- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 30 March 2015 15:57
- Hits: 951
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
SET ขาดปัจจัยบวก Rebound อย่างจำกัด
SET View
แนวโน้มวันนี้เป็นลบ มองกรอบเคลื่อนไหว 1,480 - 1,515 จุด
เรามองว่าการฟื้นตัวของ SET เมื่อวันศุกร์โดยสามารถกลับมาปิดลบเพียงเล็กน้อยเป็นเพียงแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุนรายย่อยและพอร์ตโบรกเกอร์เท่านั้นขณะที่ปริมาณซื้อขายเบาบางต่อเนื่องทั้งสัปดาห์สะท้อนให้เห็นว่า ความสนใจของนักลงทุนต่างชาติและสถาบันยังไม่มั่นใจ ทำให้ยังเป็นผู้ขายสุทธิตลอดสัปดาห์เช่นกัน เราจึงยังไม่เชื่อว่ากลุ่มที่มี Market Cap. ขนาดใหญ่ทั้งธนาคารและพลังงานจะรีบาวน์กลับในสัปดาห์นี้ โดยสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์จะเริ่มทำ Earnings Preview กลุ่มธนาคาร ซึ่งหากดูจากตัวเลขส่งออกของเดือน ก.พ. ที่หดตัว 6% ยอดสินเชื่อ 2M58 ที่ติดลบ -0.41% YoY รวมถึงการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ก็พอจะบอกได้คร่าวๆแล้วว่าใน 1Q58 กำไรของกลุ่มธนาคารน่าจะลดลงเมื่อเทียบกับ 4Q57 หรืออย่างดีที่สุดอาจจะเพียงแค่ทรงตัวเท่านั้น
เราประเมินว่า มีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนรายย่อยจะเริ่มกลับมาเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กที่ราคาปรับลงมามากๆในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังคงไม่มีแรงหนุนมากพอที่จะทำให้ SET กลับไปยืนเหนือระดับ 1,500 จุด ได้อย่างแข็งแกร่ง ดังนั้นการรีบาวน์ของ SET จะจำกัดและมีโอกาสพลิกกลับลงลึกกว่าจุดต่ำสุดเดิมในสัปดาห์ก่อนที่ 1,485 จุด ในการประเมินทางเทคนิค การเคลื่อนไหวของ SET ใต้เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันบริเวณ 1,530 จุดและเส้น 200 วันที่ 1,540 จุด ยังแสดงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน
กลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะสั้น หลีกเลี่ยงการเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ควรรอให้ SET ปรับลดลงสะท้อนความคาดหวังต่อการปรับลดประมาณการกำไรลงมาให้ใกล้เคียงความเป็นจริงก่อน เราประเมินว่า บริเวณ 1445 จุด เป็นระดับที่น่าจะสะสมหุ้นอีกครั้ง หรือประมาณเดือน พ.ค. ที่บริษัทจดทะเบียนประกาศงบ 1Q58
Top Daily Pick : MINT คาดธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวในปี 58 ตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหนุนผลประกอบการโตถึง 30% YoY ระยะสั้นจะรับผลดีจากการซื้อกิจการ Tivoli Hotel สยายปีก Global company / M ยอด SSSG ออกตัวดีในช่วง 2 เดือนแรกของปี เฉลี่ย +2.5% มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เพิ่มขึ้น 1% คงมุมมองการฟื้นตัวปีนี้ ขณะที่บริษัทยังคงแผนขยายสาขาในประเทศและมองหาแผน M&A เพื่อรุกต่างประเทศ
Technical Pick : BA EMC NMG TPIPL IFEC
Theme Play: กลุ่มนำตลาด Laggard Play (PTT PTTEP TUF CPF PTTGC DTAC CPALL CPN)
Strategy Talk
กลยุทธ์การลงทุนประจำเดือน เม.ย. 2558
แนวโน้มตลาดหุ้น เราประเมินว่า SET ยังมีความเสี่ยงต่อการปรับฐานตลอดทั้งเดือน เม.ย. โดยคาดกรอบ SET ไว้ที่ 1,460 – 1,560 จุด จากปัจจัยกดดันในประเทศเป็นหลักด้วย SET ณ ระดับปัจจุบันซื้อขายที่ 21x Trailing P/E ระดับแพงสุดในรอบ 5 ปี มีความเสี่ยงต่อการปรับพอร์ตของนักลงทุนระยะกลางหลัง หลังมีหุ้นทยอยขึ้น XD ราว 160 ตัวใน เดือน เม.ย. รวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคารมีโอกาสถูกปรับลดประมาณการกำไรลงมาในช่วงก่อน/หลังการประกาศงบ 1Q58 (เริ่มประกาศงบราวกลางเดือน เม.ย.) ผลจากการเติบโตของสินเชื่อค่อนข้างอ่อนแอ รวมถึงการฟื้นตัวของ GDP ช้ากว่าคาดและมีแนวโน้มถูกปรับลงในระยะต่อไป ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มที่อิงกับการเติบโตในประเทศ (Domestic Play) อาทิ ค้าปลีก โรงพยาบาล อาหารเครื่องดื่ม ก็มีความเสี่ยงต่อการถูกทบทวนประมาณการเช่นเดียวกัน ด้านภูมิภาคเชื่อว่าช่วงใกล้การประชุม FOMC ครั้งต่อไป 28-29 เม.ย. ความวิตกต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะกลับมากดดันความเชื่อมั่นตลาดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงของ SET จะมีโอกาสปรับขึ้นมาได้เป็นระยะๆจากข่าวการออกกองทุน Trigger Fund ของนักลงทุนสถาบัน รวมถึงความคืบหน้าการทำ QE ของ ECB
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม (1) 3 เม.ย. สหรัฐประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) และอัตราว่างงานเดือนมี.ค. หากดีกว่าเดือนก่อน (การจ้างงานสูงกว่า 2.75 แสนตำแหน่ง หรืออัตราว่างงานต่ำกว่า 5.5% จะสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐในเดือนมิ.ย.) จะเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อตลาด โดยผลการประชุม FOMC วันที่ 29 เม.ย.จะยืนยันมุมมองเฟดต่อการเปลี่ยนนโยบายอัตราดอกเบี้ย และจะมีนัยต่อทิศทางตลาด (2) กลางเดือน เริ่มประกาศงบ 1Q58 ของกลุ่มธนาคาร ระวังการขายทำกำไรหุ้นกลุ่มนี้ โดยเฉพาะหลังการขึ้น XD ของหุ้นธนาคารขนาดใหญ่อาจมีการขายทำกำไรของนักลงทุนระยะกลาง (3) ปลายเดือน การประกาศตัวเลขส่งออกไทยเดือนมี.ค. หากยังคงติดลบต่อเนื่อง จะส่งผลต่อคาดการณ์เชิงลบต่อการฟื้นตัวของ GDP และกำไรบริษัทจดทะเบียน (4) ราคาน้ำมันดิบ Brent หากยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่า US$60 ต่อบาร์เรล จะคงกดดันจิตวิทยาการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยความไม่สงบในเยเมนเป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาน้ำมันดิบเพียงระยะสั้น และ (5) ทิศทางกระแสเงินต่างชาติ หากยังอยู่ในฝั่งซื้อสุทธิ รวมถึงเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าขึ้นจะบ่งบอกเงินไหลเข้าจะสนับสนุนจิตวิทยาการลงทุนและหากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรยังคงปรับลดลงจะเป็นบวกต่อ SET
กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้
•สำหรับการลงทุนระยะสั้น ชะลอการลงทุน หรือหากรักความเสี่ยงหาจังหวะเก็งกำไรตามกรอบเทคนิค 1460-1560 จุด โดยเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันเป็นจุดพิจารณาเข้าลงทุน (ล่าสุดอยู่ที่ 1520 จุด แต่จะมีการปรับขึ้นลงตามดัชนีรายวัน) ปิดเหนือบริเวณนี้ได้จะเกิดสัญญาณซื้อระยะสั้น แนะนำ กลุ่มนำตลาด Laggard Play (PTT PTTEP TUF CPF PTTGC DTAC CPALL CPN)
•สำหรับการลงทุนระยะปานกลาง-ยาว เน้นการถือครองหุ้นต่อยังไม่สะสมหุ้นเพิ่ม เรามองจุดสะสมหุ้นบริเวณ 1445 จุดลงมา
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.28
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.76
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.81
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.42
หุ้นใน Smart Port ที่จะจ่ายปันผลได้แก่
09/04/2015 MAJOR 0.55 Baht per share
10/04/2015 BANPU 0.70 Baht
17/04/2015 BBL 4.50 Baht per share
17/04/2015 BIGC 2.62 Baht per share
27/04/2015 EFORL 0.01 Baht per share
29/04/2015 SRICHA 1.55 Baht per share
30/04/2015 M 1.00 Baht per share
30/04/2015 MODERN 0.30 Baht per share
30/04/2015 IVL 0.19 Baht per share
07/05/2015 KAMART 0.06 Baht per share
08/05/2015 NBC 0.02 Baht per share