- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 April 2015 19:07
- Hits: 1575
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Outlook
SETมีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways ก่อนหยุดยาว: SET ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง +0.44% ปิดที่ 1,532.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.3 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 762 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET ช่วงปลายสัปดาห์ คาดเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 1,522-1,538 จุด เป็นการย่ำฐานก่อนหยุดยาวสุดสัปดาห์ โดยการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก คาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อ 1) กระแสเงินทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้น 2) ธุรกิจโรงแรมและสายการบิน 3) การเบิกจ่ายงบประมาณที่มีโอกาสเร่งตัวขึ้น ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มวัสดุก่อสร้าง และรับเหมาฯ
แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการใช้ ม.44 และกลุ่มโรงกลั่น: แนะนำกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการยกเลิกกฎอัยการศึก และใช้ ม.44 อย่างกลุ่มรับเหมาฯ (CK STEC SEAFCO) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC) กลุ่มหุ้นพลังงานทางเลือก (SAMART) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) นอกจากนี้ยังแนะนำ “ซื้อ” กลุ่มโรงกลั่น (TOP PTTGC BCP) ต่อเนื่องจากรายงานภาคบ่ายวานนี้ คาดผลการดำเนินงาน 1Q15 กลับมาเป็นบวกอีกครั้งจากค่าการกลั่นในระดับสูง และขาดทุน Stock น้ำมันจำกัด ขณะที่ Valuation ที่ PE 8-10x ต่ำกว่าตลาด และให้ Div Yield 4.3-5.1%
Tactical Portfolio (1-3 months)
TNS แนะนำ AOT, BDMS, BLA, ICHI, KBANK, RS, ROBINS, SAMART SCC และSEAFCO ต่อเนื่อง
กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการยกเลิกกฎอัยการศึก มีแนวโน้ม Outperform ตลาดในจังหวะ Rebound: กลุ่มหุ้นใน Tactical Portfolio ส่วนใหญ่มีโอกาสได้รับผลบวกจากการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก และใช้ ม.44 ในการบริหารประเทศแทน ได้แก่ 1) AOT จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ติดข้อจำกัดในการทำประกัน 2) BDMS กลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3) ICHI การเลื่อนพิจารณาภาษีออกไป เป็น Upside ต่อประมาณการกำไรปี 2015 ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีสรรพสามิต ขณะที่ฤดูร้อนเป็นช่วง Peak Season ของธุรกิจเครื่องดื่ม 4) ROBINS ได้รับผลดีจากการเลื่อนพิจารณาภาษีที่ดินออกไปก่อน ขณะที่ค่าเช่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยหนุนกำไร 1Q15 5) SAMART ธุรกิจพลังงานทางเลือก มีโอกาสที่ได้รับการผลักดันเพิ่มขึ้นเนื่องจากรัฐบาลให้ธุรกิจ Waste to Energy เป็นวาระแห่งชาติในปีนี้ 6) SCC และ SEAFCO มีโอกาสที่โครงการลงทุนภาครัฐฯ เร่งตัวขึ้นจากการใช้ ม.44 และ7) KBANK ได้รับผลบวกทางอ้อมจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้น
Technical
เพิ่มน้ำหนักหุ้น: ตลาดฟื้น-ตัวแข็งแกร่งมากขึ้นและสามารถผ่านแนวเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน ยืนเหนือระดับ 1526 จุดได้ เป็นสัญญาณยืนยันจบแนวโน้มขาลงระยะสั้น ดังนั้นการย่อตัวลงถือเป็นโอกาสเลือกซื้อหุ้น แนะนำนักลงทุนถือหุ้นในระดับ 25-50% ของพอร์ต เพื่อรอขายที่บริเวณแนวเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน 1555 จุด มีเงื่อนไขรอจนกว่าดัชนี SET จะสามารถทะลุผ่าน 1560 จุด จึงจะมุ่งเป้าขึ้นไปถึง 1600 จุด สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะอยู่ในกรอบ 1525-1540 จุด จะเป็นจังหวะซื้อต่อเนื่อง ตลาดจะมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นต่อไปถึง 1550-60 จุด
หุ้นซื้อระยะสั้น: DCC ดีดตัวพร้อมปริมาณการซื้อขายสูงขึ้นอย่างชัดเจน สอดคล้องกับเครื่องมือ DI+ ที่พุ่งชี้ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ โดยมีแนวต้านแรกบริเวณ 6.70 บาท และมีเป้าหมายถัดไปที่ 7.00 บาท OFM ขึ้นต่อหลังพักตัวด้วยรูปแบบ Flag พร้อมปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นอย่างชัดเจนในจังหวะ Breakout เครื่องมือ DI+ กลับชี้ขึ้นอีกครั้ง แนวต้านแรก 63.50 บาท และมีเป้าหมายระยะกลางที่ 68.00 บาท
TFEX Recommendation
SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50M15 ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,016 จุด เป็นเป้าหมายแรก และเป้าหมายถัดไปที่ 1,040 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่
990 จุด
Gold Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 18,400-18,800 บาท สำหรับสัญญา GFJ15 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน ล่าสุดราคาทองคำ COMEX ปรับลดลง US$7.3/ออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากความคืบหน้าเจรจาโครงการนิวเคลียระหว่างอิหร่านกับประเทศมหาอำนาจ
Oil Futures: แนะนำ “Trading” ในกรอบ 1,750-1,850 รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน ล่าสุดราคาน้ำมันปรับลดลงแรง US$2.15/bbl เนื่องจากความคืบคืบหน้าเจรจาโครงการนิวเคลียระหว่างอิหร่านกับประเทศมหาอำนาจ
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล
วิชนันท์ ธรรมบำรุง