WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

บทวิจัยตลาดทุนกรุงศรี (Morning Brief Package)

ภาวะตลาดหุ้นวานนี้:
      SET แม้จะสามารถรีบาวด์ได้ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคในช่วง 1 ชั่วโมงแรกของการซื้อขาย แต่เพราะความกังวลต่อเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ทำให้ยังคงมีแรงขายอย่างต่อเนื่องตลอดวัน โดยเฉพาะในช่วงบ่าย ทำให้ SET ปิดปรับตัวลดลงที่ 1520.01 จุด (-9.95 จุด) มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือเพียง 3.57 หมื่นล้านบาท หุ้นกลุ่มหลักส่วนใหญ่ปรับลดลง สื่อสาร -1.31%, ธนาคาร -0.53% วัสดุก่อสร้าง -0.35% และรับเหมา -4.03% มีเพียงกลุ่มพลังงาน และขนส่งที่ปิดบวกได้เล็กน้อย ด้านกระแสเงินทุน กองทุนในประเทศพลิกกลับเป็นผู้ซื้อสุทธิ 301 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 442 ล้านบาท

แนวโน้มวันนี้:
     ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนเพื่อสร้างฐาน และมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า หุ้นขนาดเล็กอ่อนแอกว่าหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ กล่าวคือ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (23 ก.พ.-23 มี.ค.) ดัชนี MAI ปรับตัวลดลงไปมากถึง 10.7% ขณะที่ SET และ SET100 ปรับตัวลดลงไปเพียง 4.6% และ 4.5% ตามลำดับ เราเชื่อว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความแพงของดัชนี MAI ที่ปัจจุบันซื้อขายบน Current P/E ratio สูงมากถึง 75x เทียบกับ SET ที่ซื้อขายบริเวณ 21x (อ้างอิงจากฐานข้อมูลของ SETSMART ทั้งคู่) ส่งผลให้เกิดแรงเทขายหุ้นใน MAI มากกว่า SET ดังนั้น ในเชิงกลยุทธ์ เราแนะนำเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ มากกว่าหุ้นขนาดเล็ก ในเชิงเทคนิคประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET วันนี้ 1515-1530

ปัจจัยที่มีผลกระทบ
      รองประธาน Fed คาดการขึ้นดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ และแนวโน้มในระยะถัดไปจะเป็นไปในลักษณะที่คาดเดาได้ยาก (-)

     นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งทั่วไปว่ามั่นใจจะมีการจัดการเลือกตั้งได้ไม่เกินกลางปี 59

     นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ชี้แจงต่อนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีว่ากรีซไม่สามารถชำระหนี้ได้ในช่วงนี้ หากไม่ได้รับเงินช่วยเหลือระยะสั้นจากทางสหภาพยุโรป เนื่องจากกรีซยังไม่สามารถเข้าถึงตลาดเงิน และต้องเผชิญกับข้อตกลงในการชำระหนี้ ตลอดจนข้อบังคับอันเข้มงวดจากธนาคารกลางยุโรป

   สถาบันสังคมศาสตร์จีน (CASS) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านนโยบายระดับสูงของรัฐบาลจีนคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสแรกของจีนจะขยายตัวราว 6.85% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการชะลอตัวของเม็ดเงินลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วงไตรมาสแรก รวมทั้งภาวะซบเซาลงของภาคอุตสาหกรรม

กลยุทธ์การลงทุน
เก็งกำไรหุ้นเด่นทางเทคนิคระยะสั้น ได้แก่ CPALL, ERW, HMPRO, SCB

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!