- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 April 2015 15:22
- Hits: 1656
บล.ฟิลลิป : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นวันนี้: ขึ้นขาย-ลงซื้อในกรอบ
- วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงอีกครั้ง โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงานและHealth care ขณะราคาบ้านทั่วไปสหรัฐเดือนม.ค. ขยับขึ้น 4.6%
- การใช้มาตรา 44 แทนการยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกคาดว่าจะสามารถส่งผลบวกช่วงสั้นๆโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ขณะปัจจัยการเติบโตเศรษฐกิจยังอิงกับการใช้จ่ายภาครัฐมากกว่า อย่างไรก็ตาม น่าติดตามขอบเขตอำนาจในม. 44 โดยเบื้องต้นนายกฯ จะมีการใช้ในการเร่งรัดกระบวนการเร่งด่วนต่างๆเช่น การแก้ปัญหามาตรฐานของ ICAO และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ ถ้าออกมาในภาพดีคาดจะช่วยหนุนความเชื่อมั่นของภาคเอกชนได้
- วานนี้เห็นแรงซื้อเข้ามาของต่างชาติทั้งตลาดหุ้นและอนุพันธ์ คาดจะสามารถช่วยหนุน Sentiment ได้ต่อ อย่างไรก็ตาม ภาพภายนอกที่มีการย่อตัวลงมา ทำให้มุมมอง SET วันนี้เป็นเพียงการเคลื่อนไหวในกรอบ โดยมองกรอบวันนี้ 1490-1510,1520
- กลยุทธ์ระยะสั้นขึ้นขาย-ลงซื้อในกรอบ ขณะรอวอลุ่มเพื่อยืนยันการสร้างฐานในได้ก่อน
ปัจจัยน่าติดตาม
- 1 เม.ย. สหรัฐ: PMI ภาคอุตสาหกรรม (55.3) ยุโรป: PMI ภาคอุตสาหกรรม (51.9) จีน: PMI ภาคอุตสาหกรรม (49.7) ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (-0.45%)
- 2 เม.ย. สหรัฐ: ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการฯ (286K), ดุลการค้า ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
- 3 เม.ย. สหรัฐ:อัตราการว่างงาน (5.5%), การจ้างงานนอกภาคเกษตร (240K)
- หุ้นมีครบเกณฑ์ Cash Balance: SPPT
- หุ้นมีโอกาสครบเกณฑ์ Cash Balance: PLAT, TLUXE
*หากตัวแม่ติด Cash Balance ตัวลูกก็จะติดด้วยเช่นกัน
หุ้นกราฟสวย
-------------------------------------------------
หุ้น แนะนำ แนวรับ แนวต้าน Cut
IFEC Trading 12.00 12.80-13.00 11.80
AMATA Trading 16.00 16.60, 16.90 15.80
ITD Trading 7.05 7.50, 7.80 6.90
-------------------------------------------------
ตลาดอนุพันธ์:
กลยุทธ์: Long เดิมทำกำไรไปได้ รอShort S50M15 ใหม่ที่ 992 เป้าทำกำไร 6-8 จุด ตัดขาดทุนเหนือ 994
- ราคาน้ำมันโลกที่ร่วงลงกดดันหุ้นพลังงาน ส่วนตัวเลข เศรษฐกิสหรัฐที่สดใส กลับมาเป็นประเด็นให้นักลงทุนวิตกต่อทิศทางดอกเบี้ยจากเฟด ก่อนตัวเลขแรงงานจะออกมา
- การยกเลิกกฎอัยการศึก และใช้มาตรา 44 แทน มองเป็นบวกต่อตลาดสั้นๆ ขณะที่ภาพเศรษฐกิจไทยยังคงซบเซา จับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทยวันนี้มีแนวโน้มติดลบต่อเนื่อง
- ต่างชาติกลับมาซื้อทั้งในหุ้น ฟิวเจอร์ส และบอนด์ไทย แต่ยังต้องจับตาความต่อเนื่องของการเข้าซื้อ
- S50M15 ผันผวน ขึ้นก่อนได้แต่ไม่ยืนในกรอบ 980-994
- หุ้นถือต่อในพอร์ต(ราคาเป้าหมายระยะสั้น) EGCO (160), KKP (40), STEC (22.50)
- หุ้นแนะนำเพิ่ม (ราคาเป้าหมายระยะสั้น) AAV (5.30) ราคาหุ้นลงหนักกว่าสายการบินอื่น ขณะผลกระทบน้อยมากเพราะได้เปลี่ยนเที่ยวบินชาร์ตเตอร์ไฟลท์ที่จีนเป็นมีตารางบินแล้ว คาดปัญหาน่าจะได้รับการแก้ไขโดยเร็ว หลังนายกฯ สั่งการโดยใช้ ม. 44 ให้แล้วเสร็จใน 1 เดือน
- หุ้นที่ปรับออก
SET: ดีขึ้นเล็กน้อย
ดีขึ้นระดับหนึ่งหลังปิดเหนือ 1500 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สนับสนุน ส่วนกราฟราย 60 นาที Modi. Sto. เริ่มปรับค่าลงเมื่อเข้าเขต Overbought แนวต้านจำกัดเพียงในช่วง 1510-1515 จุด ควรทยอยขายและรอรับอีกครั้งที่ 1495-1490 จุด
>> ดัชนี 1,504.94 เปลี่ยนแปลง +9.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,904 ลบ.
SET50 Futures: ผันผวนในกรอบ 980-994 จุด
กลยุทธ์ กรอบการ เคลื่อนไหว
BANPUM15 Long เปิดไว้ที่ 29.25 บาท ถือรอทำกำไร30 บาท ตัดขาดทุนหากหลุด 29 บาท28.75 – 29.50 บาท
GFJ15 Short เปิดได้ที่ 18,370 แต่ตัดขาดทุนไปสถานะใหม่ Short ที่ 18,500 ตัดขาดทุนเหนือ 18,55018,200 – 18,550 บาท
BRJ15 Short เปิดได้ที่ 1,800 ถือต่อถ้ายังไม่ผ่าน 1,810 รอทำกำไร 1,7801,760 – 1,820 บาท
USDM15 Long ที่เปิดไว้ 32.60 รอทำกำไร 32.67ตัดขาดทุนหากหลุด 32.5732.54– 32.65 บาท