่มมีแรงขายออกมากดดันบ้าง อย่างไรก็ตามในช่วงวันหยุดบ้านเราตลาดหุ้นต่างประเทศยังขยับบวกได้ดี โดยเฉพาะเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐดีดขึ้นบวกต่อเนื่องได้ค่อนข้างแรง เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐอาจจะทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ขยับบวกขึ้นแรงพอควรด้วย เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าซาอุดิอาระเบียได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันดิบสำหรับลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดบวกต่ออีก ทำให้ SET ยังมีลุ้นบวกต่อได้เช่นกัน แต่ FSS คาดว่ากรอบการขึ้นของ SET อาจจะเริ่มจำกัดมากขึ้น และมีสิทธิที่จะมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมากดดันให้ดัชนีมีจังหวะปรับตัวย้อนลบได้ ก่อนที่จะมีจังหวะขยับบวกต่อในช่วงถัดไป ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอซื้อช่วงลบดีกว่า
แนวรับ 1533-1530 , 1525-1515 จุด
แนวต้าน 1538-1540 , 1545-1548 จุด
Fund Flow สัปดาห์ที่ผ่านกลับมาไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบางเพียง US$291 ล้าน จากไหลออก US$1,299 ล้านในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนวานนี้ไหลเข้าแต่เบาบาง นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย US$36 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$11.2 ล้าน และเวียดนาม US$1.9 ล้าน ขณะที่ไทยและไต้หวันปิดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะยังเบาบางต่อเนื่อง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) การจ้างงานของสหรัฐต่ำผิดคาด หนุน Fed ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เดือน มี.ค. สหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มเพียง 1.26 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.45 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาที่มีการจ้างงานเพิ่มเฉลี่ย 2 แสนตำแหน่ง/เดือน ตัวเลขที่ออกมาต่ำหนุนให้การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed อาจเลื่อนจากที่คนส่วนใหญ่คาดว่าเป็นเดือน มิ.ย. เป็น ก.ย. หรืออาจเป็นปลายปี
(+) กลุ่มพลังงานอาจกลับมานำตลาดวันนี้ ราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้พุ่งขึ้นแรงกว่า US$3 หลังซาอุดิอาระเบียปรับขึ้นราคาน้ำมันดิบประจำเดือน พ.ค. กับลูกค้าในเอเชียอีก US$0.30/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ระยะสั้นยังต้องติดตาม EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐประจำสัปดาห์คืนวันพฤหัสนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ราคายัง underperform กลุ่มมากได้แก่ PTTEP, PTT, PTTGC
(-) กลุ่มค้าปลีกน่าจะ Underperform ตลาดต่อไปอีกระยะ การจับจ่ายใช้สอยใน 1Q15 ซบเซามาก ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค. ลดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หนี้ครัวเรือนขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 85.92% สิ้น 4Q14 กำลังซื้อของเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยซึ่งมีสัดส่วน 37% ของประชากรทั้งประเทศ ยังไม่ฟื้น ขณะที่ประชากรส่วนใหญ่กว่า 60% ระมัดระวังการใช้จ่าย จากตัวเลขยอดขายสาขาเดิมของ HMPRO ที่น่าจะติดลบครั้งแรกในรอบ 8 ไตรมาสใน 1Q15 คาดกำไรของทั้งกลุ่มค้าปลีกยังไม่ดี การฟื้นตัวอาจกินเวลาอีก 1 ไตรมาส ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ -1.4% YTD ขณะที่ SET +2.6% YTD น่าจะ underperform ตลาดต่อไป แม้ว่าราคาหุ้นหลายตัวจะน่าสนใจ แต่คิดว่าต่อราคาได้อีกโดยเฉพาะบริษัทที่มีฐานลูกค้าในต่างจังหวัด
(0) Presales ของกลุ่มที่อยู่อาศัยซบเซาใน 1Q15 แม้ว่าแบงก์หลายแห่งจะลดดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ Presales 1Q15 ของผู้ประกอบการ 3 แห่งที่เราสอบถามคือ LPN และ AP ค่อนข้างต่ำ 16-17% ของเป้าทั้งปี ส่วน SIRI ทำได้เพียง 9% เพราะมีการยกเลิกจองคอนโดหลายโครงการในช่วง 2 เดือนแรก ในช่วงที่เหลือผู้ประกอบการต้องเร่งขายเพื่อสะสมเป็น Backlog รอรับรู้เป็นรายได้ในปีหน้า แต่สำหรับกำไรใน 1Q15 ส่วนใหญ่ฟื้น Y-Y แนะนำหุ้นที่ราคาปรับฐานลงมาลึก ยังฟื้นไม่มากนัก และ PE ต่ำ คือ SPALI (เป้าหมาย 30 บาท) LPN (เป้าหมาย 25 บาท)
(+) WHA ซื้อหุ้น HEMRAJ ได้แล้ว 79% ของหุ้นทั้งหมดของ HEMRAJ ผ่านการทำ Tender offer จนถึงวันที่ 2 เม.ย. (Tender วันสุดท้ายคือ 10 เม.ย.) ทำให้มูลค่าของ WHA เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการลงทุน โดย EPS ในปีนี้เมื่อรวม HEMRAJ 79% น่าจะทำได้ 1.72 บาท เมื่ออิง PE 23 เท่าซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยในปี 2012-14 ราคาเป้าหมายของ WHA จะเพิ่มเป็น 40 บาท ราคาหุ้นยังมี upside ที่น่าสนใจกว่า HEMRAJ ซึ่งเต็มมูลค่าแล้ว และไม่ได้ประโยชน์จากดีลนี้มากเท่า WHA
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้กว่าร้อยจุด โดยตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาอ่อนแอทำให้นักลงทุนคาดหวังว่า FED จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดทำการเนื่องในวัน Easter Monday
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้คือการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลีย
ค่าเงินบาทแกว่งตัวผันผวน โดยล่าสุดมาแกว่งตัวในกรอบ 32.35-32.49 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ปิดที่ 52.14 เหรียญ/บาร์เรล พุ่งขึ้น 3.00 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีข่าวว่าซาอุดิอาระเบียได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันดิบที่ขายให้ลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,218.60 ดอลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 17.70 เหรียญ/ออนซ์ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาอ่อนแอ ทำให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
7-เม.ย. - ฮ่องกง: ตลาดหุ้นปิดทำการ
- อินเดีย: ธนาคารกลาง (RBI) ประชุม
- ออสเตรเลีย: ธนาคารกลาง (RBA) ประชุม
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (มี.ค.)
8 เม.ย. - ญี่ปุ่น: ธนาคารกลาง (BOJ) ประชุม
9-เม.ย. - ฟิลิปปินส์: ตลาดหุ้นปิดทำการ
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BOK) ประชุม
- สหรัฐ: รายงานการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 17-18 มี.ค. 2015
10 เม.ย. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.), ยอดสินเชื่อ (มี.ค.)
- สิงคโปร์: 1Q15 GDP
13 เม.ย. - จีน: ดุลการค้า (มี.ค.)
14-เม.ย. - อินเดีย: ตลาดการเงินปิดทำการ
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (มี.ค.
- ยูโรโซน: Industrial Production (ก.พ.)
15-เม.ย. - จีน: 1Q15 GDP
- ยูโรโซน: ดุลการค้า (ก.พ.), ECB ประชุม