- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 20 March 2015 17:58
- Hits: 2227
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"ไม่ผ่าน 1550 จะอ่อนลงต่อ"
Top Picks-Fund March 2015 : Fundamental : AP, AOT, INTUCH, TOP Dark Horse: SEAFCO, VNG
Top Picks -Fund Today: AP
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, BTS, DCC, DELTA, DTAC, MK, SPALI, AP, MODERN, TCAP, TISCO, TMT, BTSGIF, CPNRF, TRUEIF
Shot Sell-Prev : BIGC 40%, BJC 21%, MAKRO 14%, IRPC 12%, PTT&AOT 11%
Technical View ภาพระยะสั้นยังเป็นบวกเล็กๆ
Support Resistance Stop loss
SET 1500,1480-60 1540-1550 ค่าลบ
SET50 980-970 1020-1030 หลุด 1000
Top Picks-Tech Today : KBANK, AP, INTUCH, SOLAR, BLA, MAJOR, OFM, SIMAT
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : KSL (ปรับจากซื้อเป็น ถือ)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้ปรับขึ้นในวันแต่ปิดทรงตัว โดยขึ้นไปสูงสุดรับกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วที่ 1544.69 จุด (+13.19 จุด) แต่นักลงทุนขายทำกำไรออกมาเพราะยังกังวลกับเศรษฐกิจที่ซบเซา และแรงกระเพื่อมทางการเมืองหลังศาลฯรับคำฟ้องอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ในคดีรับจำนำข้าว การปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มสื่อสารจากข่าวการเปิดประมูล 4G ช่วยได้แค่พยุงตลาด นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ รายย่อยนำขายสุทธิต่ออีก 2.5 พันล้านบาท พอร์ตบล.ขายสุทธิเล็กน้อย
วันนี้ติดตามการปรับตัวเลขคาดการณ์ GDP Growth ของธปท. ซึ่งการปรับลดลงเป็นเรื่องที่ตลาดคาดการณ์อยู่แล้ว แต่ที่จับตาคือสมมติฐานในแต่ละภาคส่วนว่ามีการเปลี่ยนแปลงใน Portion ไหนอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่
สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยใน 1Q-2Q58 ระดับ 3-4%YoY นั้นเราเชื่อว่ามีความเป็นไปได้เพราะฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่สิ่งสำคัญคื้อการเติบโต QoQ ว่าดีขึ้นและต่อเนื่องได้หรือไม่ สำหรับตัวเลขส่งออกเดือนก.พ.58 ก.พาณิชย์ระบุในเบื้องต้นว่าจะติดลบใกล้เคียงกับเดือนม.ค.58 ที่ -3.46%YoY) สิ่งที่เป็นบวก คือ รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันเม็ดเงินใช้จ่ายและลงทุนเข้าระบบให้เร็วขึ้น ส่วนปัจจัยภายนอก ยังติดตามตัวเลขเศรษฐกิจประเทศชั้นนำ, สถานการณ์อุปสงค์ & อุปทานน้ำมันดิบ และการปรับใช้นโยบายการเงิน & การคลังของประเทศต่างๆ ซึ่งความแตกต่างของนโยบายทำให้มีความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายและอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น กลยุทธ์การลงทุน : เลือกซื้อเป็นรายบริษัท สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น AP
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นมากสัญญาณเป็นบวกเล็กๆ แนวต้านระยะสั้น 1540-1550 จุด เน้นซื้อตามด้วยค่าบวกของดัชนีและราคาหุ้น ค่าลบดูไม่ดี โดยแนวรับของ SET อยู่ที่ 1500, 1480, 1460 จุด
สำหรับการ SCAN หาหุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ New high พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ใน List เป็น SIMAT, BLA, OFM ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ BEAUTY, SVI, SAT, TOP หุ้นที่หลุด List เป็น -ไม่มี- ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและอยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit เป็น DCC, INTUCH, WORK
Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ & ราคาโภคภัณฑ์
- สหรัฐ : ภาคการค้าต่างประเทศ 4Q57 อ่อนลง โดยยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดใน 4Q57 สูงที่สุดในรอบกว่า 2 ปี ทั้งนี้สหรัฐขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้น 14.7% เป็น 1.135 แสนล้านดอลลาร์ใน 4Q57 และขาดดุลฯเพิ่มขึ้นจาก 9.89 หมื่นล้านดอลลาร์ใน 3Q57 เนื่องจากส่งออกที่ชะลอตัวลง
+ สหรัฐ : ภาคแรงงานยังแข็งแกร่ง ล่าสุดมีรายงานว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์สิ้นสุด 14 มี.ค. เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย 1,000 ราย สู่ระดับ 291,000 ราย ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 292,000 ราย
สหรัฐ : ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ.ขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบ MoM ทาง Conference Board เปิดเผยว่าดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐ +0.2%MoM เป็น 121.4 หลัง +0.2%MoM และ +0.4%MoM ในเดือนม.ค.58 และธ.ค.57 ตามลำดับ
- ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนลง โดยดัชนี DJIA ปิดต่ำกว่า 18000 จุดอีกรอบ (ปิดที่ 17,959.03 จุด โดย -117.16 จุด หรือ -0.65%) ดัชนี S&P500 -10.23 จุด หรือ -0.49% แต่ดัชนี NASDAQ +9.55 จุด หรือ +0.19% ทั้งนี้ตลาดขาดปัจจัยกระตุ้นต่อหลังจากจบการประชุม FOMC เมื่อ 17-18 มี.ค.58 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.พ.-มี.ค.ค่อนข้าง Mixed และหุ้นพลังงานฉุดตลาดลงด้วย
- สัญญาน้ำมันดิบอ่อนตัวตามคาด...Supply สูงยังกดดัน โดย WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 70 เซนต์ ปิดที่ 43.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ร่วงลง 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.43 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยรายงานระดับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่สูงสุดในรอบ 80 ปีที่ 458.5 ล้านบาร์เรล (+9.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุด 13 มี.ค.58 จากสัปดาห์ก่อนหน้า) เป็นปัจจัยกดดัน นอกจากนั้น EIA รายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐในสัปดาห์ก่อนพุ่งขึ้นสู่ 9.419 ล้านบาร์เรล/วัน
+ สัญญาทองคำพุ่งขึ้นแรง โดยสัญญาในตลาด COMEX ส่งมอบเม.ย.เพิ่มขึ้น 17.7 ดอลลาร์ หรือ +1.54% ปิดที่ 1,169.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยหนุนหลัก คือ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐบางรายการชะลอลงในเดือนก.พ.-มี.ค.58 ประกอบกับราคาทองคำ Sideway อยู่ในระดับต่ำมาแล้วระยะหนึ่งแล้วจึงมีรีบาวด์ทางเทคนิคตามมา อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1200+/- ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
KTB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลง 0.10-0.125% โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 3 เดือนลง 0.10-0.125% (ขึ้นกับวงเงินฝาก) ส่วนเงินฝากประจำ 1-3 ปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ลดลง 0.125% มีผลตั้งแต่ 20 มี.ค.นี้ (จาก 6.75% เป็น 6.625%)
วันนี้ติดตามรายละเอียดของการปรับคาดการณ์ GDP Growth ไทยของธปท. โดยคาดว่าจะปรับลดประมาณการปี 58 ลงจากเดิมที่ 4% สำหรับสศค.คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 3.9% (จากช่วงคาดการณ์ 3.4-4.4%) หนุนโดยการใช้จ่ายภาครัฐที่จะเข้ามามากขึ้น, ภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวหลังสถานการณ์การเมืองคลี่คลาย
- ส่งออกเดือนก.พ.58 ติดลบต่อ จากตัวเลขเบื้องต้นของก.พาณิชย์ระบุว่าอัตราการติดลบใกล้เคียงกับเดือนม.ค.58 ที่ -3.46%YoY (ก.พาณิชย์จะมีรายงานตัวเลขส่งออกก.พ.เป็นทางการสัปดาห์หน้า) โดยการหดตัวมาจากเศรษฐกิจโลกฟื้นช้า, ราคาส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม & เคมีภัณฑ์ลดลง, ราคาส่งออกสินค้าเกษตรร่วงแรง โดยเฉพาะยางพารา และการถูกตัด GSP บางรายการ รวมถึงการปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าไม่ทันกับอุปสงค์ที่เปลี่ยนแปลงไป & การย้ายฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภท เช่น ตู้เย็น เป็นต้น
+/ รัฐบาลเร่งกระจายงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงเม.ย.-ก.ย.58 รวม 2.32 แสนล้านบาท โดยประกอบด้วย
1) จัดงบประมาณ 2.29 หมื่นล้านบาทเป็นเงินตกเบิกและขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ 4% ระยะเวลาดำเนินการช่วงธ.ค.57-ก.ย.58
2) งบสร้างรายได้ชุมชน ตำบลละ 1 ล้านบาท เป็นเงิน 3,173 ล้านบาท
3) เงินกู้ซ่อมถนนทั่วประเทศ 4 หมื่นล้านบาท
4) งบเพิ่มกองทุนหมู่บ้านระยะที่ 3 จำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท
5) งบปล่อยกู้เพิ่มสภาพคล่องกองทุนหมู่บ้าน 4 หมื่นล้านบาท
6) งบและเงินกู้ลงทุนน้ำ 1.08 ล้านบาท
รัฐบาลเชื่อว่าการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการใช้จ่ายและลงทุนภาครัฐ ผนวกกับการฟื้นตัวที่ดีของภาคท่องเที่ยว การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ค่อยๆ ดีขึ้นจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 4% ใน 2Q58 จาก 3% ใน 1Q58 ซึ่งเรามองว่ามีความเป็นไปได้เนื่องจากฐานของ GDP ในปี 57 ต่ำจึงเติบโตได้ระดับ 3-4% ใน 1H58
การเมือง : ศาลฎีการับฟ้องอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์คดีรับจำนำข้าว โดยนัดจำเลยเข้ารับฟังคำฟ้อง 19 พ.ค.58 และนัดตรวจพยานหลักฐาน & เข้าสู่กระบวนการไต่สวนคดี (กรณีจำเลยมาศาล) แต่ถ้าจำเลยไม่มาศาลในวันนัด 19 พ.ค.58 ศาลจะออกหมายจับและจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวจนกว่าจะได้ตัวจำเลยมาศาล หากจำเลยไม่มาศาลภายใน 1 เดือนนับตั้งแต่วันออกหมายจับ ให้ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยได้และถือว่าจำเลยได้รับฟังคำพิพากษาแล้ว (ที่มา : สรุปจากกรุงเทพธุรกิจ 20 มี.ค.58)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]