- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 18 March 2015 15:46
- Hits: 1192
บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ปรับฐานต่อ
แนวโน้มวันนี้เป็นลบ มองกรอบเคลื่อนไหว 1500 – 1520 จุด
SET มีโอกาสปรับตัวลงต่อ แม้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ราว 1.9 พันล้านบาท และกลุ่มผู้ให้บริการมือถือจะได้ปัจจัยบวกจากนายกรัฐมนตรีออกมายืนยันการประมูล 4G ได้ทันในปีนี้ แต่จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดในภาพรวม ไม่มาก เราเชื่อว่านักลงทุนบางส่วนจะชะลอการลงทุนหรือขายทำกำไรเพื่อปิดความเสี่ยง รอผลการประชุม FOMC คืนวันนี้ต่อท่าทีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟด โดยในถ้อยแถลงหลังการประชุมคืนนี้ หากตัดคำว่า “Patient” หรือ “อดทน” [ต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน] ออกไป จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดในวันพรุ่งนี้ เว้นแต่ SET จะปรับตัวลงแรงในวันนี้ลงมารับข่าวล่วงหน้า และในทางกลับกันหากคงคำดังกล่าวในถ้อยแถลง จะเป็นบวกระยะสั้นต่อตลาด อย่างไรก็ตามสำหรับวันนี้ เรามองว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะคงกดดัน SET หลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลงต่อเนื่องมาที่ US$52 ต่อบาร์เรล สะท้อนความวิตกต่ออุปทานเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสหรัฐ บ่งบอกว่าราคาน้ำมันดิบ Brent ณ ระดับ US$60 ลงมายังไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยต่อการปรับลดอุปทานน้ำมันดิบในสหรัฐ และอาจกดดันทิศทางราคาน้ำมันดิบไปอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่ความวิตกต่อปัจจัยในประเทศจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อใกล้วันแถลงข่าวรายงานนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศในวันศุกร์ที่ 20 นี้ที่ คาดจะมีการปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจลงมาอีก ทางเทคนิค SET ปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันบริเวณ 1540 จุด เป็นสัญญาณลบมีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับถัดไปบริเวณ 1480 จุด (gap ล่าง) โดยอาจมีการรีบาวน์ช่วงสั้นแถว 1500 จุด
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน หาก SET เปิดต่ำแถว 1500 จุดควรเป็นจังหวะซื้อ หรือเสี่ยงซื้อหากเกิด Panic Selling จน SET หลุด 1500 จุดระหว่างวันเพื่อไปรอขายช่วงรีบาวน์
Top Daily Pick: TUF (ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป และมูลค่าเพิ่มการควบรวมกิจการในสหรัฐที่จะมีความชัดเจนในปีนี้) /BANPU (ธุรกิจโรงไฟฟ้าหงสาจะผลักดันการเติบโตก้าวกระโดดในปีนี้ รวมถึงมี Upside จากการนำธุรกิจโรงไฟฟ้าเข้ามาจดทะเบียนในตลาดฯ)
Technical Pick : SMT PRECHA INTUCH MALEE ESSO
Theme Play: กลุ่มสื่อสาร (ADVANC INTUCH) ผลประกอบการฟื้นตัวต่อเนื่องปี 58 ปันผลจูงใจราว 5-6% ต่อปี /กลุ่มนำตลาด Laggard Play (PTT PTTEP TUF CPF PTTGC DTAC CPALL CPN) /กลุ่มธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) และพัฒนาที่อยู่อาศัย (AP) จิตวิทยาเชิงบวกจากการปรับลดดอกเบี้ยของกนง. /หุ้นแนะนำเดือนมี.ค. (AP BANPU ICHI SNC THCOM)
พอร์ตลงทุน
Trading BCP HEMRAJ ICHI M NBC SNC TUF
OUT: TCAP IN: TUF
Growth KAMART IVL AOT PTTEP EFORL
Dividend ADVANC BBL EGCO MODERN PTTGC RML SRICHA
Quant MAJOR HANA MODERN BECL EGCO BIGC RATCH
รายงานวันนี้
Comment : กลุ่มที่อยู่อาศัย (น้ำหนักการลงทุน “เท่าตลาด”) ยอดขายเดือน ก.พ.เติบโต 54% MoM
Strategy Talk
หุ้นที่น่าสะสมรอ SET ปรับฐานเสร็จ
SET Index ได้ปรับลดลงหลังจากทำจุดสูงสุดบริเวณ 1619 จุดเมื่อวันที่ 13 ก.พ. (ปิดที่ 1615 จุด) มาจนถึงวันที่ 16 มี.ค. (ปิดที่ 1515 จุด) เป็นเวลา 21 วันทำการ ได้ปรับลดลงมาแล้ว 100 จุด หรือ 6.2% วัดจากราคาปิด พบว่าหุ้นที่มีผลต่อ SET มากสุดได้แก่กลุ่มปตท. (25จุด) BAY และกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ (19 จุด) กลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่ (11 จุด) โดยหุ้นที่ปรับลดลดมากสุด 15 อันดับแรกได้แก่ BEC (-25%), BAY (-22%), JAS (-18%), PTT (-14%), PTTEP (-13%), TUF (-13%), CPF (-12%), BH (-10%), HMPRO (-10%), PTTGC (-9%), TRUE (-9%), DTAC (-9%), CPALL (-7%), CPN (-6%), AOT (-6%)
ในช่วงเวลาดังกล่าว นักลงทุนรายย่อยเป็นผู้ซื้อสุทธิเพียงกลุ่มเดียวราว 2.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ,พอร์ตบริษัทหลักทรัพย์ และสถาบัน เป็นผู้ขายสุทธิราว 1.1 หมื่นลบ., 1 หมื่นลบ. และ 7.5 พันลบ.ตามลำดับ ด้วยเม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติที่ซื้อสะสมเหลือในตลาดหุ้นไทยต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่พอร์ตบริษัทหลักทรัพย์มีเม็ดเงินสะสมในหุ้นไทยเพียง 1 ระดับหมื่นล้านบาท ส่วนการขายนักลงทุนสถาบันเป็นการปรับพอร์ตธรรมดาเพื่อเตรียมกลับมาซื้อคืน และเพื่อเตรียมออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในระยะถัดไป เราจึงมองว่าแรงขายสุทธิของนักลงทุนทั้ง 3 กลุ่มมีผลกดดัน SET Index เพียงชั่วคราวและจำกัด
พิจารณาเม็ดเงินจากนักลงทุนรายย่อยที่ยังคงห่างจากระดับสูงสุดเดือนก.พ.57 ราว 4.7 หมื่นล้านบาท และสภาพคล่องทางการเงินในระดับสูงสังเกตจากอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้รัฐบาลไทยอายุ 2 ปีแพงขึ้นโดยเปรียบเทียบกับตลาดหุ้น ล่าสุดปรับลงมาทดสอบระดับต่ำสุดรอบ 4 ปีที่ 1.93% รวมถึงสภาพคล่องทางการเงินโลกอยู่ในช่วงของการขยายตัวจากการทำ QE ของธนาคารกลางยุโรป และการทำ QQE ของญี่ปุ่น จะเป็นโอกาสที่เงินไหลเข้ามาในตลาดการเงินไทยอีกครั้งในระยะต่อไป และเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของ P/E ของ SET ได้ แม้ทางด้านผลประกอบการยังคงมีความเสี่ยงต่อการถูกปรับลดประมาณการ
สรุป เชิงกลยุทธ์หาก SET ปรับลงมาแถว 1480 จุด +/- ควรเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นที่มีผลต่อ SET ,ปรับลงแรงสุดเทียบกลุ่มและมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ซึ่งได้แก่ PTT PTTEP TUF CPF PTTGC DTAC CPALL CPN
หุ้นที่มีผลต่อ SET Index จากการปรับลงช่วง 13 ก.พ.-16 มี.ค.
Smart Port Note
Beta ของพอร์ตลงทุนแสดงถึงความเสี่ยงของหุ้นในพอร์ตเทียบกับ ตลาด SET หากค่า Beta สูงกว่าหนึ่งเท่า แสดงถึงความเสี่ยงของ พอร์ตลงทุนที่สูงกว่า SET
Growth Port มีค่า Beta เท่ากับ 1.21
Trading Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.75
Dividend Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.85
Quant Port มีค่า Beta เท่ากับ 0.42
หุ้นใน Smart Port ที่จะจ่ายปันผลได้แก่
26/03/2015 ADVANC 5.96 Baht per share
09/04/2015 MAJOR 0.55 Baht per share
09/04/2015 TCAP 1.00 Baht per share
17/04/2015 BBL 4.50 Baht per share
17/04/2015 BIGC 2.62 Baht per share
27/04/2015 EFORL 0.01 Baht per share
29/04/2015 SRICHA 1.55 Baht per share
30/04/2015 M 1.00 Baht per share
30/04/2015 MODERN 0.30 Baht per share
30/04/2015 IVL 0.19 Baht per share
07/05/2015 ICHI 0.50 Baht per share
07/05/2015 KAMART 0.06 Baht per share
08/05/2015 NBC 0.02 Baht per share
สิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง นักกลยุทธ์การลงทุน