- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 April 2015 15:23
- Hits: 1331
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET การรีบาวด์ยังเปราะบาง
SET View
แนวโน้มวันนี้เป็นกลาง มองกรอบเคลื่อนไหว 1,495 – 1,515 จุด
วันนี้ เราประเมินว่า SET จะแกว่งตัวออกข้างมีปัจจัยผสมผสาน ขาดปัจจัยบวกใหม่ที่มีน้ำหนัก โดยวานนี้แม้กลับขึ้นมาปิดเหนือ 1,500 จุด ได้อีกครั้งพร้อมกับนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับเป็นฝั่งซื้ออย่างมีนัยเป็นวันแรกราว 1 พันล้านบาท แต่มูลค่าการซื้อขายยังเบาบาง ลดลงมาที่ระดับ 3 หมื่นล้านบาท และ จบประเด็น Window dressing ไปแล้ว จึงมองว่าโมเมนตัมทางขาขึ้นยังไม่หนักแน่นพอและมีโอกาสน้อยที่จะผ่าน 1,515 จุด ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน
ปัจจัยที่มีผลกระทบวันนี้ 1) กลุ่มการบินอาจจะได้รับปัจจัยบวกหลังจากมีรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยที่เพิ่มขึ้น 30% YoY เป็น 2.7 ล้านคน รวมถึง ข่าวที่องค์การการบินพลเรือนของประเทศญี่ปุ่น (JCAB) ยอมงดมาตราการที่ไม่อนุญาตให้สายการบินเช่าเหมาลำของไทย ทำการบินเข้าญี่ปุ่นชั่วคราว โดยเลื่อนไปเป็นเดือน พ.ค. อย่างไรก็ดี เรามองว่ายังมีความไม่แน่นอนในอนาคตจากที่มีความเป็นไปได้สูงว่าหน่วยงานกำกับดูแลการบินของสหรัฐฯจะเข้ามาประเมินเรื่องความปลอดภัยทางการบินของไทย ซึ่งจะกระทบต่อกลุ่มการบินในวงกว้างขึ้น 2) ธปท.ประกาศตัวเลขหนี้ภาคครัวเรือนปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้สัดส่วนหนี้ภาคครัวเรือนต่อจีดีพีของ 4Q57 สูงขึ้นมาอยู่ที่ 85.9% เพิ่มจาก 84.7% ใน 3Q57 และ 82.3% ในช่วง 4Q56 เรามองเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มธนาคารฯ และ 3) ด้านเศรษฐกิจต่างประเทศ เมื่อวานนี้ยุโรปประกาศตัวเลขว่างงานออกมามีพัฒนาการดีขึ้นโดยเฉพาะเยอร์มันมีอัตราว่างงานเดือน มี.ค. ที่ 6.5% ทำจุดต่ำสุดใหม่ในประวัติการเป็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจยุโรปในปีนี้ เรามองเป็นปัจจัยเสริมกับยอดดัชนีการผลิตอุตสาหกรรมที่สดใสวานก่อนหนุนการฟื้นตัวของภาคส่งออกของไทยในระยะถัดไป
ในทางเทคนิค ตราบใดที่ SET ยังปิดเหนือ 1,515 จุดไม่ได้ การปรับฐานจะยังคงไม่เสร็จสิ้น
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน SET ยังไม่ยืนยันการจบรอบปรับฐาน ยังไม่มีหุ้นแนะชะลอการลงทุนรอเข้าซื้อเมื่อปิดเหนือ 1,515 จุด ได้ในหุ้นกลุ่มนำตลาด หากมีหุ้นอยู่แล้วแนะนำถือ กรณี SET หลุด 1,495 – 1,500 จุด จะเป็นสัญญาณขายอีกครั้ง
Top Daily Pick : SAPPE คาดกำไรโตเฉลี่ย 19% ใน 3 ปีข้างหน้าจากการรุกขยายตลาดต่างประเทศ ปีนี้อัตรากำไรจะได้อานิสงค์จากโรงงานใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง CK เร็วๆนี้มีโอกาสสูงในการรับงานโครงการใหม่แม่ฟ้าหลวง 2.7 พันล้านบาท และมีโอกาสเข้ารับงานจากบริษัทใหม่ที่รวมกันระหว่าง BMCL และ BECL
Technical Pick : S11 HMPRO UMS JAS IVL
Theme Play : กลุ่มนำตลาด Laggard Play (PTT PTTEP PTTGC TUF CPF CPALL CPN DTAC) กลุ่มสื่อสาร ได้ประโยชน์จากความชัดเจนของการประมูล 4G (ADVANC INTUCH)
รายงานวันนี้
Update : BCP (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 36 บาท) ราคาหุ้นปรับลด แต่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง
Strategy Talk
กลุ่มอาหาร..น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว : TUF เด่นที่สุด
ในทางกลยุทธ์เรามองหุ้นกลุ่มอาหารเริ่มมีความน่าสนใจอีกครั้ง (เช่นCPF TUF GFPT) จากปัจจัย 2 ประการ คือ 1) ในภาวะที่เศรษฐกิจและตลาดหุ้นมีแนวโน้มผันผวน
ในทางลบ การแบ่งสัดส่วนมาลงทุนในกลุ่มอาหารเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ TUF ที่ลักษณะธุรกิจมีความแข็งแกร่ง จากขนาดยักษ์ใหญ่ของบริษัทและลักษณะสินค้าปลากระป๋องสำหรับการบริโภคแบบประหยัด และ 2) ราคาหุ้นกลุ่มอาหารได้ปรับทำขาลงมาพักใหญ่ แต่มองว่ามี Downside จำกัดแล้ว จากมุมมองนักวิเคราะห์ที่ภาพรวมของกลุ่มอาหารจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 และ 1Q58 อาจเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดของปี
ทั้งนี้ในทางกลยุทธ์มองกลุ่มอาหารเหล่านี้เหมาะแก่การสะสมลงทุนระยะยาว โดยเรามอง TUF มีความน่าสนใจมากที่สุดและมีปัจจัยดังนี้
• TUF (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 24.30 บาท) เป็น Top pick หุ้นกลุ่มอาหาร คาด EPS เติบโตในปี 58 กว่า 30% YoY ปัจจุบัน TUF กำลังถูกกดดันจากข่าวแรงงานทาสบนเรือประมงที่ TUF กำลังเร่งชี้แจงความเข้าใจ เราคาดว่ามีผลกระทบน้อยต่อพื้นฐานบริษัทและมองเป็นโอกาสทยอยสะสมลงทุนระยะยาว นอกจากนี้ยังมี Upside จาก 1)ราคาทูน่าปัจจุบันกำลังทำขาลง อยู่จุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปีแล้ว หนุนส่วนเพิ่มของอัตรากำไรขั้นต้น และ 2) ดีลซื้อกิจการบัมเบิลบีหนุนการเติบโตแบบ inorganic และโอกาสเกิด synergy ของแหล่งจัดหาวัตถุดิบ
* ระยะสั้น TUF จะมีประเด็นการเพิ่มทุนไปซื้อกิจการซึ่งประกาศแล้วในเดือน ก.พ. โดยจะมีประชุมผู้ถือหุ้นวันศุกร์ที่ 3 เม.ย. นี้เพื่อกำหนดรายระเอียด เราประเมินผลไดลูทจากหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 10-20% มองราคาตลาดปัจจุบันสะท้อนไปแล้ว
• CPF (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 33.00 บาท) แม้ปรับลดมูลค่าที่เหมาะสมลงมาสะท้อนการฟื้นตัวช้าของธุรกิจก็ยังเหลือ Upside จากราคาตลาดปัจจุบัน เรามองว่าโอกาสฟื้นตัวของธุรกิจกุ้งจะมากขึ้นกว่าปีก่อนแต่จะยังฟื้นช้าจนช่วง 3Q58 อย่างไรก็ตามมองว่าเป็น Upside ที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ Downside ด้านภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาดเนื้อสัตว์ที่ราคาหุ้นในปรับตัวลงมาสะท้อนไปพอสมควรแล้ว แม้ปรับลดมูลค่าที่เหมาะสมลงมาสะท้อนการฟื้นตัวช้าของธุรกิจก็ยังเหลือ Upside จากราคาตลาดปัจจุบัน
* ระยะสั้น คาดว่า ปัจจัยอุปทานส่วนเกินจะยังกดดันผลประกอบการ 1Q58 อยู่ให้ค่อยๆทยอยซื้อสำหรับการลงทุนระยะยาว