- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 31 March 2015 15:54
- Hits: 1209
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ยังแกว่งบวกต่อเนื่องได้ ดังนั้นซื้อลบแล้วเน้นถือต่อ
กลยุทธ์ : เรายังคาดว่า SET มีสิทธิอยู่ในช่วงรีบาวด์กลับขึ้นด้านบวกต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้ตลาดปรับลงมาแล้วถึง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยเฉพาะสัปดาห์ที่แล้วปรับลงต่อเนื่องทั้งสัปดาห์อีก ดังนั้นยังเลือกหุ้นซื้อช่วงลบแล้วเน้นถือเพื่อรอจังหวะขายทำกำไรในช่วงบวกต่อไปได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : PS, SEAFCO, ROBINS(short)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET เริ่มมีจังหวะแกว่งบวกได้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าช่วงท้ายจะมีแรงขายกดดันให้ย้อนลงมาปิดเป็นบวกเพียงเล็กน้อยก็ตาม โดยนักลงทุนต่างประเทศก็ยังมียอดซื้อสุทธิสลับเข้ามาให้เห็นด้วย ขณะที่เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศก็ยังสดใสต่อเนื่อง หลังตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นแรงขานรับข้อมูลดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย(pending home sales) เดือน ก.พ. ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีนส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วย ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET จะอยู่ในช่วงแกว่งตัวด้านบวกต่อเนื่องได้อีกพักใหญ่ เพื่อลุ้นดัชนีกลับขึ้นไปแกว่งตัวที่บริเวณจุดสูงสุดของเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนแถว 1540 จุด(+/-) ได้อีกครั้ง ดังนั้นหลังจากเลือกหุ้นซื้อไปแล้ว เราแนะนำให้เน้นเป็นถือไว้ก่อน เพื่อรอรอบรีบาวด์ขึ้นไปจึงจะมาพิจารณาหาจังหวะขายทำกำไรต่อไป
แนวรับ 1495-1490 , 1485-1483 จุด
แนวต้าน 1500-1506 , 1510-1515 จุด
Fund Flow วานนี้กลับมาไหลเข้าจากตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่เบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$95.5 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$45 ล้าน และไทย US$2.2 ล้าน ขณะที่ขายไต้หวัน US$49.1ล้าน อินโดนีเซีย US$13.6 ล้าน และเวียดนาม US$7.9 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะเบาบาง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) นายกฯประกาศใช้มาตรา 44 ประเดิมปรับโครงสร้างกรมการบินพลเรือน หลัง ICAO ตรวจสอบมาตรฐานกรมการบินพลเรือนของไทย พบว่าได้คะแนน 35.6% ต่ำที่สุดในอาเซียน ส่งผลให้ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน ประกาศระงับการเพิ่มเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำจากไทยไปประเทศดังกล่าว และหากลุกลามไปประเทศอื่นจะกระทบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่มีมูลค่าปีละ 1.3-1.4 ล้านล้านบาท หรือ 11% ของ GDP วันนี้ผู้ประกอบการสายการบินจะประชุมเพื่อหาทางแก้ปัญหา ขณะที่นายกฯประกาศใช้มาตรา 44 เพื่อลดขั้นตอนต่างๆในการปรับโครงสร้างกรมการบินพลเรือน ซึ่งก.คมนาคมคาดว่าอาจใช้เวลา 8 เดือน เราแนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มสายการบิน รวมถึง AOT ซึ่งกำลังเข้าสู่ low season พอดีใน 2Q-3Q
(+) กสทช.กำหนดวันประมูล 4G โดยคลื่น 1800 MHz จะประมูลวันที่ 11 พ.ย. นี้ ส่วนคลื่น 900 MHz จะประมูล 15 ธ.ค. 2015 แม้จะเลื่อนมาจากเดือน ส.ค. แต่ถือเป็นข่าวบวกเพราะมีความชัดเจน ทั้ง 2 คลื่นจะมี 2 ใบอนุญาต รวมเป็น 4 ใบอนุญาต ผู้เข้าประมูลนอกจาก ADVANC, DTAC, TRUE น่าจะมี JAS ด้วย แต่เราเชื่อว่า ADVANC จะประมูลชนะอย่างน้อย 1 ใบอนุญาตเพราะเป็นความจำเป็นต้องให้ได้เพื่อนำมาให้บริการ 4G เหมือนคู่แข่ง เรายังคงแนะนำ ADVANC เป็น Top pick ราคาเป้าหมาย 300 บาท
(0) SCB แนวโน้มกำไรสุทธิใน 1Q15 ไม่ดีนักเพราะมีการจ่ายชดเชยคดี สจล. และค่าใช้จ่ายจากเพลิงไหม้ ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง 9% Y-Y และ 2% Q-Q เหลือ 1.2 หมื่นล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าว กำไรปกติจะทรงตัว Y-Y แต่เพิ่มขึ้น 6% Q-Q เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ลง 2% จากการปรับลดเติบโตของสินเชื่อลงจาก 7% เป็น 5% ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 218 บาท จากเดิม 228 บาท คำแนะนำยังเป็นซื้อ แต่ในระยะสั้น KBANK และ TMB น่าสนใจมากกว่าในแง่ผลประกอบการ 1Q15
(-) CPF แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 1Q15 น่าจะขาดทุน 1.3 พันล้านบาท ขาดทุนติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 และแย่ลง 4Q14 ที่ขาดทุน 467 ล้านบาท จากราคาไก่เฉลี่ยที่ลดลง 7% Q-Q เหลือ 36.70 บาท/กก. ซึ่งต่ำกว่าจุดคุ้มทุน รวมถึงธุรกิจกุ้งที่ยังขาดทุนต่อเนื่องใกล้เคียงไตรมาสก่อน ส่วนธุรกิจหมูทำได้เพียงคุ้มทุน ขณะที่ธุรกิจต่างประเทศส่วนใหญ่ยังขาดทุนใกล้เคียงไตรมาสก่อน เพราะปัญหา Oversupply และค่าเงินผันผวน เราคาดว่าผลประกอบการเริ่มฟื้นใน 2Q15 โดยอาจขาดทุนน้อยลงหรือคุ้มทุน และมีกำไรดีขึ้นใน 3Q15 ซึ่งเป็น high season ประมาณการกำไรทั้งปีของเราที่ 8,503 ล้านบาท +44% Y-Y และราคาเป้าหมาย 31 บาท จึงอาจมี downside ยังคงแนะนำชะลอการลงทุนใน CPF จนกว่าจะเห็นการฟื้นตัวในช่วงปลาย 2Q15
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวพุ่งขึ้นกว่า 250 จุดขานรับตัวเลขยอด Pending Home Sales เดือน ก.พ. ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีรวมถึงข่าวเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในเอเชีย
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้แข็งแกร่งเช่นกันโดได้รับแรงหนุนจากการที่จีนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจ
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดตลาดในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสโดยได้รับแรงหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน
ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ปิดที่ 48.68 เหรียญ/บาร์เรล ขยับลง 0.19 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีคาดการณ์ว่าตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,185.30 ดอลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 15.40 เหรียญ/ออนซ์ จากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งรวมถึงแรงกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในอนาคต
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
31 มี.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.พ.
- สหรัฐ: S&P/CaseShiller 20-City Index (ม.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
- อิหร่าน: การจัดทำข้อตกลงให้อิหร่านหยุดผลิตอาวุธนิวเคลียร์
1 เม.ย. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.)
- จีน: Manufacturing PMI (มี.ค.)
- สหรัฐ: ISM Manufacturing (มี.ค.), การจ้างงานภาคเอกชน (มี.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (มี.ค.)
2 เม.ย. - ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์และอินเดีย ปิดทำการ
- ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มี.ค.)
- สหรัฐ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, Factory orders (มี.ค)
3 เม.ย. - วัน Good Friday ตลาดหุ้นที่ปิดทำการมีสหรัฐ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน สิงคโปร์
- จีน: HSBC China Composite PMI (มี.ค.)
6 เม.ย. - ตลาดหุ้นที่ปิดทำการมี จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และไทย
7 เม.ย. - ฮ่องกง: ตลาดหุ้นปิดทำการ
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research