- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 16 March 2015 16:34
- Hits: 1434
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (9-13 มีนาคม 58)
SET สัปดาห์ที่ผ่านมามีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน โดยมีความผันผวนแรงในวันอังคารและพุธ จากแรงคาดหมายในดอกเบี้ยนโยบายไทย ภาพรวมยังไม่มีปัจจัยใหม่ภายในประเทศหนุน ตลาดต่างประเทศยังมีความกังวลประเด็นหนี้กรีซ สลับกับความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ ปิดสัปดาห์ดัชนี SET Index อยู่ที่ 1,541.55 จุด เปลี่ยนแปลงลดลง -26.74 จุด (-1.70%) จากสัปดาห์ก่อน
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
??(+) ความเชื่อมั่นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรปที่เพิ่มขึ้นหลังการเริ่มดำเนินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
??(-) ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในกรีซเพิ่มขึ้นหลังนายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวว่า เขาไม่พอใจต่อความคืบหน้าในการเจรจาประเด็นหนี้กรีซในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
??(-) ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่งเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ สะท้อน กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
??(-) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากความกังวลต่อปริมาณ Supply ที่เพิ่มขึ้น หลุดกรอบราคา 45 ดอลลาร์ลงมา ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปี
??(+/-) กระทรวงการคลังส่งสัญญาณการคงอัตราภาษี VAT ต่อจากการชะลอเก็บภาษีบ้าน-ที่ดินฯ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
??(+/-) การเริ่มต้นประชุม BOJ ในวันจันทร์ บนกำหนดการทั้งหมด 2 วัน
??(-) ความคืบหน้าการขอปรับเพดานหนี้ของสหรัฐ หลังรมว.คลังเรียกร้องให้มีการเพิ่มเพดานหนี้สินโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลจะยังคงมีเม็ดเงินในการใช้จ่าย โดยหนี้สินค้างชำระของรัฐบาลสหรัฐจะชนเพดานหนี้ในวันที่ 16 มี.ค.นี้
??(+/-) ผลการประชุม FOMC ในช่วงเช้าของวันพุธ คาดหมายความชัดเจนของประเด็นดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
??(-) การแถลงการณ์ของ BOT ในช่วงกลางสัปดาห์ ก่อนการแถลงการณ์เรื่องการปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจในประเทศวันที่ 20
??(+/-) การประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปในช่วงปลายสัปดาห์ ต่อทิศทางการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้ของกรีซ
ความคิดเห็น
??ประเมินภาพรวมดัชนีในสัปดาห์ได้รับแรงกดดันจากทั้งปัจจัยในและนอกประเทศ โดยในส่วนของประเด็นต่างประเทศ ความกังวลเรื่องของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่อาจปรับขึ้นเร็วกว่าคาด เป็นปัจจัยหลักที่มีผลกระทบจากเดิมที่มีการคาดหมายการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายไตรมาส 2 ซึ่งคาดหมายความชัดเจนมากขึ้นในการประชุม FOMC ครั้งนี้ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน
??ด้านในประเทศความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจยังคงมีอยู่ หลังการรายงานตัวเลขการส่งออกเดือนมกราคมติดลบ เช่นเดียวกับปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า สร้างความเสี่ยงขาลง ก่อนความชัดเจนเรื่องการปรับประมาณการเศรษฐกิจในช่วงปลายสัปดาห์
??กลยุทธ์การลงทุน ยังคงมองโอกาสในการทยอยลดสัดส่วนการลงทุนลงมากกว่าในระยะนี้ เน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายดอกเบี้ย และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
วิเคราะห์ SET ประจำสัปดาห์ 16-20 มี.ค. 58
SET Closed 1,541.55 High: 1,565.19 Low : 1,520.20
Resistant : 1,550 , 1,580 Support : 1,530, 1,520 หากหลุด 1,520 จะปรับตัวลงแรง
??กราฟ SET ปรับตัวลดลงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และพยายามพยุงตัวในแนวไหล่ขวานี้ให้ได้ อีกทั้งฟอร์มตัวเป็นกรอบสามเหลี่ยมคล้ายอดีต เพื่อสร้างสัญญาณซื้อให้เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยจะต้องวิ่งผ่าน 1550 จุดไปให้ได้ จึงจะเกิดสัญญาณการ rebound ที่ชัดเจน แต่หากยังอ่อนตัวหลุด 1530 จุด จำทำให้ไหล่ขวาไหลลงลึกไปยังแนว Drop Zone2 อย่างไรก็ตามเราคาดว่า SET ในสัปดาห์นี้ไม่น่าจะสร้าง low ต่ำกว่าสัปดาห์ก่อน เนื่องจาก RSI เข้าใกล้ Oversold แล้ว โอกาสการดีดตัวช่วงท้ายสัปดาห์มีความเป็นไปได้ และการเก็งกำไรทำได้ง่าย
กลยุทธ์
??1. เก็งกำไรตามกรอบ 1,530-1,550 จุด ลงซื้อ ขึ้นขาย หากผ่าน 1,550 จุด ให้ถือไปถึง 1,580 จุด
??2. หากปิดต่ำกว่า 1,520 จุด หุ้นอาจปรับตัวลงแรง ให้ถือหุ้นน้อยที่สุด
??3. เก็งกำไรได้ง่ายขึ้น และกำหนดจุด stop loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์
STEC ราคาปิด 24.00 บาท แนวต้าน 25.00 บาท แนวรับ 23.80 บาท
??* เก็งกำไรประเด็นการเตรียมเซ็นสัญญาโครงการงานโยธารถไฟฟ้าสายสีเขียวในเดือนมีนาคมเพิ่ม Backlog อีก 6,000 ล้านบาท
??* พร้อมเข้าประมูลงานภาครัฐทุกงานที่เตรียมจะเปิดทั้งรถไฟฟ้า Motorway รวมถึงสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2
??* ด้วยฐาน Backlog กว่า 59,000 ล้านบาท (รวมรถไฟฟ้าสายสีเขียว) หนุนรายได้ปี 58 โต 8%YoY
??กราฟ STEC อ่อนตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ 23 บาทและเกิดการ rebound อย่างชัดเจนทำให้เกิดสัญญาณซื้อใน RSI และจะดีดตัวกลับไปยังไหล่ขวาที่ 25 บาท หรือสูงกว่า
คำแนะนำ
??1. เข้าซื้อได้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ แบ่งขายที่ต้าน 25 บาท
??2. ถือหุ้นต่อไป แบ่งทำกำไรอีกครั้งเมื่อถึง 26 บาท
??3. หากราคาหุ้นอ่อนตัวสามารถเข้าสะสมได้ แต่หากหลุด 23 บาทให้ cut loss
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ
