- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 27 March 2015 17:56
- Hits: 1135
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"อ่อนตัวรอซื้อ 1480,1460...เด้งไม่ผ่าน 1520 ขายก่อน"
Top Picks-Fund March 2015 : Fundamental : AP, AOT, INTUCH, TOP Dark Horse: SEAFCO, VNG
Top Picks -Fund Today: -
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, MK, SPALI, AP, MODERN, TCAP, TISCO, TMT, BTSGIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : MAKRO 34%, QH 26%, VGI 25%, TRUE 22%, TCAP 14%, KTIS 13%
Technical View ภาพระยะสั้นเป็นลบ และยังไม่ทิ้งภาพ Sideways down
Support Resistance Stop loss
SET 1480,1460 1510-1520 ค่าลบ
SET50 980-970 1000,1020 ค่าลบ
Top Picks-Tech Today : BBL, PREB, DELTA
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยร่วงลงมาปิดต่ำกว่าระดับจิตวิทยา 1500 จุดแล้ว (เมื่อวานนี้ -16.39 จุดปิดที่ 1496.41 จุด) มูลค่าซื้อขายซบเซาที่ 3 หมื่นกว่าล้านบาท นักลงทุนต่างชาตินำขายสุทธิ 1.2 พันล้านบาท สถาบันในประเทศและรายย่อยซื้อสุทธิ นับว่า Sentiment ตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นยังอยู่ในแดนลบ และภาพตลาดยังคงเป็น Sideways down โดยปัจจัยที่เข้ามากดดันเพิ่มในระยะสั้น คือ 1) ภาคส่งออกของไทยที่อ่อนแอ และคาดว่าจะยังไม่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในระยะใกล้ๆ นี้ (ส่งออกก.พ.58 หดตัวมากกว่าคาดที่ -6.14%YoY), 2) ICAO ตรวจสอบว่าการกำกับดูแลสายการบินของไทยโดยบพ.มีข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย ทำให้ JCAB ของญี่ปุ่นประกาศไม่ให้เพิ่มเส้นทางการบิน ซึ่งเป็นข่าวลบต่ออุตสาหกรรมสายการบินของไทย (แต่ในส่วนน AAV ไม่มีเส้นทางบินไปญี่ปุ่น มีแต่ของไทยแอร์ เอเซีย เอ็กซ์แต่ไม่ใช่ของ AAV), 3) สถานการณ์ตึงเครียดในเยเมน ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น ซึ่งแม้ว่าจะเป็นบวกกับหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่ก็เป็นลบกับการอุปโภคบริโภคในยามเศรษฐกิจไม่ดี และกระทบกับหุ้นสายการบินในช่วงสั้น ซึ่งต้องติดตามใกล้ชิดว่าสถานการณ์จะลุกลามและรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นักลงทุนปรับ Position ของพอร์ตด้วยการโยกเงินลงทุนเข้าไปยังสัญญาทองคำที่มีความปลอดภัยสูงมากขึ้น ในเชิงกลยุทธ์ ยังเน้นการเลือกซื้อสะสมหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในจังหวะราคาอ่อนตัว
สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค เห็นว่าภาพตลาดโดยรวมยังเป็นลบ แม้จะมีรีบาวด์แต่ก็เป็นเด้งสั้นเพื่อลงต่อ ให้กรอบแนวต้านไว้ที่ 1510-1520 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1480, 1460 จุด การซื้อเน้นตามด้วยค่าบวกหรืออ่อนตัวแรง สำหรับการ SCAN หาหุ้นที่มีสัญญาณเทคนิคดีตามโปรแกรมเทรด พบว่ามี BBL ที่เข้ามาใหม่ ส่วนหุ้นใน List เดิมที่ตัดออกเป็น BLA, RATCH, MINT, MEGA, CBG, GLOBAL เพราะสัญญาณระยะสั้นเปลี่ยนเป็นทรงตัวหรือค่อนไปทางลบไปแล้ว
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
+ เยอรมนี : ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.ดีขึ้น ผลการสำรวจโดยบริษัทวิจัย GfK ระบุว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเยอรมนีเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้นแตะ 10.0 ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต.ค.44 โดยปรับขึ้นจาก 9.7 ในเดือนมี.ค. บ่งชี้ว่าชาวเยอรมนีมีมุมมองบวกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจของประเทศแม้ว่าเงินยูโรจะอ่อนค่าลงและยังมีปัญหาวิกฤตการเงินกรีซ
- เยเมน : สถานการณ์กดดันเพิ่มขึ้น โดยซาอุดิอาระเบียและสมาชิกกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ได้เปิดฉากโจมตีกองกำลังติดอาวุธฮูตี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต บาห์เรน และกาตาร์ ที่แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าจะร่วมมือในปฏิบัติการปกป้องเยเมนจากกลุ่มกบฏฮูตี ขณะที่สถานีข่าวอัล-อะราบิยาของซาอุดิอาระเบียรายงานว่า ปากีสถานและอียีปต์จะส่งเครื่องบินและเรือรบเพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ที่มีชื่อว่า "Firmness Storm"
+ สหรัฐ : ตัวเลขภาคแรงงานยังแข็งกร่ง โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์สิ้นสุด 21 มี.ค. ปรับตัวลง 9,000 ราย แตะ 282,000 ราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 290,000 ราย
+ สหรัฐ : PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น ทั้งนี้มาร์กิตเปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นสำหรับภาคบริการดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 58.6 ในเดือนมี.ค.58 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.57 และเพิ่มจาก 57.1 ในเดือนก.พ.58
-/ ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนตัวลงต่อแต่ไม่มาก โดยดัชนี DJIA -0.23%, ดัชนี Nasdaq -0.27% และดัชนี S&P500 -0.24% โดยปัจจัยที่เข้ามากดดัน คือ สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังซาอุฯและพันธมิตรโจมตีกองกำลังติดอาวุธฮูตี อย่างไรก็ตาม ตัวเลขภาคแรงงาน & บริการที่ออกมาแข็งแกร่งช่วยพยุงตลาดไว้
- สถานการณ์ตึงเครียดในเยเมนทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น เพราะกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเส้นทางลำเลียงน้ำมันดิบ เนื่องจากเยเมนมีชายแดนติดกับซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดในกลุ่มโอเปก…สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 2.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.43 ดอลลาร์/บาร์เรล และ BRENT พุ่งขึ้น 2.71 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
-/+ ราคาน้ำมันพุ่งเป็นลบกับหุ้นสายการบินแต่บวกกับกลุ่มพลังงาน หุ้นกลุ่มสายการบินอ่อนลงในช่วงสั้นหลังราคาน้ำมันดิบกลับมาเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันราคาหุ้นกลุ่มก๊าซและน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ในเยเมนอย่างใกล้ชิดต่อว่าจะรุนแรงและลุกลามมากขึ้นหรือไม่
+ สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเม.ย.เพิ่มขึ้น 7.8 ดอลลาร์ หรือ +0.65% ปิดที่ 1,204.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดในเยเมน ทำให้นักลงทุนเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
- ส่งออกก.พ.58 หดตัว 6.14%YoY เป็น 17,230 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.47%YoY เป็น 16,840 ดอลลาร์สหรัฐ ยังผลให้เกินดุลการค้า 390 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าไม่รวมสินค้าที่เป็นน้ำมันและทองคำ มูลค่าส่งออกก.พ.จะลดลง 2.4%YoY สำหรับ 2M58 มูลค่าส่งออกลดลง 4.82%YoY นำเข้าหดตัว 6.69%YoY ขาดดุลการค้า 66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกที่ยังขยายตัวเป็นสหรัฐ (+5.1%YoY), CLMV (+7%YoY) แต่ส่งออกไปตลาดหลักอื่นลดลง เช่น ญี่ปุ่น (-11.7%YoY), ยุโรป (-4.7%YoY), จีน ( -15.1%)
ความเห็น Retail Research : เราเห็นว่าการส่งออกในปีนี้จะยังซบเซา เนื่องจากกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าสำคัญอ่อนแอ เศรษฐกิจจีนเติบโตชะลอตัวลง ค่าเงินยุโรปและญี่ปุ่นอ่อนตัว และประเทศผู้ส่งออกน้ำมันมีรายได้น้อยลง นอกจากนั้นราคาสินค้าเกษตร เช่น ยางพารา และราคาสินค้าปิโตรเคมี & เคมีภัณฑ์ลดลงตามราคาน้ำมัน
DBS คาดการณ์ GDP Growth ของไทยไว้ที่ 3.6% โดยอิงกับสมมติฐานการเติบโตอของภาคส่งออกที่ 3% และเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมูลค่าส่งออกดู Optimistic แต่ถูกชดเชยด้วยมูลค่านำเข้าที่สูงทำให้เกินดุลบัญชีเดินสะพัดน้อยกว่าสมมติฐานของธปท.ที่ 16.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการเติบโตของการบริโภคภาคเอกชนใกล้เคียงกับที่ธปท.ประเมินไว้ที่ 3.4% การใช้จ่ายภาครัฐสูงกว่าที่ธปท.คาดแต่ได้รับการชดเชยด้วยสมมติฐานการลงทุนที่ต่ำกว่า โดยรวม DBS คงตัวเลขคาดการณ์ GDP ของไทยปีนี้ไว้ที่ 3.6% ก่อน ปัจจัยเสี่ยงต่อประมาณการ คือ การฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนในประเทศที่น้อยและล่าช้ากว่าคาด
- กลุ่มสายการบิน : ระยะสั้นถูกกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น และ ICAO ตรวจพบว่าการกำกับดูแลของบพ.มีข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย โดยราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นเพราะสถานการณ์ตึงเครียดในเยเมน ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบีย และมีข่าวว่าองค์กรการบินระหว่างประเทศ (ICAO) ตรวจสอบการกำกับดูแลสายการบินของไทยโดยกรมการบินพลเรือน (บพ.) ว่าพบข้อบกพร่องที่สำคัญ ทำให้องค์กรการบินพลเรือนญี่ปุ่น (JCAB) ประกาศไม่ให้สายการบินของไทยขยายหรือเปลี่ยนแปลงเส้นทางบิน หรือเปลี่ยนปลายทางลงของเครื่องบินที่บินไปญี่ปุ่น และจะเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม AAV ไม่มีเส้นทางการบินไปญี่ปุ่น โดยเส้นต่างประเทศของ AAV จะมีจีน, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม, เมียนมาร์, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, อินเดีย (ส่วนบริษัทที่กระทบจะเป็น AirAsiaX, THAI, NOK ที่ม่สามารถขอเพิ่มเที่ยวบินไปญี่ปุ่น) รวมทั้งคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะเป็นปัจจัยลบกระทบในระยะสั้นเท่านั้น โดยผลประกอบการปี 58 จะยังคงฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง การอ่อนตัวของราคาหุ้นเป็นจังหวะซื้อลงทุน AAV ให้ราคาพื้นฐาน 6.60 บาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]