- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 17 March 2015 16:21
- Hits: 1025
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ลงมาลึกเกินคาดแต่มีลุ้นโอกาสใกล้ดีดกลับ..น่าถือไว้ก่อน
กลยุทธ์ : SET ลงมาค่อนข้างลึกมากแล้ว ทำให้คาดว่ามีลุ้นโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นไปแกว่งบวกได้ในช่วงถัดไป โดยยังมีสิทธิกลับไปแกว่งตัวในกรอบ 1560-1580 จุดได้ตามคาด ดังนั้นซื้อแล้วยังเน้นถือไว้ก่อนดีกว่า
หุ้นเด่นทางเทคนิค : VGI(xd 1:1), AUCT, TRUE(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังปรับตัวลงรุนแรงต่อเนื่องอีกครั้ง หลังมีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มแบงก์ จากราคาน้ำมันโลกที่ยังร่วงลง และความกังวลเกี่ยวกับยอดสินเชื่อช่วงต้นปีที่ยังออกมาแย่ แต่ก็ยังมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาให้เห็น ขณะที่เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศสดใสขึ้นมาบ้าง หลังตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปกลับมาขยับบวกได้ดี เพราะได้รับแรงหนุนจากการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง และจากรายงานที่ว่า ECB ได้ซื้อพันธบัตรของรัฐบาลยูโรโซนกว่า 9 พันล้านยูโรแล้วในช่วงสัปดาห์แรกของโครงการ QE ทำให้ FSS คาดว่า SET มีโอกาสที่จะรีบาวด์กลับขึ้นไปแกว่งด้านบวกให้เห็นได้บ้าง หลังปรับตัวลงมาแล้วกว่า 100 จุดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยังต้องระวังการแกว่งตัวผันผวนของตลาดอยู่ เนื่องจากคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังต้องการรอดูถ้อยแถลงหลังการประชุมเฟดในวันพรุ่งนี้(18 มี.ค.) อีกครั้งว่าจะมีการพูดถึงระยะเวลาในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
แนวรับ 1515-1512 , 1508-1500 จุด
แนวต้าน 1520-1524 , 1530-1534 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ในปริมาณเบาบาง โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$253.8 ล้าน อินโดนีเซีย US$57.7 ล้าน เกาหลีใต้ US$11.8 ฟิลิปปินส์ US$9.2 ล้าน และเวียดนาม US$0.2 ล้าน แต่ซื้อไทย US$21.6 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย Flow น่าจะยังไหลออกแต่เบาบางเพื่อรอผลประชุม Fed 17-18 มี.ค. นี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ผลประชุม FOMC 17-18 มี.ค.ชี้ชะตาหุ้นไทยรีบาวนด์หรือลงต่อ สิ่งที่ต้องจับตาคือถ้อยแถลงของเฟดว่าจะตัดคำว่า “อดทนต่อการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย” ที่อยู่ในแถลงการณ์ 2 ครั้งก่อนออกไปหรือไม่ หากเฟดตัดวลีดังกล่าวออก ตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงราคาทองคำ น้ำมัน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ จะปรับลงอีกครั้งเพราะหมายถึงสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะเวลาอันใกล้คือเดือน มิ.ย. นี้มีสูงมาก
(-) ต่างชาติมองหุ้นไทย PE แพง พร้อมทั้ง long Put และ short Call ค่อนข้างมาก และขายตราสารหนี้ค่อนข้างมาก (ส่วนหนึ่งเพราะลดดอกเบี้ย) ล่าสุดคาดการณ์ EPS ของตลาดสิ้นปี 2015 อยู่ที่ 102.56 บาท (Bloomberg consensus) คิดเป็น Forward PE 14.8 เท่า แต่หาก EPS ถูกปรับลงต่ำกว่านี้ PE จะยิ่งแพงขึ้นทันที อย่างไรก็ตาม เราคาด EPS ปีนี้ที่ 101 บาทต่อหุ้น ใกล้เคียง Consensus และมองว่า PE 16 เท่า (SET = 1,616) ยังเป็นไปได้หาก Fund flow ไหลเข้า ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นหลังจาก Fed มีความชัดเจนเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง
(+) SPALI แม้บริษัทจะปรับนโยบายปันผลลงเป็น 35% จากเดิม 45% ของกำไรสุทธิในงบเฉพาะของบริษัท ซึ่งทำให้เราปรับลดคาดการณ์ปันผลปี 2015-16 ลงเป็น 0.96-0.97 บาท/หุ้น จากเดิมปีละ 1.10 บาท/หุ้น แต่ Yield ยังน่าสนใจ 4.8% ต่อปี เรายังคงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมาย 30 บาท สำหรับยอด Presales 2M15 ที่ทำได้เพียง 9% ของเป้าทั้งปี แต่เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นหลังเปิดโครงการคอนโดมากขึ้นใน 2Q-4Q15 ปัจจุบัน SPALI มี PE 7.5 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ 9-10 เท่า ถือว่าน่าสนใจ
(0) CSS มีความเป็นไปได้สูงที่จะขายสัญญา 10.2MW และที่จะขอเพิ่มอีก 44MW ของโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นให้ BANPU และหันมาลงทุนในโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในไทยแทนเพราะความเสี่ยงต่ำกว่า ขณะเดียวกันก็อาจเทคโอเวอร์กิจการผลิตสายไฟในไทยอีก 1 แห่ง ทั้งหมดนี้คาดว่าจะชัดเจนปลายมี.ค. - ต้นเม.ย. สำหรับกำไรใน 1Q15 อาจลดลงเล็กน้อยจาก 4Q14 ตามฤดูกาล แต่น่าจะเพิ่มเกือบ 300% Y-Y และโตต่อใน 2Q15 หลังรวมกิจการของ NWC เข้ามาต้น เม.ย. ราคาเป้าหมายของเรา 10.20 บาทจะลดลง 1 บาทหากขายโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น แต่ยังมี upside กว่า 20% จากราคาตลาด จึงยังแนะนำซื้อ
(-) KSL ปีนี้ไม่ใช่ปีของน้ำตาลและ KSL กำไรสุทธิ 1Q15 ที่ 396 ล้านบาท +86% Q-Q, -7% Y-Y ถือว่าอ่อนแอเพราะขายน้ำตาลได้ต่ำกว่าปกติ และราคาน้ำตาลร่วงหนักจาก 15 - 16 เซนต์ต่อปอนด์ในช่วงปลายปี 2014 เหลือเพียง 12 – 13 เซนต์ต่อปอนด์ในปัจจุบัน ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ มีความเป็นไปได้สูงที่กำไรสุทธิปี 2015 จะลดต่ำกว่าปีก่อน เรามีแนวโน้มปรับลดเป้าหมายลงจาก 5.40 บาท แนะนำหลีกเลี่ยงไปก่อน
(-) FSTE Index ปรับหุ้นที่คำนวณ มีผล 20 มี.ค. BAY ถูกนำออกจากการคำนวณใน Large cap. stock ทั้งนี้ ราคาหุ้น BAY ที่เคลื่อนไหวทุกๆ 1 บาทมีผลต่อ SET 0.79 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพลิกกลับมาปิดบวกได้กว่า 1% โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่หยุดการแข็งค่า อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาดูผลการประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้เช่นกันโดยนักลงทุนตอบรับเชิงบวกจากเม็ดเงิน QE ของ ECB ที่ไหลสู่ตลาดหุ้น
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดตลาดในแดนบวกได้เช่นกันตามตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวก
ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้างค่อนไปในทางอ่อนค่า ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 32.81-32.96 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดที่ 43.88 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง 0.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 6 ปี โดยตลาดยังกังวลต่ออุปทานที่ยังคงล้นตลาด
ราคาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ปิดที่ 1,153.20 ดอลาร์/ออนซ์ ขยับขึ้น 0.80 เหรียญ/ออนซ์ โดยยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆเนื่องจากจับตาดูผลการประชุม FOMC ในเรื่องของเงื่อนเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17 มี.ค. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ก.พ.)
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (มี.ค.), อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
16-20 มี.ค. - ไทย: ธนาคารพาณิชย์ประกาศยอดสินเชื่อเดือน ก.พ.
17-18 มี.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
18 มี.ค. - ไทย: บอร์ด Digital Economy ประชุม
19 มี.ค. - ไทย: ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ นัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ในคดุทุจริตจำนำข้าวหรือไม่
20 มี.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ก.พ.), ธปท.รายงานประมาณการเศรษฐกิจใหม่ (คาดปรับ GDPลงจากเดิมที่ 4%), BAY ถูกถอดจากดัชนี FTSE All index
23 มี.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ก.พ.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.พ.)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มี.ค.)
24 มี.ค. - ไทย: PLAT เริ่มเทรด (ราคา IPO 7.40 บาท)
- จีน: HSBC China Manufacturing PMI (มี.ค.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research